รีวิวรถยนต์ Honda Jazz และข้อดี ข้อเสีย ที่ผู้ใช้บอกกล่าว !!

ยังคงติดตลาดเสมอ สำหรับ Honda กับแนวคิด The Power of Dream  และด้วยความลงตัวในการขับขี่ทั้งในเมืองและการเดินทางไกล  ทำให้แฮตช์แบ็กอเนกประสงค์ 5 ประตูที่มีพร้อมทั้งรูปลักษณ์ที่เรียบเท่และสมรรถนะที่แรงยังคงครองตลาด จากรุ่นแรกสุดมาจนถึงรุ่นล่าสุด  วัดกันด้วยยอดขาย จึงทำให้ Jazz กลายเป็นโมเดลรถรุ่นสำคัญอีกหนึ่งรุ่นของ Honda จากการวางแผนการตลาดที่ดีเยี่ยม  ยังเกิดจากภาพลักษณ์ในความเป็น Honda และการบอกต่อถึงคุณภาพจากลูกค้าที่ชื่นชมในความดุดันของ Jazz ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีข่าวสำหรับการปรับเปลี่ยนโฉม Model Change เป็นที่แน่ชัดก็ตาม

รีวิว Honda Jazz

แต่อย่างที่บอกไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบเต็มร้อย  เพื่อการเข้าใจและรู้จัก Jazz อย่างเข้าถึง เราได้รวบรวมความคิดเห็นและแง่มุมจากผู้ใช้ Honda Jazz มานำเสนอทั้งข้อดี และ ข้อเสียเพื่อเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านและผู้ที่กำลังหาข้อมูล โดยเลือกความใหม่ของรุ่น HONDA JAZZ RS PLUS CVT ที่กำลังอยู่ในตลาดตอนนี้ ราคาสมน้ำสมเนื้ออยู่ที่ 754,000 บาท (ในรุ่นที่นำเสนอ)

HONDA JAZZ RS Plus

รีวิว 10 ลำดับรถยนต์ Eco Car ที่น่าซื้อมากที่สุดในปี 2018

HONDA JAZZ RS Plus ปรุงแต่งรถเล็กด้วยมาดสปอร์ตแฮตช์แบ็ก อุปกรณ์เฉพาะรุ่น RS รอบคัน ไล่จากกระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS เป็นกระจังหน้าของ Honda ยุคใหม่ที่พบเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น City/ Jazz / Civic / HR-V /  Accord / CR-V ไฟหน้าแบบใหม่ให้แสงโทนสีขาวที่สว่างมากกว่าไฟหน้าของ Jazz รุ่นก่อนปรับโฉม พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (DRL) Daytime Running Lights แบบ LED

HONDA JAZZ RS Plus

ตัวถังของ Jazz RS Plus มีความยาว 4,035 มิลลิเมตร มากกว่า Jazz รุ่นมาตรฐานที่ยาว 3,989 มิลลิเมตรอยู่เล็กน้อยความกว้างของตัวรถ 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,525 มิลลิเมตร ทำให้รู้สึกว่าห้องโดยสารโล่งปละโปร่งสบาย ส่วนความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 135 มิลลิเมตร นับว่ามีความสูงในระยะที่น้อยหากต้องการสมรรถนะเพื่อการสมบุกสมบันมากคงไม่เหมาะ ระยะห่างฐานล้อ วัดจากดุมล้อหน้าไปหลัง 2,530 มิลลิเมตร น้ำหนักรถทั้งคันอยู่ที่ 1,086 กิโลกรัม หนักกว่า Jazz รุ่น S M/T เกือบๆ 50 กิโลกรัม 

ภายนอก HONDA JAZZ RS Plus

สปอยเลอร์หน้าออกแบบมีลวดลายจากเคฟล่าคาร์บอนไฟสวยงามทันสมัย  พร้อมไฟตัดหมอก สปอยเลอร์หลังเฉพาะตัวพร้อมเพจพิเศษรุ่น RS ดูดีมีความสปอร์ตในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยครีบรีดอากาศใต้สปอยเลอร์  กระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วยัดยาง Bridgestone Turanza ไซส์ 185 /55R16 ไฟท้ายใช้หลอดไฟแบบผสมทั้งหลอดปกติและหลอด LED รูปทรงของไฟท้ายทรงยาวที่แปะขนานไปกับเสาท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ นอกจากสีภายนอกใหม่ สีส้มฟีนิกซ์ เฉพาะรุ่น RS

สปอยเลอร์หน้าออกแบบมีลวดลายจากเคฟล่าคาร์บอนไฟสวยงามทันสมัย

ภายในห้องโดยสารของ Jazz RS Plus กับการออกแบบเบาะผ้าสีดำตกแต่งเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม ภายในพื้นที่ห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง จากความสูงของหลังคาที่มากกว่าแฮตช์แบ็กทั่วไป  เบาะนั่งอัลตร้าซีท สามารถพับและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 4 รูปแบบการใช้งาน ข้อดีที่พบเห็นได้ชัดเจนคือพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อพับเบาะหลังราบลงกับพื้น

ภายในห้องโดยสารของ Jazz RS Plus

เบาะนั่งอัลตร้าซีท

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อมสำหรับคนรุ่นใหม่  มาตรวัดเรืองแสงในแบบ Honda Jazz ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ทั้งวัดรอบและวัดความเร็ว  ด้านขวาสุดเป็นจอแสดงผล MID Multi Information Display โดยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาดเล็กคอยแจ้งเตือนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย อุณหภูมิ ทริปมิเตอร์ A/B ระดับของเชื้อเพลิงที่เหลือในถัง 

มาตรวัดเรืองแสงในแบบ Honda  Jazz

ด้านการออกแบบพวงมาลัยทรงสามก้านหุ้มด้วยไวนิลดูไม่ค่อยลงตัวและไม่เหมาะกับรูปทรงสปอร์ตเท่าไหร่นัก  พวงมาลัยแนวมัลติฟังก์ชันติดตั้งสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์ปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติและสวิตช์รับและวางโทรศัพท์ไร้สายระบบบลูทูธ HondaLink Application รองรับ Smart Phone บางรุ่นโดยเฉพาะรุ่นใหม่ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหา

ด้านการออกแบบพวงมาลัยทรงสามก้านหุ้มด้วยไวนิล

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติสั่งงานด้วยการสัมผัสไปที่แผงควบคุม ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ถือว่าออฟชั่นที่ต้องมีขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบัน

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติสั่งงานด้วยการสัมผัสไปที่แผงควบคุม

ในส่วนระบบเครื่องเสียงมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว  รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน เป็นจอภาพส่วนกลางใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะสั่งงานด้วยการสัมผัสบนหน้าจอ รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI Audio Display หน้าจอแสดงผลในโหมดเครื่องเสียง Fuel Consumption Display แสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน Hands Free Telephone แสดงผลการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Siri Eye Free Mode รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri  สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป รองรับ HomdaLink Navigation Application พร้อม Multi-angle Rearview Camera กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ เพิ่มมุมมองในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา และมุมมองจากด้านบนด้วยเช่นกัน

รู้กันหรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว ระบบ Infotainment ที่รถแต่ละค่ายรถระดมใส่เข้ามาในรถยนต์นั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร ?

ระบบเครื่องเสียงมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว

เครื่องยนต์ของ Honda Jazz RS Plus เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร วางตามขวางขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าตามแบบอย่างของบรรพบุรุษ Jazz ทุกประการ เครื่องยนต์ตัวเล็กกะทัดรัดมีกำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบสายพานพูเลย์ CVT ใหม่ พัฒนาภายใต้ Earth Dreams Technology พร้อมล็อกอัพ ผู้ขับสามารถชิพเกียร์ได้ถึง 7 สปีด Honda Jazz รุ่นสูงสุดราคา 7.54 แสนบาท ยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เพื่อความสบายยามวิ่งออกทางไกลโล่งๆ พร้อมระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECO Assist ปุ่ม ECON เครื่องยนต์ของ Jazz ยังปรับจูนระบบจุดระเบิดมาเป็นอย่างดีเพื่อรองรับเชื้อเพลิงพลังงานทางเลือก E85 ราคาลิตรละ 19 บาท นับว่าตรงกับ Concept The Power of Dream ที่ทาง Honda ได้วางไว้

เครื่องยนต์ของ Honda Jazz RS Plus

สภาพการขับขี่และควบคุมสำหรับในเมือง เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี 117 แรงม้า บนแรงบิด 14.9 กิโลกรัม/เมตร ทำงานอย่างขยันเสถียรสุดๆในรอบต่ำที่ตำแหน่งเกียร์ S  ส่วนการพุ่งออกจากสัญญาณไฟจราจรด้วยความรวดเร็วเพราะมีขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบาแค่ 1 ตัน สะดวกเมื่อขับขี่ไปตาซอยที่คับแคบ  ซึ่งออกกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวและกระฉับกระเฉง

การขับขี่รถยนต์ Honda Jazz

ด้านเกียร์อัตโนมัติสายพานล็อกอัพ CVT 7 สปีดยังออกแบบมาเพื่อการทดกำลังที่รอบต่ำสำหรับการขับในเมืองที่มีรถราคับคั่ง รอบเครื่องที่ไม่สูงมากจนเกินไปในตำแหน่งเกียร์เดินหน้าปกติหรือเกียร์ D ส่งผลให้มันมีความประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ในเกณฑ์ดีไม่ว่าจะวิ่งในเมืองหรือทางไกล เนื่องจากช่วงทดสอบนั้นเท้าค่อนข้างหนักไปนิดเลยทำได้แค่ 11.7 กิโลเมตรต่อลิตร จุดเด่นของเจ้า Jazz ก็คือระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นกุดทำให้วงเลี้ยวแคบได้ใจ เมื่อต้องกลับรถ หรือถอยเข้า-ออก ในจุดที่คับแคบพวกมือใหม่ก็สามารถหมุนพวงมาลัยได้อย่างคล่อง ส่วนคุณภาพของการขับขี่แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเจ้า Jazz รุ่นก่อนปรับโฉม 

ด้านเกียร์อัตโนมัติสายพานล็อกอัพ CVT 7 สปีด

ถึงแม้ว่า Jazz RS เป็นรถเล็กที่มีรูปร่างทรงป้อม  แต่การยึดเกาะกับผิวถนนในขณะที่ใช้ความเร็วเดินทาง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงช่วงล่างและยางรวมถึงชุดบังคับเลี้ยวก็ยังให้ความมั่นใจได้ดี   เสียงลมและเสียงบดไปกับผิวถนนของยางจะเริ่มเข้ามาให้ได้ยินที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรเป็นต้นไป โดยจะเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น

Jazz RS สามารถวิ่งได้ดีทั้งความเร็วต่ำและพุ่งทะยานไปตามแรงเหยียบ เมื่อคุณต้องการใช้ความเร็วแบบรีบเร่ง ที่ย่านความเร็วปานกลางบนถนนเรียบๆ แทบจะลืมไปได้เลยว่ากำลังขับรถขนาดเล็กอยู่ อย่างไรก็ตามสมรรถนะโดยรวมก็ยังคล้ายกับรุ่น SV Plus รุ่นปี 2014 แทบจะยกไม่ออก จะมีการปรับปรุงโฉมและการออกแบบของแต่งในรุ่น RS ที่เพิ่มความทันสมัยและความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นเท่านั้นเอง

Honda SV Plus รุ่นปี 2014

หลายๆคนกำลังรอ Honda Jazz รุ่นปรับโฉมว่าจะออกมาในรูปแบบไหนและในปีไหน  แต่ในรุ่นนี้ยังคงมีการขับที่เหมือนกับรุ่นเดิมแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากอุปกรณ์ของรุ่น RS ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งต้องบอกก่อนว่า Jazz RS ไม่ใช่รถที่เร็วและแรงแบบแฮตช์แบ็กคู่แข่งที่กำลังแชร์ตลาดอย่าง Mazda 2 ดีเซล  แต่ Jazz RS เป็นรถ 5 ประตูแบบอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวันได้อย่างดีเยี่ยม  ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชีวิตเรียบง่ายแต่ก็พร้อมสำหรับการใช้งานในการเดินทางท่องเที่ยวแบบครอบครัวเล็ก หรือกับเพื่อนฝูงกลุ่มเล็กๆได้อย่างดีทีเดียว

Honda Jazz

ทราบรายละเอียดมาพอสมควรแล้ว เราขอแจกแจงข้อดีที่ผู้ขับขี่  รุ่น HONDA JAZZ RS PLUS CVT ชื่นชม และ ข้อเสียที่หลายๆคนอยากให้ปรับปรุงหรือมีใน Model หน้า ที่คาดว่าหลายๆคนกำลังรอคอยออกเป็นข้อ ๆ 

ข้อดีของ HONDA JAZZ RS PLUS CVT ที่หลายคนติดใจ:

• จัดอยู่ในประเภทประหยัดน้ำมันรองๆจากอีโค่คาร์อีกรุ่นหนึ่งที่ทำได้อย่างน่าประทับใจ
• อัตราสิ้นเปลือง อัตราเร่งที่ดี รองรับ E 20
• ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานและการให้บริการที่ดีเยี่ยม
• การพัฒนารูปทรงที่ออกแบบได้อย่างลงตัว และ ไม่ตกยุค
• ภายในกว้างขวางและโล่งสบาย กว่าคู่แข่งอย่าง  Mazda 2 อย่างเห็นได้ชัด
• พับเบาะได้เรียบและหลายได้หลายรูปแบบ สะดวกต่อการบรรทุกของในปริมาณที่มาก
• ราคาขายไม่ตก เป็นรถที่ตลาดมีความต้องการ ค่าบำรุงรักษาไม่แพง
• การออกแบบภายในเน้นการวางของ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่

รุ่น HONDA JAZZ RS PLUS CVT

ข้อเสียที่หลายๆคนพูดถึง:

• ช่วงล่างที่มีความยืดหยุ่นน้อยและแข็งกระด้าง โดยเฉพาะที่นั่งโดยสารด้านหลัง ขาดความนุ่มนวลในขณะขับขี่
• ด้วยความเรียบง่ายทำให้อุปกรณ์เสริมดูไม่ทันสมัยและน้อยกว่ารถรุ่นคู่แข่ง
• ช่วงเข้าโค้ง มีความแกว่ง ยังไม่เสถียรเท่าไหร่
• ปัญหาคอนโซลดัง ที่อาจจะเกิดจากการประกอบหรือภายใน

ข้อเสียของ Honda Jazz

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นหรือจุดอ่อนคงเป็นเรื่องปกติที่มีในทุกรุ่น และทุกค่าย  ทั้งนี้ทั้งนั้นการนำเสนอก็เพื่อช่วยในการตัดสินใจหรือศึกษาข้อมูลล่วงหน้า  และเรามารอลุ้นกับโฉมใหม่ของ  Honda Jazz รถที่พร้อมในการขับขี่ทั้งสมรรถนะและการออกแบบอย่างลงตัว  ว่ารุ่นใหม่ที่กำลังเฝ้ารอจะออกมาหน้าตาแบบไหนสมการรอคอยหรือไม่ !!!??

Honda Jazz รถที่พร้อมในการขับขี่

ดูเพิ่มเติม:
บอกเล่าประสบการณ์ใช้รถยนต์ Honda City
รีวิวรถยนต์ “Mitsubishi Mirage” จากเสียงผู้ใช้จริง ไกด์ไลน์เบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อ