รีวิว Suzuki Jimny 2018 วินเทจ SUV ไซส์มินิที่ทุกคนต่างรอคอย

1. แนะนำ Suzuki Jimny 2018

รีวิว Suzuki Jimny 2018 วินเทจ SUV ไซส์มินิที่หลายคนรอคอย

สืบสานตำนานความเป็น Subcompact SUV ได้เป็นอย่างดี ตรงยุคสมัยที่ความนิยมรถครอสโอเวอร์เกลื่อนเมือง ซึ่งยังหาเหตุผลโต้แย้งไม่ได้จริงๆ ว่าทำไม Suzuki จะไม่นำรถรุ่นนี้กลับมาขายอีกครั้งในประเทศไทย ด้วยเสียงเรียกร้องกระหึ่มอันเป็นที่สัมผัสถึงกันได้ว่าการมาใหม่อีกครั้งในโฉมนี้ของ Suzuki Jimny มันกระแทกกระทั้นเข้าโดนใจ จนทำให้หลายๆ คนอยากเป็นเจ้าของ หรือแม้อยากจะได้ขับมัน(อีกครั้ง) สำหรับบางคนแบบป้ายแดงเสียจริงๆ  

ดูเพิ่มเติม:  รถมินิ

โดย Suzuki Jimny 2018 เจ็นล่าสุดถูกเผยโฉมครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2018 ซึ่งห่างหายจากเจ็นก่อนหน้าที่มาเมื่อปี 1998 รวมแล้วกว่า 20 ปี ความรู้สึกประหนึ่งได้เจอเพื่อนเก่า น่าจะเกิดขึ้นสำหรับใครที่วัยเด็กเคยนั่งรถรุ่นนี้ เมื่อครั้งทำเคยทำตลาดอยู่ในไทย ในชื่อ “Suzuki Caribian” รวมอีกหลายชื่อต่างสถานที่ที่รถคันนี้ถูกใช้ไม่ว่าจะเป็น Suzuki Samurai ที่ญี่ปุ่น, Suzuki Katana ที่อินโดนีเซีย, Maruti Gypsy ที่อินเดีย, Holden Drover ที่ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่ถึงอย่างไรกับหลายชื่อที่ถูกเรียกขานนั้น ดั่งเดิมจริงๆ ของรถรุ่นนี้ก็เป็นที่รู้จักในนาม Suzuki Jimny โดยทั่วกัน 

Maruti Gypsy คืออีกหนึ่งชื่อของ Jimny ที่ใช้ทำตลาดในอินเดีย

Jimny นั้นถือเป็นหนึ่งรุ่นที่สร้างความสำเร็จให้กับค่าย Suzuki มากที่สุด เป็นรถรุ่นแรกที่ถูกขึ้นเรือนำไปขาย ณ ต่างแดน หลัง Suzuki ซื้อลิขสิทธิ์การออกแบบจากบริษัทรถเล็กๆ ในญี่ปุ่น (Hope Motor Company) เมื่อปี 1968 จนกลายมาเป็น Jimny เจ็นแรกที่ติดโลโก้ Suzuki ออกมาปี 1970 ภายใต้รหัสตัวถัง LJ10 แล้วต่อเนื่องมาที่เจ็นสองรหัส SJ30 ปี 1981 ซึ่งเจ็นนี้ได้ถูกนำเข้ามาประกอบและขายในประเทศไทยด้วยในชื่อ Caribian แต่ต่อมา ด้วยเงื่อนไขภาษีที่ทำให้ Caribian ต้องถูกคิดอัตราภาษีแพงแบบรถ PPV ต่อเติมจากกระบะ ส่งผลให้ตัวรถมีราคาขายแพงขึ้นและไม่ได้ถูกนำมาขายต่อในเจ็นต่อมา กับเจ็นที่ 3 รหัส JB23 ที่ออกมาในปี 1981 กับรูปแบบตัวถัง SUV 2 ประตูเช่นเดิมที่ใหม่สดกว่า ดูทันสมัยขึ้นด้วยเหลี่ยมสันที่จางลง แต่สัดส่วนมิติตัวรถยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ความเป็น Suzuki Jimny อยู่เช่นเดิม

Jimny ทั้ง 3 เจ็นก่อนที่จะมาเป็น Jimny 2018

ความขลังในมนต์เสน่ห์ของรถรุ่นนี้ด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ อารมณ์รถ SUV ขนาดเล็กแต่ซ่อนไว้ซึ่งพลังแบบขับสี่ กระทัดรัด บวกกับเวลาที่ผ่านพ้นมากับการสร้างบารมีความนิยมจากผู้ใช้ยากที่ใครจะเหมือนได้ และการกลับมาอีกครั้งในเจ็นที่สี่ล่าสุดนี้ มีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจบ้างที่ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และระบบความปลอดภัย รู้เลยว่าหลายคนน่าจะอยากรู้กันแล้ว สำหรับกับเบื้องลึกของ Suzuki Jimny 2018 คันนี้ 

สารพันปัญหากวนใจของคนใช้รถยนต์ Suzuki Swift รีวิวเยอะ ข้อเสียบาน!!!

2. รีวิวภายนอก Suzuki Jimny 2018

ใน Jimny โฉมใหม่นี้น่าจะพาให้อารมณ์เก่าของคนไทยที่อายุราว 30-50 ปี กลับมา เมื่อครั้งที่รุ่นนี้เคยมีขายในประเทศไทย เพราะเวอร์ชั่นล่าสุดเจ็นที่ 4 นี้ การออกแบบและดีไซน์ที่ภายนอกคลับคล้ายกับเจ็นที่สองเป็นอย่างมาก เหลี่ยมสันในตัวรถถูกดึงกลับมาใช้ในการออกแบบทั้งกระจัง ฝากระโปรง จวบจนไปจนถึงหน้าต่างหรือหลังคา หลีกหนีไปสิ้นซึ่งจากเวอร์ชั่นก่อนหน้า แต่เหมือนถูกต่อยอดจากเจ็นที่สอง SJ30 เมื่อเสียงตอบรับความทันสมัย ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ล้ำหน้า อาจไม่ใช่คำตอบของรถรุ่นนี้ แต่มันคือสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์มากกว่า เป็นโจทย์ที่รถแต่ละรุ่นควรหามันให้เจอ และดูเหมือนว่า Suzuki Jimny จะพบแล้วซึ่งความเป็นตัวเองในสไตล์นี้

 เจ็นที่ 4 นี่อาจจะคำตอบที่ลงตัวสุดของรถรุ่นนี้ Jimny

เมื่อมองกลับไปที่เจ็นสองที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลก ส่งออกไปขายกันมันมือ ภายใต้สโลแกน 'Tough & Neat’ “ถึกทนอย่างประณีตศิลป์” ที่เจ็นสอง SJ30 ของ Jimny พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นทั้งภายนอกและภายในจากเจ็นแรกสุด พร้อมรูปแบบตัวรถที่หลากหลายมีให้เลือก ทั้งแบบธรรมดามากับหลังคาแข็งพร้อม ที่สำหรับบางคนอาจจะดูน่าเบื่อเกินไป อยากมันส์ยิ่งกว่าก็ไม่ต้องมีประตูมันซะเลย ไม่เอาก็ได้ แค่แถบโลหะกั้นกันตกก็พออย่างในรหัส SJ30F หรือจะบ้ายิ่งกว่ากับทรงหลังคาผ้าใบที่กระจกบังลมด้านหน้าพับลงได้ รับลมแบบเต็มๆ ก็แนวไปอีกแบบกับรหัส SJ30FK ซึ่งน่าเสียดายที่โฉมใหม่ในเจ็นล่าสุด 2018 นี้ ความสนุกใน Jimny ไม่ได้ให้มาแบบเมื่อก่อน แต่ยังมีให้เลือกกับเวอร์ชั่น Jimny ธรรมดาและ Jimny Sierra ที่แตกต่างด้วยการเพิ่มโป่ง Wildbody บริเวณซุ้มล้อทั้งสี่มาให้เมื่อมองที่ภายนอก 

SJ30 คืออีกเวอร์ชั่นที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากของ Jimny

รีวิวข้อดีข้อเสีย All New Toyota CH-R 2018 คุ้มค่าไหมที่จะซื้อ !

