แผงหน้าปัดรถยนต์ กับสัญญาณน่ารู้

บนแผงหน้าปัดรถยนต์ จะมีสัญลักษณ์เตือนที่ช่วยบอกบอกสถานะและเตือนความผิดปกติของรถที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน ซึ่งจะมีระดับความร้ายแรงมาก-น้อยแตกต่างกันไปตามสีที่ปรากฏ ดังนี้

• สัญลักษณ์เตือนสีเขียว/สีน้ำเงิน : กำลังใช้งานอยู่ (ไม่ได้มีความผิดปกติ)
• สัญลักษณ์เตือนสีเหลือง : เตือนให้ตรวจสอบ แต่ยังใช้งานได้อยู่
• สัญลักษณ์เตือนสีแดง : ให้ตรวจสอบโดยทันที หรือหยุดใช้งานเพื่อความปลอดภัย หากยังใช้งานต่อไป อาจเกิดอันตรายได้

สัญลักษณ์หน้าปัดรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?

1. ไฟตัดหมอกด้านหน้า

2. ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์

3. ไฟตัดหมอกด้านหลัง

4. ระดับน้ำล้างกระจกอยู่ในระดับต่ำ

5. ผ้าเบรกมีปัญหา

6. ระบบควบคุมความเร็วให้คงที่

7. สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา

8. ระบบตรวจจับน้ำฝน และแสงมีปัญหา

9. ระบบความเย็น

10. แสดงผลข้อมูลทั่วไป

11. สัญญาณเตือนความร้อนระบบเครื่องยนต์ดีเซล

12. มีหิมะที่พื้นผิวถนน

13. สัญญาณเตือนสวิตช์สตาร์ทเกิดการผิดพลาด

14. สัญญาณเตือนกุญแจไม่ได้อยู่ในรถ

15. แบตเตอรี่ของกุญแจมีพลังงานต่ำ

16. สัญญาณเตือนระยะห่างของรถคันหน้า

17. แรงดันน้ำมันคลัทช์

18. แรงดันน้ำมันเบรก

19. สัญลักษณ์เตือนพวงมาลัยล็อก

20. เปิดไฟสูง

21. สัญญาณเตือนความดันลมยางอ่อน

22. ไฟด้านข้างถูกใช้งาน

23.สัญลักษณ์เตือนไฟภายนอกปัญหา

24. สัญญาณไฟเบรกมีปัญหา

25. สัญญาณเตือนตัวกรองน้ำมันของเครื่องยนต์ดีเซลมีปัญหา

26. สัญลักษณ์เตือนการเชื่อมต่อของสายพ่วง

27. สัญญาณเตือนระบบการป้องกันการสะเทือนมีปัญหา

28. รักษาระยะห่างการใช้ทางจราจร

29. สัญลักษณ์เตือนการบำบัดไอเสียผิดปกติ

30. สัญญาณเตือนเข็มขัดนิรภัย

31. ระบบเบรกระหว่างจอดรถเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล

32. สัญลักษณ์เตือนพลังงานของแบตเตอรี่

33. ระบบจอดรถอัตโนมัติ

34. สัญญาณแจ้งเตือนตรวจเช็กสภาพรถ

35. ระบบปรับแสงไฟหน้าอัตโนมัติ

36. ปรับระดับไฟหน้ารถ

37. สัญญาณสปอยเลอร์ด้านหลังมีปัญหา

38. สัญญาณเปิดหลังคาอัตโนมัติ

39. สัญญาณเตือนถุงลมนิรภัย

40. สัญญาณเตือนเบรกมือ

41. มีน้ำเข้ามาเจือปนในน้ำมันเชื้อเพลิง

42. ปิดการทำงานของถุงลมนิรภัย

43. สัญญาณเตือนควรตรวจสภาพรถ

44. เปิดไฟขอทาง

45. กรองอากาศสกปรก

46. โหมดประหยัดพลังงาน

47. สัญญาณควบคุมรถขณะลงเขา

48. สัญญาณเตือนอุณหภูมิหม้อน้ำสูง

49. ระบบเบรก ABS

50. ตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน

51. ประตูรถเปิดอยู่

52. ฝากระโปรงหน้าเปิดอยู่

53. น้ำมันเชื้อเพลิงเหลือน้อย

54. สัญญาณเตือนระบบเกียร์อัตโนมัติ

55. จำกัดความเร็วทำงาน

56. สัญลักษณ์เตือนระบบกันสะเทือนผิดปกติ

57. เตือนความดันน้ำมันเครื่องต่ำ

58. ระบบไล่ฝ้าที่กระจกทำงาน

59. สัญญาณเตือนกระโปรงท้ายรถเปิดใช้งานอยู่

60. ระบบควบคุมการทรงตัวของรถยนต์

61. เซนเซอร์ระบบน้ำฝนถูกใช้งาน

62. สัญญาณเตือนเครื่องยนต์ขัดข้อง

63. ระบบไล่ฝ้ากระจกด้านหลัง

64. ที่ปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติ

สัญญาณไฟเตือนสีแดง ที่ควรหยุดใช้รถ​​​​​​​?

1. สัญญาณไฟเตือนรูปเครื่องยนต์

หากพบสัญลักษณ์ไฟเตือนระบบควบคุมเครื่องยนต์ หมายความว่าการทำงานของเครื่องยนต์อาจมีปัญหา วิธีแก้ไขทำได้ง่าย ๆ ด้วยการนำรถเข้าไปเช็กที่ศูนย์ ซึ่งในระหว่างขับขี่ไม่ควรใช้ความเร็วจนเกินไป โดยเฉพาะการเร่งเครื่องยนต์แรง ๆ

2. สัญญาณไฟเตือนเบรกมือ (รูปเครื่องหมายตกใจ)

สัญญาณไฟเตือนเบรกมือ มักจะพบเมื่อผู้ขับขี่ลืมดึงเบรกมือ, เลี้ยวรถแรง ๆ  หรือในกรณีที่ขับรถแล้ว เกิดความรู้สึกว่าเบรกผิดปกติ อาจเกิดจากระบบเบรกเกิดปัญหา เช่น ผ้าเบรกสึกหรอ, เบรกรั่ว, หรือน้ำมันเบรกอยู่ต่ำเกินไป เป็นต้น เจ้าของรถควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบ

3. สัญญาณเตือนน้ำมันเครื่องต่ำ

สัญญาณเตือนน้ำมันเครื่องต่ำแจ้งเตือน เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ไส้กรองน้ำมันสกปรก, ปั๊มกรองน้ำมันเครื่องเสีย หรือน้ำมันเครื่องแห้ง เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้จะทำให้น้ำมันเครื่องไม่หมุนเวียนในระบบจนมีแรงดันต่ำกว่ามาตรฐาน ผู้ใช้รถควรเช็กระดับน้ำมัน หรือหากเช็กแล้วและพบว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติ แต่ไฟยังแจ้งเตือนอยู่ ให้นำรถเข้าศูนย์บริการ

4. สัญญาณเตือนอุณหภูมิหม้อน้ำสูง

เมื่อระบบหล่อน้ำเย็นมีอุณหภูมิสูง ไฟดังกล่าวจะแจ้งเตือนขึ้นเป็นสีแดง ผู้ขับขี่ควรจอดรถเพื่อระบายความร้อนให้หม้อน้ำเย็นลง (หาที่ปลอดภัยก่อนจอดด้วยนะ) หลังจากนั้นให้เช็กปริมาณน้ำ หากพบว่าน้ำน้อยให้เติมลงไป แล้วสังเกตอีกทีว่าน้ำลดระดับหรือไม่ ถ้าลดลงก็แสดงว่าหม้อน้ำรั่ว ให้โทรเรียกช่างมาซ่อมได้เลย

5. สัญญาณเตือนพลังงานของแบตเตอรี่

โดยปกติไฟแบตเตอรี่จะไม่ขึ้นแจ้งเตือน หากพบไฟตัวนี้ปรากฎบนหน้าปัด นั่นหมายความว่าระบบชาร์จไฟ หรือประจุไฟเกิดปัญหา ซึ่งอาจจะมาจากฟิวส์ขาด, ไดชาร์จพัง, สายพานไดชาร์จขาด หรือแปรงถ่านหมด ผู้ขับขี่ควรปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่าง เพื่อให้แบตเตอรี่ประหยัดพลังงานที่สุด แล้วนำรถเข้าศูนย์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง

หากบนแผงหน้าปัดรถยนต์ มีสัญลักษณ์เตือนสีแดงปรากฎ  แสดงว่าอุปกรณ์หรือระบบนั้น ๆ อาจเกิดปัญหา จึงควรหยุดการใช้รถ แล้วนำเข้าอู่เพื่อให้ช่างตรวจสอบเช็กอุปกรณ์ภายในรถและแก้ไขความผิดปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

อ่านเพิ่มเติม >>

• อย่าละเลยการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ถ้าไม่อยากให้เกียร์พัง
• รถสตาร์ทไม่ติด ไฟเครื่องโชว์ เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง