สตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์นอนในรถ ทำไมเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

Darika Jainukul 25 มิ.ย. 2561 | 45 View | ขับรถอย่างปลอดภัย

สร้างกระแสในสื่อโซเชียลกันมาอย่างต่อเนื่องสำหรับกรณีที่ผู้ขับขี่รถยนต์เสียชีวิตอันมีสาเหตุมาจากการสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศภายในรถแล้วนอนหลับไปจนเสียชีวิต วันนี้เราจะมาชี้แจงสาเหตุที่ทำให้เกิดกรณีนี้กันครับ

จอดรถแล้วนอนหลับทำไมถึงตาย

ถือเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนมองข้ามทั้งที่เป็นภัยร้ายใกล้ตัวโดยผู้ขับขี่ส่วนใหญ่มักมีความคิดว่าการจอดรถนอนพร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดแอร์เอาไว้จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ แต่เมื่อมองหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วกลับพบว่าการนอนหลับพร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์รถไปด้วยจะทำให้ร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งถูกปล่อยออกมาในคราวละไม่มากจากท่อไอเสียโดยที่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารไม่รู้ตัว ในบางครั้งเมื่อร่างกายอ่อนเพลียมากอาจส่งผลทำให้หลับลึกยาวนานหลายชั่วโมง หรือ อาจมีโอกาสขาดอากาศหายใจจนส่งผลให้เสียชีวิตได้

ทั้งนี้อันตรายจากการนอนหลับภายในรถพร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์ไปด้วยนั้นถือเป็นภัยร้ายใกล้ตัวที่ผู้ใช้รถหลายรายมองข้าม เนื่องจากการสตาร์ทรถพร้อมเปิดแอร์ทิ้งไว้ และ ปิดกระจกทั้ง 4 ด้านจนสนิทนั้น จะทำให้ระบบปรับอากาศภายในรถยนต์ที่อาศัยการดูดอากาศจากภายนอกตัวรถเข้ามาหมุนเวียนภายในรถต้องดูดควันจากท่อไอเสียรถยนต์ที่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผสมอยู่ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย หรือ หากจอดอยู่ในบริเวณที่มีการจราจรแออัดอาจได้รับก๊าซที่เป็นพิษต่อร่างกายจากภายนอกตัวรถได้อีกเช่นกัน

ง่วงจอดงีบพร้อมลดกระจกลงเล็กน้อย

ในกรณีนี้หากผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารได้รับการสูดเอาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปเป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ปวดศีรษะ เซื่องซึม เคลิบเคลิ้ม สั่นกระตุก และ หายใจติดขัด รวมถึงหมดสติโดยที่ไม่รู้ตัว พร้อมทั้งยังมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางจนอาจส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตได้ในเวลาต่อมา โดยรวมแล้วการที่ผู้ขับขี่หลับอยู่ในขณะที่สตาร์ทเครื่องยนต์รถทิ้งไว้อาจสูดดมก๊าซพิษเหล่านี้เข้าไปด้วยได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้นหากเหนื่อยล้าจากการขับขี่ควรจอดรถตามจุดแวะพักที่มีความปลอดภัยพร้อมดับเครื่องยนต์ และ ลดกระจกลงเล็กน้อยแล้วนอนหลับพักเอาแรงสักงีบจะทำให้สามารถช่วยป้องกันการเสียชีวิตอันมีผลสืบเนื่องมาจากการสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วนอนหลับได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้ร่างกายสดชื่นกะปรี้กะเปร่าขึ้นอีกด้วย