การแจ้งเปลี่ยนสีรถ เอกสารอะไร & ขั้นตอน ต้องทำอย่างไรบ้าง

รถยนต์ เป็นยานพาหนะสำคัญที่ใช้สำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน แน่นอนว่าเมื่อผ่านไปนานหลายปีสีของรถยนต์ก็ย่อมซีดลงเป็นธรรมดา จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะนำรถยนต์ของตัวเองไปทำสีใหม่และถือโอกาสเปลี่ยนสีให้แตกต่างไปจากเดิม เพื่อสร้างความแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำเดิมอีกต่อไป แต่หลังจากการเปลี่ยนสีรถยนต์แล้วยังมีอีกหนึ่งขั้นตอน คือการแจ้งเปลี่ยนสีรถที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งถ้าหากว่าผู้ใดที่ไม่ทำตามขั้นตอนนี้จะมีความผิดทางกฎหมาย วันนี้เราจึงมาแนะนำการแจ้งเปลี่ยนสีรถต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอนอย่างไรมาฝากผู้อ่านทุกคน

การแจ้งเปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งภายในกี่วัน

สำหรับการ การ เปลี่ยน สี รถ ต้อง แจ้ง ต่อ นาย ทะเบียน ภายใน กี่ วัน ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ระบุเอาไว้ว่า สำหรับที่มีการจดทะเบียนแล้ว หากมีการเปลี่ยนสีรถจะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน นับตั้งแต่เปลี่ยนสีใหม่ หากเกินกำหนดจากนี้จะมีความผิดตามมาตรา 60 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องแจ้งต่อนายทะเบียน เช่น โรลบาร์ กันชน แร็คหลังคา สปอยเลอร์ เป็นต้น เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ส่งผลให้สภาพรถเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงถือว่าไม่เป็นการดัดแปลงสภาพรถที่เข้าข่ายในการขออนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก

ดูเพิ่มเติม: 

• เปลี่ยนสีรถ ราคา
• เปลี่ยนสีมอเตอร์ไซค์

การแจ้งเปลี่ยนสีรถ ใช้เอกสารอะไรบ้าง

สำหรับการแจ้งเปลี่ยนสีรถจะต้องมีการเตรียมเอกสารก่อนไปทำเรื่องที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งเอกสารในการแจ้งเปลี่ยนสีรถมีดังนี้

• ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• หลักฐานการเปลี่ยนสีรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าจ้างทำสีรถ

ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่าการแจ้งเปลี่ยนสีรถจะมีการเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ต่อมาเป็นขั้นตอนการดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถมีดังนี้

• ยื่นคำขอนำรถเข้ารับการตรวจสอบ พร้อมเอกสาร
• รอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ แล้วรับใบแจ้งผลการตรวจสอบรถ
• ชำระค่าธรรมเนียม
• รอรับเอกสารคืน

ค่าใช้จ่ายในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

เมื่อเจ้าของรถได้ทราบกันไปแล้วว่าการเปลี่ยนสีรถจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และขั้นตอนการดำเนินการเปลี่ยนสีรถจะต้องทำอย่างไรบ้าง สุดท้ายเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการแจ้งเปลี่ยนสีรถมีดังนี้

• ค่าธรรมเนียมแจ้ง เปลี่ยนสีรถ ราคา 50 บาท
• ค่าดำเนินการตรวจสภาพรถโดยกรมการขนส่งทางบก 50 บาท
• ค่าคำขอ 5 บาท

รถที่ติดสติกเกอร์ หรือวัสดุอื่นต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถหรือไม่ ?

สำหรับรถที่ไม่ได้ทำการเปลี่ยนสีรถ แต่แปะสติกเกอร์รอบคัน หรือแปะวัสดุอื่นๆ จะต้องเข้าดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถหรือไม่นั้น คำตอบคือหากรถของคุณติดสติกเกอร์รอบคันเกินกว่า 30% ของตัวรถทั้งหมด จะต้องเข้าแจ้งดำเนินการเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบกเช่นเดียวกัน แล้วเกิน 30% เป็นแบบไหน สามารถสังเกตได้ง่ายเลยคือการเปลี่ยนสีรถบริเวณกระโปรงหน้าหรือกระโปรงท้าย ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เกิน 30% อย่างแน่นอน หากทำสีในส่วนนี้ก็ต้องไปดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถรูปแบบเดียวกันกับด้านบน มิฉะนั้นอาจโดนตำรวจเรียกและเสียค่าปรับได้โดยไม่รู้ตัว

การจดแจ้งสีรถยนต์ตามกฎหมายมีอะไรบ้าง

การจดแจ้งสีรถตามกฎหมายที่ออกโดยกรมขนส่งทางบก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ได้ระบุเอาไว้ดังนี้

• หากตัวรถมีสีเดียวให้เลือกสีที่เป็นสีหลักเพียงสีเดียว โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเข้มของเฉดสีที่แตกต่างกัน
• กรณีที่ตัวรถมีหลายสี โดยแต่ละสีแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในบริเวณตัวถังที่เป็นส่วนสำคัญ เช่น ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย ประตู หรือหลังคา ให้กำหนดสีหลักเป็นสีของรถไม่เกิน 3 สี เช่น ตัวรถสีดำ หลังคาสีขาว ให้กำหนดเป็นสีดำ-ขาว
• กรณีที่ตัวรถมีมากกว่า 3 สี สามารถกำหนดสีหลักของตัวรถแล้วกำหนดสีหลักเอาไว้ 2 สี เช่น สีหลักของรถเป็นสีดำกับขาว ในสมุดคู่มือจดทะเบียนรถให้ระบุเป็น สีดำ-ขาว-หลายสี เป็นต้น

สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่ได้นำรถยนต์ของตัวเองไปทำการเปลี่ยนสีมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปทำเรื่องแจ้งการเปลี่ยนสีต่อนายทะเบียน ต้องรีบไปดำเนินการให้เรียบร้อยได้ที่กรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศไทย เพื่อทำเรื่องให้ถูกต้องตามกฎหมายและขับใช้รถในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายใจ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorot.com/

ดูเพิ่มเติม:

• รวม 5 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีในปี 2022
• รวมฮิต Top มอเตอร์ไซค์ BMW ที่สาวกไม่ควรพลาด !