เปรียบเทียบ Nissan Almera และ Honda City

เป็นความหนักใจของบรรดานักช้อปทั้งหลายเมื่อเวลารู้สึกรักพี่เสียดายน้องกับการซื้อของอะไรสักอย่างกับสินค้าที่มีความใกล้เคียงกันและต้องมาชั่งใจกับสิ่งที่ได้รับต่อราคาที่จ่ายไป เช่นสินค้าชิ้นแรกราคาสูงกว่าแต่ก็ได้อะไรหลายๆอย่างจากมันมากกว่า ในขณะที่สินค้าชิ้นที่สองคุณภาพไม่ได้แย่แต่อาจจะทำอะไรได้น้อยกว่าสักนิดแต่กลับมีราคาห่างกันกับสินค้าชิ้นแรกชนิดที่อยากจะรีบคว้าไปจ่ายเงิน เวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้เพื่อนๆมีแนวคิดในการตัดสินใจกันอย่างไรบ้างครับ

เฉกเช่นเดียวกันกับการเลือกซื้อรถยนต์ ซึ่งก็นับได้ว่ามีผู้ผลิต ผู้ขาย และก็ผู้ซื้อเช่นเดียวกัน แถมยังมีโปรโมชั่นมาล่อตาล่อใจกันอีกมากมาย สำหรับในวันนี้จะนำรถยนต์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นทั้ง2รุ่นมาเปรียบเทียบกันดูว่า ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้เราจะเลือกฝั่งไหนดี สองแบรนด์นั้นคือ Nissan Almera และ Honda City

ต่างรุ่นแต่ใกล้กัน

ตั้งแต่นิสสันนำรถยนต์อีโคคาร์เข้ามาตีตลาดในไทยเป็นค่ายแรกตั้งแต่ปี 2010 โดยใช้ชื่อ Nissan March นับจากวันนั้นก็กวาดยอดขายก่อนค่ายอื่นๆไปเรียบร้อยเนื่องจากยังไม่มีใครในช่วงแรกที่ทำรถยนต์อีโคคาร์ออกมาได้ทันตลาด หลังจากทำยอดขายจาก Nissan March ได้ดี Nissan ยังคงเดินเครื่องต่อเนื่องเปิดตัว Nissan Almera ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2011 ปีถัดมา ในฟากฝั่งฮอนด้า ที่มียอดขายจากกลุ่ม B-Segment ดีที่สุดค่ายหนึ่งก็กวาดยอดขายในกลุ่มนี้ไปได้เรื่อยๆชนิดที่เรียกว่า3-4ปีหลังมานี้ พี่ใหญ่ของตลาดอย่างโตโยต้าได้แต่มองตาปริบๆสำหรับกลุ่ม B-Segment ปล่อยให้ฮอนด้าและมาสด้าทิ้งยอดขายนำลิ่วไปไกล

Nissan Almera และ Honda City

1. เปรียบเทียบขุมกำลัง

เรามาเริ่มกันที่รถยนต์เล็กที่ยอดขายไม่เล็กของค่ายนิสสันกันก่อนครับ เนื่องจากเป็นรถยนต์อีโคคาร์เครื่องจะเล็กหน่อยประกอบด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์3สูบแถวเรียง รหัส HR12DE ที่มีระดับการสั่นของเครื่องยนต์ที่น้อยกว่าแบบ4สูบ ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงเบนซิน ขนาด1,198ซีซี ด้วยกำลัง 79แรงม้า 58กิโลวัตต์ ที่6,000รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตรที่4,400รอบต่อนาที และมีความจุถึงเชื้อเพลิงถึง 41ลิตร และยังมาพร้อมกับระบบหยุดการเดินเบาหรือที่รู้จักกันในนาม Idling Stop พร้อมระบบเกียร์อัจฉริยะ XTRONIC-CVTที่เปลี่ยนเกียร์ได้นิ่มนวล อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 18-20กม./ลิตร ปล่อยมลพิษต่ำด้วยเกณฑ์รถยนต์อีโคคาร์ ส่วนฟากฝั่งฮอนด้า รถยนต์ Honda City ประกอบด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ i-VTEC 4สูบ ความจุ 1,497ซีซี ให้กำลัง117 แรงม้า 86กิโลวัตต์ ที่อัตรา6,000รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146นิวตัน-เมตร ที่4,700รอบต่อนาที ระบบเกียร์เป็นแบบCVT โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิงประมาณ 15-17 กม./ลิตรแถมยังรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ถังน้ำมันมีความจุ40ลิตร

