4 อุปกรณ์ในรถยนต์ที่คุณสามารถดูแลเองได้ โดยที่ไม่ต้องเรียกช่างให้เสียเวลา

Pawin Paireerak 13 ก.ค. 2561 | 16 View | ดูแลและรักษารถยนต์

ถ้าคุณต้องเสียเงินทุกปี หรือมากกว่านั้น สำหรับการดูแลรักษารถยนต์ เรามองว่าอาจจะดูสิ้นเปลืองเกินไป เพราะการซ่อมแซม หรือดูแลรักษาบางอย่างเราสามารถจัดการได้ด้วยมือของตัวเอง เพียงแต่ว่าอาจจะมีเลอะเทอะบ้างเล็กน้อยเท่านั้นเอง

การตรวจสอบสภาพรถยนต์ และซ่อมแซม โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะต้องพึ่งพาช่างเครื่องยนต์ เพราะคนเหล่านี้ จะมีประสบการณ์ที่สูง และสามารถที่จะจัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่นั่นอาจจะแลกมาด้วยจำนวนของเงินที่คุณอาจจะต้องเสียไปด้วย ซึ่งในยุคนี้อะไรที่ประหยัดได้ เราก็อยากจะให้คุณได้ประหยัด โดยการนำเอาเทคนิคการดูแลเครื่องยนต์ และส่วนต่างๆ ภายในรถยนต์มาฝาก ซึ่งแน่นอนว่า น่าจะช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณได้ไม่น้อยทีเดียว

ดูเพิ่มเติม: แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี

เปลี่ยนไส้กรองอากาศของรถยนต์

เปลี่ยนไส้กรองอากาศของรถยนต์

สำหรับการเปลี่ยนไส้กรองอากาศนั้น หากเป็นระยะเวลาปกติ อาจจะต้องมีการเปลี่ยนทุกปี หรืออย่างน้อย เมื่อครบรอบ 12,000 ไมล์ ซึ่งหากไปเข้าศูนย์อาจจะต้องเสียเงินหลายบาท แต่รู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว การเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์นั้น ทำได้ง่ายๆ ดังนี้

ขั้นตอนแรก เริ่มจากการตามหาเจ้าไส้กรองอากาศนี้ก่อนเลยว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ไส้กรองอากาศของรถยนต์ มักจะอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ ในลักษณะที่มีกล่องเหล็กห่อหุ้มอยู่ เมื่อหาเจอแล้วก็ทำการเปิดกล่องนั้นได้เลย แต่หากเปิดกระโปรงรถแล้วไม่เจอ อาจจะต้องหาคู่มือของรถคุณมาดูแล้วล่ะว่า อะไรอยู่ตรงไหน

ขั้นตอนที่ 2 เปิดฝาครอบ แล้วนำเอาใส้กรองอากาศที่ซ็อมาใหม่ ไปเทียบขนาด ว่าเข้ากันได้หรือไม่ หากเข้ากันได้ ให้นำเอาไส้กรองอากาศอันเก่าออก แล้วติดตั้งใหม่เข้าไป ก็เป็นอันเรียบร้อย

และอย่าลืมปิดฝาคอรบด้วยล่ะ ซึ่งการติดตั้งไส้กรองอากาศใหม่นั้น จะเห็นได้ว่าใช้เวลาแค่ไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้นเอง

ดูเพิ่มเติม: ค่าต่อใบขับขี่ 2565 เท่าไร

ติดตั้งที่ปัดน้ำฝนด้วยตนเอง

ติดตั้งที่ปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝนเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายมาก นอกจากตามร้านประดับยนต์แล้ว แม้กระทั่งตามห้างสรพสินค้าก็ยังมีขาย ซึ่งหากคุณต้องการที่จะเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนด้วยตนเอง ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากค่อยๆ ยกเอาที่ปัดน้ำฝนของเก่าขั้นมาจากหน้ารถ อย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ แกะออก หากแกะไมได้ แนะนำว่าให้มองหาคู่มือ ซึ่งโดยมาตรฐานแล้ว ที่ปัดน้ำฝนสามารถอดออกได้อย่างง่ายดาย โดยการค่อยๆ ดันออกจากแท็บที่รองรับ

ขั้นตอนที่ 2 นำที่ปัดน้ำฝนอันใหม่มาประกอบเข้ากับฐาน ซึ่งแน่นอนว่า เวลาที่เราซื้อที่ปัดน้ำฝนอันใหม่ มักจะได้คู่มือสำหรับการติดตั้งมาด้วย ทำให้ไม่ยากเกินความสามารถหากจะลองทำเอง

การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

สำหรับหลายคน การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณตัดสินใจนำรถเข้าศูนย์ แต่ความจริงแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับของเรา ดังนี้:

ขณะเปลี่ยนน้ำมัน เครื่องรถควรจะเย็น เพื่อความปลอดภัยจากความร้อนจำนวนมาก การรอให้รถของคุณเย็นลงก่อน แล้วค่อยทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเก่าออก และใส่น้ำมันเครื่องเข้าไปใหม่ จึงเป็นเรื่องทีจำเป็นอย่างมาก

อันที่จริงแล้ว การเปลี่ยนน้ำมันมันเครื่องคุณสามารถที่จะทำได้เองที่บ้าน แต่ต้องมีอุปกรณ์ที่ปลอดภัย เพราะส่วนใหญ่แล้ว ส่วนที่ทำการบรรจุน้ำมันเครื่องของรถยนต์มักจะอยู่ที่ใต้ท้องรถ นั่นหมายความว่า คุณอาจจะต้องลอดเข้าไป หรือใช้อุปกรณ์ในการยกตัวรถให้สูง ซึ่งหากไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าว ก็อาจจะลำบากหน่อย แต่เมื่อเทียบกับการที่จะต้องพารถเข้าศูนย์ทุก 5,000 ไมล์ หรือราวๆ 4 ครั้งต่อปี ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเลยก็ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่า

การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์

โดยปกติรถยนต์หลายๆ รุ่นจะมีรูปแบบของแบตเตอรี่ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งที่เป็นที่นิยม ก็คือ แบตเตอรี่แบบเปียก และแบบแห้ง ซึ่งแต่ละแบบก็ดูแลรักษาแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการที่จะดูแลแบตเตอรี่ก่อนออกเดินทาง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิด ก็สามารถทำได้ ดังนี้:

- ถอดขั้วแบตเตอรี่ โดยการใช้คีม หรือไขควงปากแบนมาช่วยในการไข จุดนี้สำคัญมากสำหรับความปลอดภัยของคุณ ดังนั้น ต้องดูให้แน่ใจเสมอว่า ขั้วลบถูกถอดออกไปแล้วอย่างแน่นอน

- ทำความสะอาด การทำความสะอาดเป็นขั้นตอนที่ต้องทำ และถึงแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่บอกว่าให้ผลเหมือนกัน แต่เพื่อสุขภาพที่ดีของรถคุณ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ถูกออกแบบมาสำหรับรถยนต์ และแบตเตอรี่จะดีกว่า

- ล้าง และเช็ดให้สะอาด จากนั้น ก็มาจบขั้นตอนด้วยการใส่ขั้วแบตเตอรี่กลับเข้าไปให้เหมือนเดิม ก็เป็นอันว่าเสร็จ ในส่วนของการเติมน้ำกลั่น หรือการเพิ่มประจุแบตเตอรี่นั้น ควรให้เป็นหน้าที่ของช่างที่มีความเชี่ยวชาญจะดีกว่า

สรุป

ถ้าคุณต้องเสียเงินอย่างน้อยทุก 3 เดือนเป็นอย่างมาก ในการดูแลรักษารถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเครื่องจักรภายในให้สมบูรณ์อยู่เสมอ อาจจะต้องใช้เงินจำนวนมาก จนหลายคนมองว่าสิ้นเปลือง แต่การจะไม่ดูแลเลย ก็อาจจะทำให้รถของคุณชำรุดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้น เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณประหยัดได้บ้าง อย่างน้อยก็ในระหว่างที่รอนำรถเข้าไปตรวจสภาพอย่างเป็นทางการ

ดูเพิ่มเติม: