วิธีที่จะช่วยให้คุณยืดอายุแบตเตอรี่ ให้อยู่กับรถยนต์ นานกว่าเดิม

Pawin Paireerak 27 ก.ค. 2561 | 1 View | ดูแลและรักษารถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์ ลูกหนึ่ง มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น เป็นหน้าที่ของคุณ ในฐานะเจ้าของรถ ที่จะต้องดูแลให้สามารถใช้งานได้ ตามอายุ ทั้งนี้ นอกจากเพื่อการเดินทางที่ราบลื่นของคุณในทุกๆ วันแล้ว ยังหมายถึง การประหยัดเงินในกระเป๋าที่มากขึ้นอีกด้วย

แบตเตอรี่รถยนต์ ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับรถยนต์ของคุณ เพราะหากขาดไป หรือแบตเตอรี่เกิดหมดไฟกะทันหัน รถของคุณ จะไม่สามารถขับเคลื่อนไปไหนได้เลย และโดยปกติ แบตเตอรี่รถยนต์ จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 4-6 ปี แต่ส่วนใหญ่ ในสถานการณ์ การใช้งานจริงๆ อาจจะอยู่ได้น้อยกว่านั้น เพราะว่ามีปัจจัยภายนอก มากทำให้แบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพลงไป จนทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ และถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ไม่อยากจะเสียเงินกับการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ โดยที่ยังไม่ถึงเวลา ก็ควรจะหาวิธีในการดูแล เพื่อยืดอายุของแบตเตอรี่ให้อยู่กับรถของคุณได้นานมากขึ้นกว่าเดิม ดังนี้

การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์

ขับรถทางไกลเป็นประจำ

หลายคนติดนิสัยชอบซื้อรถยนต์มาจอดทิ้งไว้ หรือขับแค่ในระยะทางใกล้ๆ ในทางปฏิบัติ นี่อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าประหยัดน้ำมัน และรักษารถยนต์ ไม่ไห้ทำงานหนักเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่รถยนต์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อ สำหรับการใช้งาน หากไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ จะมีการคายประจุอยู่เรื่อยๆ และการขับรถในระยะสั้นเป็นประจำ ก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ เสื่อมเร็วมากกว่าเดิม เนื่องจากโดยปกติแล้ว แบตเตอรี่รถยนต์ จะชาร์จตัวมันเองในระหว่างการเดินทาง ได้อย่างเต็มที่เมื่อรถวิ่งเป็นเวลา 8 ชั่วโมง แต่ถ้าหากคุณไม่ได้มีกิจกรรมที่ต้องเดินทางไกลขนาดนั้น ก็ควรจะหมั่นดูแลแบตเตอรี่ด้วยวิธีการอื่นจะดีกว่า

8 วิธีพิชิตความง่วง เมื่อต้องขับรถเดินทางไกล

อย่าเก็บแบตเตอรี่รถยนต์ ในที่ร้อน หรือเย็นเกินไป

สังเกตหรือไม่ว่า ในช่วงอากาศหนาวนั้น รถยนต์ของคุณจะสตาร์ทติดยากเป็นพิเศษ เพราะว่า เมื่ออากาศ เย็นเกินไป แบตเตอรี่ จะคลายประจุได้เร็วกว่าเดิม ทำให้เสี่ยงที่จะแบตหมดทั้งที่ยังไมได้ขับไปไหนเลยด้วยซ้ำ และสำหรับอากาศที่ร้อนเกินไป ก็ส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่รถยนต์ ของคุณได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของแบตเตอรี่รถยนต์ แบบเปียก ซึ่งมีของเหลวอยู่ภายใน ที่จะเกิดการระเหยได้จากความร้อนที่สูงเกินไป ซึ่งแน่นอนว่ามักจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการชาร์จแบต ที่จะทำได้ยากขึ้น แถมยังมีโอกาสที่จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ง่ายขึ้นด้วย

ทำความสะอาดแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณเป็นประจำ

การทำความสะอาดแบตเตอรี่ เป็นการเช็คสภาพแบตเตอรี่ของคุณด้วยว่าเสื่อมสภาพ จนถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้วหรือยัง เพราะแบตเตอรี่รถยนต์ เมื่อเสื่อมสภาพจะสังเกตได้ง่ายๆ ว่า มักจะมีคราบเกลือ หรือคราบสนิม เกาะที่บริเวณขั้วแบตเตอรี่ ในส่วนของคราบเกลือนั้น สามารถทำความสะอาดโดยใช้แปรงโลหะขัดเบาๆ ได้ แต่ในส่วนของ คราบสนิม คุณอาจจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อความปลอดภัย

ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ ทุก 6 สัปดาห์

ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ คือ ทุกๆ 6 สัปดาห์ ควรมีการชาร์จ 1 ครั้ง และเพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณ จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ควรหาผู้เชี่ยวชาญ หรือช่างที่มีความชำนาญในเรื่องนี้ มาคอยดูแลตลอดการชาร์จแบตด้วย เพราหากแบตเตอรี่ได้รับความดันไฟฟ้าที่มากเกินไป หรือชาร์จในเวลาที่ยาวนาน จนแบตเกิน ก็จะส่งผลกระทบให้แบตเตอรี่รถยนต์ เสื่อมได้เหมือนกัน

ดูเพิ่มเติม: