ข้อควรรู้! วิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

ด้วยกระแสที่มาแรงของรถยนต์ไฟฟ้า EV และเสียงตอบรับที่ดี ทำให้หลาย ๆ คนอยากจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานสักคัน ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องดูจากปัจจัยอะไรบ้าง และต้องเตรียมความพร้อมเรื่องไหนบ้าง วิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร วันนี้เรามีข้อมูลมาบอก

ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้จุดประสงค์ของการใช้งาน

วิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องเริ่มจากจุดประสงค์ของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นขับไปรับ-ส่งลูก  ขับรถไปทำงาน ขับรถไปเรียน ขับในเมือง หรือขับทางไกล แต่ละคนจะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน สำหรับคนที่มักอยู่ในเมือง ไม่ค่อยไปไหนไกล ๆ ก็ควรใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า เพราะการชาร์จจะสะดวกมากขึ้น แต่ใครที่เดินทางไกลบ่อย ๆ ก็ไม่ควรใช้รถยนต์ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC Fastcharge ครอบคลุมเส้นทางสายหลักเกือบจะทั้งหมด แต่สำหรับเส้นทางสายรองยังไม่ค่อยมีจุดชาร์จเท่าที่ควร

ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้ประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้า

อันดับต่อมาในวิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เราต้องคำนึงนั่นก็คือ ประสิทธิภาพของตัวรถยนต์ไฟฟ้า ว่ามันตอบโจทย์ตามความต้องการของเรามากน้อยเพียงใด อาทิ ดูความจุแบตเตอรี่ ดูว่าระยะการชาร์จมีระยะทางเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ หากคุณเป็นคนที่ต้องการเดินทางไกลบ่อย ๆ ก็ควรเลือกรุ่นที่มีความจุแบตเตอร์รี่สูง และที่สำคัญต้องมีเครื่องชาร์จแบตเตอรี่เอาไว้เพื่อป้องกันแบตเสื่อม ต่อไปก็ดูเรื่องขนาดมอเตอร์ขับเคลื่อน เช่น มอเตอร์ขนาดใหญ่ก็เหมือนรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เพราะกำลังเยอะ แต่ก็กินไฟเยอะด้วยเช่นกัน มีข้อดีก็คือรถจะมีกำลังเร่งแซงสบาย ๆ ใช้ขึ้นหรือลงเขาได้อย่างง่ายดาย ส่วนมอเตอร์ขนาดเล็กก็มีข้อดีตรงที่ประหยัดพลังงานไฟฟ้า แต่มีข้อเสียก็คืออาจจะทำให้มอเตอร์ร้อนไว ส่วนเรื่องระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่เพราะการใช้งานรถตลอดเวลาอาจก่อให้เกิดความร้อนที่แบตเตอรี่รถในระดับหนึ่ง และความร้อนก็ะเพิ่มสูงขึ้นมากกับการชาร์จแบตเตอรี่แบบ DC Fast charge และรถยที่ระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ด้วยอากาศ ก็ย่อมเสียเปรียบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำอย่างมาก

ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้ออปชันที่ให้มา

ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อรถ EV ต่อไปนั่นคือ ต้องดูออปชันที่ให้มากับตัวรถยนต์ ซึ่งต้องดูว่าหสกจ่ายเงินเพิ่มแล้วคุ้มหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของรถเองว่าต้องการอะไรบ้าง เช่น ระบบ Auto Pilot , หลังคาซันรูฟ, ระบบ Adaptive Cruise Control, กล้องรอบคัน, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยต่าง ๆ เป็นต้น

ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้การรับประกันและบริการหลังการขาย

วิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ก็ต้องดูการรับประกันและบริการหลังการขาย สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงคือเรื่องของการรับประกันแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้า เพราะแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง

ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อรถ EV

ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้ดูเรื่องหัวชาร์จ

อีกหนึ่งวิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็คือการดูหัวชาร์จ ซึ่งต้องดูว่าตู้ชาร์จสาธารณะจะให้บริการหัวชาร์จแบบไหนบ้าง โดยปัจจุบันนี้ตู้ชาร์จสาธารณะจะมีหัวชาร์จแบตเตอรี่ให้เลือกอยู่ 3 แบบ ดังนี้

• DC CCS2 เป็นหัวชาร์จ DC ที่ได้รับการใช้งานมากที่สุดในโลก ที่ผลิตจากจีน ระเทศโซนยุโรป หัวชาร์จ DC CCS2 จะรองรับการจ่ายพลังงานไฟฟ้าด้วยกระแสไฟฟ้าสูงถึง 350 kW ในไทยตู้ชาร์จสาธารณะส่วนใหญ่จะรองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุดด็ประมาณ 50-120 kW
• AC Type 2 หัวชาร์จกระแสสลับแบบมาตรฐาน รถยนต์ไฟฟ้ากว่า 90% ทั่วโลกที่ใช้หัวชาร์จรองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงถึง 43 kW โดยตู้ชาร์จสาธารณะในไทยมักจะใช้กำลังการจ่ายไฟฟ้าอยู่ที่ 22 kW ซึ่งหัวชาร์จจะเป็นแบบ Wallcharge
• DC CHAdeMO หัวชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงแบบมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหัวชาร์จ DC ที่ได้ใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น หัวชาร์จประเภทนี้ได้รับความนิยมค่อนข้างน้อย เนื่องจากว่าตู้ชาร์จที่มีหัวชาร์จประเภทนี้ในเมืองไทยมีอยู่เพียง 2 แบรนด์เท่านั้น ก็คือ ตู้ชาร์จของ PTT EV และ PEA Volta และหัวชาร์จ CHAdeMO รองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงถึง 100 kW แต่ในไทย ตู้ชาร์จสาธารณะส่วนใหญ่จะรองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุดเพียง 50-60 kW เท่านั้น

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เราอยากแนะนำให้กับทุกท่าน ซึ่งมันไม่มีความแตกต่างจากการเลือกซื้อรถยนต์ทั่วไปเลย แต่อาจเพิ่มในเรื่องของความรู้ทางด้านไฟฟ้าและข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อรถ EV จะทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ดูเพิ่มเติม

เทคนิคการขับรถไฟฟ้าเวลาลงเขา ทำอย่างไรให้ปลอดภัย

สิ่งกวนใจเวลาขับรถที่คุณคาดไม่ถึง