3. รีวิวภายใน Suzuki Jimny 2018

ความเป็นเหลี่ยมสันยังคงถูกสะท้อนกลับมาที่การออกแบบของภายใน Suzuki Jimny 2018 ผสมกับอุปกรณ์ที่ทันยุคมากขึ้น โทนสีดำถูกใช้ในการตกแต่งเป็นหลัก เหมาะกับความเป็นรถขาลุยที่เรื่องสกปรกอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับดีไซน์สดใหม่ มาตรวัดขนาดใหญ่ ช่องแอร์ด้านข้างทรงกลม ตรงกลางสี่เหลี่ยมที่เป็นแบบดิจิตอลอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นส่วนภายในหลายชิ้นถูกนำมาใช้ร่วมกับของรุ่น Suzuki Swift ห้องโดยสารเน้นอารมณ์ของการใช้งานเป็นหลัก แม้จะไม่ได้รู้สึกถึงความพรีเมี่ยมอะไรมากนัก แต่สิ่งนั้นคงไม่ใช่วัตถุประสงค์ของคนที่จะซื้อรถรุ่นนี้อยู่แล้วว่าไหม เมื่อพรานเดินป่าจะต้องเลือกใส่นาฬิกา ความรู้หราคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับว่านาฬิกาเรือนนั้นมีเข็มทิศด้วยไหม เดินได้เที่ยงตรงแค่ไหน ไม่ต่างกับ Jimny ที่เน้นใช้งานง่ายๆ แบบลุยๆ สมบุกสมบันน่าจะถูกจริตของคนที่ชอบรถรุ่นนี้มากกว่า 

ภายในแม้ไม่ได้มากับความหรูหราสักเท่าไรนัก แต่ครบทุกการใช้งานที่เพียบพร้อม 

4. รีวิวเครื่องยนต์ Suzuki Jimny 2018

Suzuki Jimny 2018 จะมากับเครื่องยนต์สองขนาดดังต่อไปนี้ 

1. เครื่องยนต์เบนซิน 0.66L(Suzuki Jimny)
กับรหัส R06A เครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาดเพียงแค่ 0.66L แต่พ่วงเทอร์โบมาให้ด้วย จนกำลังม้าได้มาสูงสุดอยู่ที่ 64 แรงม้า กับแรงบิด 96 Nm พร้อมสองทางเลือกในระบบส่งกำลังทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 Speed และเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part-Time 

2. เครื่องยนต์เบนซิน 1.5L(Suzuki Jimny “Sierra”)
รหัส K15B แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5L ให้กำลังอยู่ที่ 102 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 130 Nm พร้อมจับคู่กับเกียร์สองทางเลือกเช่นกันกับเกียร์ธรรมดา 5 Speed และเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part-Time 

Suzuki Jimny และ Jimny Sierra มากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part-Time ทั้งคู่ 

ตัวโครงสร้างจะมาพร้อมกับแชสซีส์เหมือนในรถกระบะบ้านเรา แต่ช่วงล่างไม่ใช่ระบบแหนบซ้อนแต่เป็นช่วงล่างที่เรียกว่า “3-link rigid axel type” ทำงานร่วมกับคอยล์สปริง เพื่อความสมบุกสมบันในการลุย ขับไต่บนเส้นทางโขดหินที่ต้องใช้องศาเยอะๆ ก็ไม่หวั่น โดยขนาดเครื่องยนต์ที่คาดว่าจะถูกนำมาขายในประไทย น่าจะเป็นเวอร์ชั่น Suzuki Jimny “Sierra” กับเครื่องยนต์ไซส์ยอดนิยมในไทย 1.5L  

5. รีวิวระบบความปลอดภัย Suzuki Jimny 2018

Suzuki Jimny 2018 แม้จะมากับรูปทรงวินเทจ แต่อุปกรณ์ต่างๆ ในเรื่องความปลอดภัยที่ให้มาด้วยนั้นดีเด่นตามยุคตามสมัย ซึ่งระบบความปลอดภัยในการขับขี่ที่น่าสนใจและให้มาเป็นมาตรฐานเลยกับทุกรุ่นย่อยใน Suzuki Jimny 2018 นี้มีดังต่อไปนี้ 

• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Electrically Controlled Brake LSD Traction Control
• ระบบป้องกันรถไหล Hill Hold Control
• ระบบควบคุมความเร็ว ขณะวิ่งลงทางลาดชัน Hill Descent Control 
   

อีกทั้งทาง Suzuki ยังให้ถุงลมนิรภัยอัดแน่นมาถึง 6 ใบพร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัย Suzuki Safety Support ซึ่งประกอบไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกัน และลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมากมายเช่น 

• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Dual Camera Brake Support
• ระบบเตือนป้ายจราจร Sign Recognition Traffic (เตือนคนขับเมื่อเจอป้ายกำหนดความเร็ว)
   

เรื่องการจุของก็ไม่ใช่เรื่องยาก พร้อมลุยไปได้หมดครบทุกองศาการใช้ชีวิต 

อาจจะเรียกได้ว่าแม้รูปทรงจะย้อนยุค แต่เรื่องความปลอดภัยอาจจะดีกว่ารถบางรุ่นที่ขายในไทยเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทคโนโลยี Suzuki Safety Support ซึ่งยังไม่มีรถ Suzuki รุ่นขายในไทยรุ่นไหนได้ใช้มาก่อน 

6. สรุปรีวิว Suzuki Jimny 2018

ยังไม่มีการยืนยันช่วงเวลาที่รถรุ่นนี้จะถูกนำมาขายในไทย อาจต้องรออัพเดทข่าวกันต่อ แต่ราคาของ Suzuki Jimny 2018 ที่ตั้งขายไว้ในประเทศญี่ปุ่นนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 1,458,000 ถึง 1,841,400 เยนหรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 43x,xxx ถึง 55x,xxx บาทไทย สำหรับรุ่น Jimny 0.66L และราคา 1,760,400 ถึง 2,019,600 เยนหรือราว 52x,xxx ถึง 60x,xxx บาทไทย สำหรับ Jimny Sierra (ราคายังไม่รวมภาษีนำเข้าไทย) พร้อมสีตัวถังที่มีออกมาให้เลือกหลากหลายถึง 9 โทนสี และ 4 สีทูโทนซึ่งตกแต่งในส่วนของหลังคามาเป็นสีดำ

9 โทนสีพร้อมออพชั่นหลังคาดำมีมาให้เลือกด้วย

คนไทยอาจต้องรอกันสักหน่อยกับการนับถอยหลังวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของรถรุ่นนี้ Suzuki Jimny 2018 ในประเทศไทย ที่ไม่เพียงแต่แค่อ๊อพชั่นอุปกรณ์ต่างๆ เท่านั้นที่ต้องลุ้นว่าจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นขาย ณ ต่างแดนแค่ไหน แต่ที่สำคัญกว่า คือเรื่องของราคาค่าตัวสุทธิ ที่ถือเป็นเครื่องตัดสินความนิยมของรถแต่ละรุ่นได้เลย ว่าจะเห็นได้บ่อยตามท้องถนนเพราะขายดีหรือนานๆ จะเห็นขับผ่านเพราะความผิดพลาดในด้านการตลาด ตั้งตัวเลขราคามาไม่ถูกใจคนไทย คำตอบสุดท้ายอยู่ที่ตัวค่าย Suzuki เอง 

และอย่าลืมบอกกับเราหน่อยว่ากับ Suzuki Jimny 2018 อะไรที่ทำให้คุณชอบ และเพราะอะไร ที่ใต้คอมเม้น์ด้านล่างนี้ได้เลย 

ดูเพิ่มเติม:
รีวิวรถยนต์ Honda Jazz และข้อดี ข้อเสีย ที่ผู้ใช้บอกกล่าว !!
เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่