สตาร์ทรถให้ถูกวิธี ควรทำอย่างไร

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ดูเหมือนว่าหลายคนที่มีรถจะมองข้ามและไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่าที่ควรนั่นก็คือ วิธี สตาร์ท รถ เรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นเหล่านักขับรถมือใหม่หรือนักขับมือเก่าที่ต้องพบเทคโนโลยีในการ สตาร์ท เครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน โดยเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้มีวิธีการ สตาร์ท รถ มากมายหลายแบบ เช่น การสตาร์ทรถยนต์ด้วยรีโมต การ ส ตา ร์ รถ ผ่านแอปพลิเคชัน หรือการสตาร์ตโดยที่ไม่ต้องใช้กุญแจ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการสตาร์ตรถยนต์ในรูปแบบไหนก็ตาม ผู้ขับขี่ควรจะต้องปฏิบัติตัวและระมัดระวังก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ ดังนี้

ตรวจสอบตำแหน่งเกียร์

สำหรับรถยนต์ที่ใช้เกียร์ธรรมดาอยู่ ก่อนสตาร์ตรถยนต์ทุกครั้งควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าในขณะนี้เกียร์รถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง หรือ N หรือยัง เพราะถ้าหากว่าเกียร์ยังค้างอยู่ในตำแหน่งอื่น เมื่อผู้ขับขี่เผลอสตาร์ตรถทันทีโดยที่ไม่ได้เช็กก็จะทำให้รถเกิดการกระตุกและพุ่งไปข้างหน้าหรือข้างหลังได้ ซึ่งสร้างความตกใจและเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ตรวจเช็กสวิตช์ไฟเตือน

ก่อนที่จะทำการสตาร์ตรถควรตรวจเช็กตำแหน่งของสวิตช์ไฟ ON และสัญญาณไฟแจ้งเตือนระบบต่าง ๆ ให้เรียบร้อยว่ามีสัญญาณไฟดวงไหนมีความผิดปกติหรือไม่ หากเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้การกดปุ่มเพื่อสตาร์ตให้กด 1 ครั้ง แต่ยังไม่ต้องเหยียบเบรกและเช็กดูไฟแจ้งเตือนต่าง ๆ เมื่อพบว่าทุกอย่างยังปกติดีก็สามารถสตาร์ตรถได้ในทันที

ผู้ขับควรนั่งอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมสตาร์ตรถ

ก่อนที่ผู้ขับขี่จะทำการสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อขับรถออกไป ควรตรวจเช็กความเรียบร้อยของตัวเองและควรอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมสตาร์ตมากที่สุด ซึ่งไม่ควรปรับอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในรถขณะที่รถกำลังเคลื่อนอยู่ ควรที่จะปรับและเช็กความเรียบร้อยให้พร้อมก่อนเคลื่อนรถออกไป รวมทั้งการสตาร์ตเครื่องยนต์ก่อนแล้วค่อยเช็กความพร้อมภายในรถก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ปล่อยมลพิษในอากาศเพิ่มอีกด้วย

เหยียบเบรกทุกครั้ง

สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่โดยเฉพาะเกียร์อัตโนมัติที่มีปุ่มให้กดเพื่อสตาร์ต โดยปกติแล้วผู้ขับขี่จะต้องเหยียบเบรกทุกครั้งพร้อมกับกดปุ่มสตาร์ตอยู่แล้ว รวมไปถึงรถยนต์ในรุ่นเก่าที่ใช้เกียร์แบบธรรมดาหรือแบบระบบเดิม ผู้ขับขี่ก็จะต้องเหยียบเบรกพร้อมสตาร์ตรถเช่นเดียวกัน

ปิดระบบไฟทั้งหมด

สำหรับบางคนชอบเปิดระบบไฟส่องสว่างหรือเปิดแอร์ทิ้งไว้ แต่สิ่งที่ต้องปรับความคิดใหม่นั่นก็คือการปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดก่อนสตาร์ต เพื่อทำให้แบตเตอรี่สามารถมีกำลังจ่ายไฟเต็มที่ในการสตาร์ตเครื่องยนต์ เนื่องจากการสตาร์ตเครื่องยนต์แต่ละครั้งใช้กำลังไฟที่มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในรถยนต์รุ่นเก่าที่ยังเป็นแบบระบบเดิมที่จะต้องคอยปิดแอร์ทุกครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการดึงไฟในขณะที่สตาร์ตรถ หากพบว่าไฟในแบตเตอรี่ต่ำจนไม่เพียงพอต่อการสตาร์ตรถก็ควรที่จะปิดแอร์ให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนดับเครื่องยนต์

แต่สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ หรือปิดแอร์ก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ เนื่องจากเทคโนโลยีในรถยนต์รุ่นใหม่มีระบบคอยควบคุมไม่ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน ถึงแม้ว่าจะเปิดแอร์ค้างไว้และเมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ระบบไฟทุกอย่างก็จะกลับมาทำงานปกติได้เอง

อย่างไรก็ตาม ก่อนการสตาร์ตรถหรือดับเครื่องยนต์ ผู้ขับขี่ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เปิดแอร์ทิ้งไว้ เปิดไฟทิ้งไว้ หรือเสียบสายชาร์จโทรศัพท์ค้างไว้ เพราะการทำพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้แบตเตอรี่ของตัวรถหมดจนนำไปสู่กำลังไฟที่ไม่เพียงพอต่อการสตาร์ตรถได้ รวมถึงยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทุกครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อเป็นวิธีการช่วยถนอมเครื่องและสร้างความปลอดภัยทุกครั้งก่อนออกเดินทาง

ดูเพิ่มเติม

น้ำมันหยดใต้ท้องรถ สัญญาณบ่งบอกถึงสาเหตุใด

ไขข้อข้องใจ ติดแบล็คลิสต์ออกรถได้ไหม