เรียกได้ว่ายกนี้ต้องยอมใจเขาจริงๆว่ารถยนต์กลุ่ม B-Segment ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่กว่ารถยนต์กลุ่มอีโคคาร์เนื่องจากให้กำลังที่มากกว่า ซึ่ง Honda City มีกำลังแรงม้ามากกว่า Nissan Almera ถึง38แรงม้า แม้จะสิ้นเปลืองพลังงานกว่าเล็กน้อย

เครื่องยนต์ของ Honda City เหนือกว่าในด้านกำลัง

2. เปรียบเทียบภายนอก

ภายนอกของ Nissa Almera  หลายๆคนคงคุ้นตาเพราะเป็นรุ่นที่ขายดีมากของ Nissan โคมไฟรูปหยดน้ำที่ดูโฉบเฉี่ยว ตรงกลางเป็นกระจังหน้าขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการระบายความร้อนตีกรอบด้วยโครเมี่ยมสร้างความหรูหรา ส่วนตัวรถยนต์มีความยาว 4,425 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร ความสูง 1,500 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อระหว่างล้อหน้าและล้อหลังคือ 2,600มิลลิเมตร รุ่นที่เป็นSportechจะมีล้ออัลลอย 15นิ้วสีรมดำลายพิเศษ ส่วนที่ไม่ใช่รุ่น Sportech จะเป็นล้อเหล็ก14นิ้ว เสาอากาศของวิทยุเป็นแบบความยาวระดับกลางติดอยู่ที่ด้านหน้าตรงกลางเหนือกระจกบังลมหน้า ถ้าใครไม่ชอบเสายาวๆก็อาจจะดูขัดใจเล็กน้อย มาถึงรถ Honda City ที่มีกระจังหน้าลายรังผึ้งผสมกับแถบโครเมียมและเหนือขึ้นไปเป็นโลโก้แบรนด์ฮอนด้า ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมกับไฟ Day Time Running Light แบบ LED สร้างความหรูหราเพิ่มขึ้นอีกแม้ในเวลากลางวัน ในด้านของตัวรถนั้นมีความยาว 4,440 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร ความสูง 1,477 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อระหว่างล้อหน้าและล้อหลังคือ 2,600มิลลิเมตร นับว่ามิติของตัวรถนั้นมีความใกล้เคียงกันมากทั้ง Nissan Almera และ Honda City ล้อรถยนต์ในรุ่น SV, SV+ (รุ่นท็อปกับรองท็อป) เป็นล้อแม็กดีไซน์แนวทูโทนขนาด 16นิ้ว ส่วนรุ่นย่อยอื่นมีขนาด 15นิ้ว ส่วนเสาอากาศวิทยุเป็นแบบครีบฉลามที่ให้ความหรูหราราวกับรถยนต์ Luxury ติดอยู่ที่ตรงกลางด้านหลัง

ภายนอกเรียกได้ว่านิสสันทำได้ดีมากเพราะถึงจะเป็นรถกลุ่มอีโคคาร์แต่มิติตัวถังของรถยนต์นั้นไม่ได้หนีกันไปเท่าไรเลยสมแล้วที่มีสโลแกนประจำรุ่นว่า “ความสุขที่กว้างขึ้น” ส่วนความสวยงามก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลแล้วนะครับ

มิติตัวถึง Nissan Almera ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Honda City ชนิดที่แทบจะยกภาพเดียวกันมาใช้ได้เลย

>> Top 5 Eco Car ตอบสนองความประหยัดด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร

3. เปรียบเทียบภายใน

เนื่องจากมิติตัวถึงที่กว้างเทียบรุ่น B-Segment ได้เลยทำให้ภายในของ Nissan Almera มีความกว้างตามไปด้วยสมกับประโยค ความสุขที่กว้างขึ้น โดยภายในตกแต่งโทนสีดำประกอบกับแผงคอนโซลสีดำเปียโนแบล็กที่สร้างความหรูหรา เบาสีดำลายใหม่ที่เป็นเนื้อผ้าคุณภาพสูงทนการฉีกขาด พวงมาลัยแบบสามก้านพร้อมปุ่มสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัย ซึ่งทาง Honda City ก็ไม่ยอมแพ้คุมโทนสีด้วยสีดำเช่นกันสำหรับห้องโดยสาร พร้อมด้วยแผงคอนโซลที่ทำสีไสตล์เมทัลลิกและเปียโนแบล็กจัดเต็มกับความหรูหราไว้ไม่แพ้กัน เบาะทั้งหมดยังเป็นเบาะผ้าลวดลายสปอร์ต พวงมาลัยเป็นแบบสามก้านพร้อมสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัยเช่นกัน คอนเซ็ปท์การออกแบบภายในรวมไปถึงกินกันไม่ลงเลยจริงๆ

ภายในของ Nissan Almera ที่ใช้โทนสีดำ

ภายในของ Honda City ที่ใช้โทนสีดำเช่นเดียวกัน

4. เปรียบเทียบอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารเรียกว่าคล้ายคลึงกันมากทั้งๆที่อยู่คนละ segment กัน อย่างไรก็ตามก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ เครื่องเสียงของ Nissan Almera เป็นเครื่องเสียงจาก Kenwood ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 7นิ้ว ทัชสกรีน พร้อมช่องเชื่อมต่อมาตรฐาน USB และ AUX พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง และยังเชื่อมต่อสมาร์โฟนได้ด้วยระบบ Bluetooth รองรับการทำงานผ่านระบบ Apple CarPlay ที่สามารถใช้ระบบนำทางผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนด้วย ส่วนรถ Honda City นั้นไม่ยอมแพ้มาพร้อมกับเครื่องเสียงที่พัฒนาขึ้นเองของฮอนด้าที่หน้าจอทัชสกรีน 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB, AUX และ HDMI ที่ไม่มีมาให้ใน Nissan Almera และยังมีแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศที่ไร้ปุ่ม เป็นระบบสัมผัสแทนสร้างความหรูหรามากขึ้นไปอีก และมีระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยสร้างความสบายในการเปลี่ยนเกียร์อีกด้วย เรียกว่าจัดมาให้แบบครบๆ รวมๆแล้วทาง Honda City ดูจะเหนือกว่าเล็กน้อย

หน้าจอทัชสกรีน 7 นิ้วของ Kenwood ใน Nissan Almera

หน้าจอและแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศแบบทัชของ Honda City

>> เปรียบเทียบ Honda City กับคู่แข่ง Toyota Vios ซื้อคันไหนดี

5. เปรียบเทียบความปลอดภัย

ความปลอดภัยหลักๆที่เห็นชัดของ Nissan Almera มาพร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า กล้องมองหลัง และเซนเซอร์กะระยะถอยหลัง ในชณะที่ Honda City เล่นใส่ระบบความปลอดภัยมาแบบไม่เกรงใจคู่แข่งคนอื่นๆเลย ถุงลมนิรภัยคู่หน้าพร้อมถุงลมด้านข้างและยังมีม่านถุงลมอีกด้วย ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ซึ่งติดมาให้ในทุกรุ่นย่อย กล้องมองหลังแบบสามระดับ ระบบล็อกกุญแจอัตโนมัติ ยกนี้ต้องยอมรับว่า Honda City จัดมาเต็มกกว่ามาก

ระบบ VSA ใน Honda City ทำให้เข้าโค้งได้มั่นใจไม่หลุดโค้งมากยิ่งขึ้น

6. เปรียบเทียบราคา

Nissan Almera มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อยเริ่มตั้งแต่ราคา 445,000 บาทไปจนถึงราคา 637,000 บาท ขณะที่ Honda City มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อยตั้งแต่ราคาเริ่มต้น 550,000 บาท ถึงรุ่นท็อปราคา 751,000 บาท ทำให้ราคาเริ่มต้นของรุ่นล่างสุดและรุ่นท็อปสุดของ2แบรนด์นี้มีช่วงห่างของราคาไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท โดยที่ Honda City จะมีราคาสูงกว่า

ตารางเทียบราคาทุกรุ่นย่อยระหว่าง Nissan Almear และ Honda City

มวยคู่นี้ถ้าจะเลือกกันจริงๆคงต้องชั่งใจกันพอสมควร เพราะว่าขนาดรถยนต์ในแง่ภายนอกและภายในนั้นถือว่าใกล้เคียงกันมากๆ ต่างกันที่เครื่องยนต์ ความแรง อัตราเร่งที่ Honda City น่าจะทำได้ดีกว่า แต่ราคาก็สูงกว่าตามไปด้วย คุณคงต้องลองถามตัวเองเป็นสำคัญเลยว่า จำนวนเงินที่ต่างกันประมาณ 1 แสนบาท อยากจะเก็บเงินจำนวนนี้ไปทำอย่างอื่นอะไรหรือไม่ถ้าเลือก Nissan Almera หรืออยากจะจัดอ็อฟชั่นให้เต็มๆไปเลยโดยเฉพาะระบบความปลอดภัยที่มีมากกว่าสำหรับ Honda City เพราะจำนวนเงินที่เป็นหลักแสนสำหรับบางคนก็ถือว่าค่อนข้างมากอยู่ ถึงบรรทัดนี้คุณคงพอจะมีคำตอบในใจกันแล้วใช่ไหมครับ

Khaorot ขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย