วิธีปะยางรถยนต์ แบบสตรีมและใยไหม ต่างกันอย่างไร ?

วิธีปะยางรถยนต์ มี 2 วิธี ได้แก่ การปะยางแบบแทงใยไหม การปะยางรถยนต์แบบสตรีม ที่จะแบ่งย่อยเป็นสตรีมร้อนและสตรีมเย็นอีกที ส่วนช่างจะใช้วิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับรอยแผลหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งแต่ละแบบก็มีวิธีการทำรวมถึงข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

วิธีปะยางรถยนต์

1. การปะยางแบบแทงใยไหม

การแทงใยไหม เป็นวิธีปะยางแบบชั่วคราวที่สะดวกมาก ๆ ข้อดีคือสามารถทำด้วยตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งช่าง ไม่ต้องถอดล้อออก ใช้เวลาทำไม่นานก็เสร็จ แต่ต้องมีอุปกรณ์เป็นตัวช่วย ซึ่งปกติจะให้มาแบบครบชุด โดยสามารถหาซื้อได้ง่ายมากตามช่องทางออนไลน์และท้องตลาดทั่วไป ราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักร้อยบาทเท่านั้น

สำหรับวิธีการทำ ก่อนอื่นให้เตรียมชุดอุปกรณ์แทงใยไหม ซึ่งจะมี 4 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่ กาว อุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดรู อุปกรณ์แทงที่มีลักษณะคล้ายเข็ม และใยไหม จากนั้นทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้

วิธีการแทงใยไหม

• ดึงหรืองัดวัสดุที่เป็นสาเหตุให้ยางรั่วออก
• ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดรูแทงเข้าไปในยาว เพื่อขยายรอยรั่ว หมุนเจาะไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะดึงเข้า-ออกได้
• นำอุปกรณ์แทงที่มีลักษณะคล้ายเข็ม (มีตาให้สอดไหม) มาทากาวให้ทั่ว แล้วจิ้มเข้าไปในรูเพื่อให้กาวเข้าไปเคลือบอยู่ข้างใน
• ร้อยใยไหมเข้ากับตาเข็ม ทากาวให้ทั่ว แล้วอุดเข้าไปในรูรั่ว
• ดึงเข็มขึ้นมาเร็ว ๆ ห้ามบิด เพราะจะทำให้ใยไหมหลุดออกมาด้วย
• ตัดใยไหมส่วนเกินทิ้ง เป็นอันเสร็จ

แม้วิธีนี้จะมีข้อดีตรงที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน แต่ก็เป็นวิธีปะยางรถแบบชั่วคราว เนื่องจากไม่มีความทนทานมากพอที่จะใช้งานได้นาน ๆ นั่นเอง ทั้งยังเหมาะกับการซ่อมรอยแผลที่เป็นรูเท่านั้น จึงมักทำเพื่ออุดรอยรั่วกันลมออกก่อนนำรถส่งเข้าอู่

วิธีปะยางด้วยการแทงใยไหม

2. การปะยางรถยนต์แบบสตรีม

จัดว่าเป็นวิธียอดฮิตในหมู่ช่าง สำหรับวิธีปะยางรถยนต์แบบสตรีม โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบสตรีมร้อน และสตรีมเย็น จุดเด่นคือมีความทนทานสูง แต่ก็มีวิธีการทำที่ซับซ้อนกว่าแบบแทงใยไหม เพราะต้องถอดล้อออกมาซ่อมนั่นเอง ซึ่งวิธีปะยางสตรีม ราคาจะเริ่มต้นที่หลักร้อย รวมค่าบริการและวัสดุ

2.1 วิธีปะยางรถยนต์แบบสตรีมร้อน

คือการใช้ความร้อนในการอุดรอยรั่ว เหมาะกับรอยแผลขนาดเล็ก ๆ เช่น รอยฉีกขาดเล็กน้อย หรือรอยรั่วจากตะปู ข้อดีคือมีความคงทนมาก ใช้งานได้นาน มีประสิทธิภาพดีพอ ๆ กับยางตอนไม่รั่วเลยทีเดียว แต่ข้อเสียก็คือทำให้เนื้อยางบริเวณที่ซ่อมแข็งขึ้น แถมรูปยางอาจเสียรูปและบวมได้ นอกจากนี้ ยังใช้เวลาในการทำนาน เพราะต้องถอดล้ออก เมื่อถอดเสร็จก็ต้องใส่และถ่วงล้อใหม่อีก

วิธีการทำ

• ถอดล้อออกมา หารอยรั่ว
• นำหินเจียรหรือเครื่องเจียรมาขัดผิวรอบ ๆ รูรั่วด้านใน เพื่อทำความสะอาด
• ใช้กาวทาลงไปบนรอยแผล
• ใช้แผ่นยางชิ้นเล็ก ๆ ที่มีตัวละลายความร้อนแปะลงบนรอยรั่ว
• นำขึ้นเตาความร้อนเพื่อผลอมละลายให้วัสดุเป็นเนื้อเดียวกัน

ปะยางรถยนต์ แต่ละวิธีต่างกันอย่างไร

2.2 การปะยางรถยนต์แบบสตรีมเย็น

การอุดยางแบบสตรีมเย็นมีวิธีคล้ายกับสตรีมร้อน เพียงแค่ไม่ใช่ความร้อนในการอุดรอยรั่ว แต่เปลี่ยนเป็นการทุบให้แน่นแทน ข้อดีคือมีความทนทาน ใช้งานได้นาน ไม่ทำให้ยางเสียทรง แต่ไม่เหมาะกับรถขนาดใหญ่ อย่างพวกรถบรรทุกหรือรถสิบล้อ เพราะมีความสามารถในการรับน้ำหนักไม่เพียงพอ

วิธีการทำ

• ถอดล้อออก และหารอยรั่ว
• ใช้หินเจียรหรือเครื่องเจียรขัดรอบ ๆ รอยแผลจนกว่าผิวยางจะสาก
• ทากาวลงไปแล้วใช้แผ่นแปะยางทับลงไปอีกที
• ทุบไปที่รอยปะเรื่อย ๆ จนกว่าแผ่นแปะและตัวยางจะสมานกัน

จะใช้วิธีปะยางรถยนต์แบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับรอยแผลและความเสียหายที่เกิดขึ้น กรณีที่เป็นรอยรั่วเล็ก ๆ หากซ่อมด้วยตัวเองได้ก็ทำไปก่อนเพื่อป้องกันลมรั่ว แล้วค่อย ๆ ขับไปเข้าอู่ที่ใกล้ที่สุด แต่ถ้าเป็นรอยรั่วขนาดใหญ่ ให้โทรเรียกช่างมารับเลยดีกว่า

อ่านเพิ่มเติม 

• ก่อน wrap รถ ต้องรู้อะไรบ้าง ?
• เคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร