รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน รีวิวรถเก๋งใช้งานดี ราคาไม่เกิน 200,000 บาท

รีวิวรถเก๋งมือสองน่าใช้ ราคาไม่เกิน 2000,000 บาท

รถเก๋งราคาไม่เกินสองแสนรุ่นไหนดี?

คงจะดีไม่น้อย หากมีรถยนต์สักคันสำหรับเดินทางแบบไม่ต้องกลัวฝนตก แดดออก หรือลมเย็นในหน้าหนาว แต่จะให้ซื้อรถใหม่ป้ายแดงราคาก็อาจสูงมากเกินไป สำหรับหลายคนที่อยู่ในสภาวะนี้ รวมถึงผู้ที่ต้องการรถยนต์เพียงคุณสมบัติด้านการขับขี่เป็นหลัก มีออพชั่นอื่นๆพอประมาณ กอรปกับระบบความปลอดภัยระดับมาตรฐาน และไม่สนใจด้านรูปโฉมหน้าตาของรถมากนัก รถเก๋งมือสองใช้งานดี ทนทาน ซ่อมง่าย ราคาไม่เกิน 200,000 บาท มีให้เลือกอยู่หลายรุ่นพอสมควร ซึ่งวันนี้ khaorot.com เราจะมาแนะนำรุ่นที่คนส่วนใหญ่นิยมกันครับ

Nissan March รุ่นปี 2010 อีโค คาร์ ตัวเล็ก ประหยัดน้ำมันมากที่สุด

1. Nissan March รุ่นปี 2010 รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน

Nissan March เป็นรถอีโคคาร์ (Ecocar) รูปทรงน่าใช้ โดดเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน (ประมาณ 20-25 กิโลเมตรต่อลิตร) ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1200 ซีซี 3 สูบ รหัส K13  บำรุงรักษาง่าย ขับขี่สบาย มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์ CVT (ต้องตรวจสอบระบบเกียร์และหมั่นดูแลอยู่เสมอ) จุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษในการเลือกซื้อคือ “ระบบเกียร์” ที่หากเจ้าของเดิมไม่ดูแล ขับขี่แบบกระชาก อาจจะต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมเร็วกว่าที่ควร และนอกจากนี้ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์พร้อมกรองเกียร์ก่อนระยะที่กำหนดเล็กน้อย เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

Honda City ZX รุ่นปี 2002-2008 รูปทรงให้ดูทันสมัยมากขึ้น ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง

2. Honda City ZX รุ่นปี 2002-2008 รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน

รุ่นต่อมาคือรถยนต์ขนาด B-Segment Honda City รุ่น ZX เป็นเจอเนเรชั่นที่ 4 ของ City ที่มีการปรับรูปทรงให้ดูทันสมัยมากขึ้น ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาสูงโปร่ง ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์หัวฉีด i-DSI และ VTEC โดดเด่นด้านการประหยัดเชื้อเพลิง (โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ i-DSI) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ระบบกันสะเทือนด้านหน้า Macpherson Strut ด้านหลังเป็น Torsion Beam แต่ถ้าหากขับเกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช่วงล่างจะมีหวิวๆบ้าง (ตามฉบับรถเล็ก ตัวถังค่อนข้างเบา) ข้อดีอีกข้อหนึ่งคือปัญหาจุกจิกน้อย แต่ต้องดูแลรักษา พร้อมเปลี่ยนถ่ายของเหลวอย่างสม่ำเสมอ ส่วนปัญหาหลักของรุ่นนี้ก็คือ “เกียร์” ซึ่งควรให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบคันจริง และควรขับขี่อย่างนุ่มนวล หากเสียก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไปเพราะสามารถซ่อมได้ มีอะไหล่มือสองค่อนข้างมาก

3. รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน Mazda3 รุ่นปี 2005

Mazda3 โฉมแรก เป็นรถยนต์กลุ่ม C-Segment อาจไม่สปอร์ตเท่าโฉมใหม่ แต่ยังไม่ถือว่าตกยุคมาก นอกจากนี้สมรรถนะการขับขี่ยังดีพอสมควร ราคาไม่เกินสองแสนส่วนมากจะได้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิด 145 นิวตัน-เมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ Macpherson Strut ด้านหลังเป็น Multiple link ไม่ถึงกับแข็งกระด้างมาก

Toyota Corolla Altis (โฉมหน้าหมู) รุ่นปี 2000-2007

4. รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน Toyota Corolla Altis (โฉมหน้าหมู) รุ่นปี 2000-2007

กลุ่ม C-Segment ที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งคือ รุ่นเจเนอเรชั่นที่ 9 ของ Altis หรือที่รู้จักกันว่า “โฉมหน้าหมู หรือ โฉมตาถั่ว” จากดีไซน์ไฟหน้าที่คล้ายเมล็ดถั่วนั่นเอง รุ่นนี้มีความทนทานสูง ไม่มีปัญหาจุกจิก รูปทรงไม่ดูเก่าจนเกินไป มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกทั้งขนาด 1.4 , 1.5 , 1.6 และ1.8 ลิตร ส่งกำลงัด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด Super ECT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด แต่จุดที่ต้องระวังสำหรับรถยนต์มือสองรุ่นนี้คือบางคันผ่านการติดแก๊สมาแล้ว (เครื่องยนต์มีโอกาสเสียง่าย) และกลุ่มแท็กซี่ปลดป้าย นอกเหนือจากสองปัญหาหลักแล้ว นับว่าเป็นรถที่น่าใช้คันหนึ่งทีเดียว

Honda Accord (โฉมงูเห่า) รุ่นปี 1997-2003

5. Honda Accord (โฉมงูเห่า) รุ่นปี 1997-2003 รถเก๋งมือสองราคาไม่เกินสองแสน

รุ่นนี้อาจได้รถโฉมเก่าและมีอายุมากหน่อย แต่จุดเด่นคือขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าแบบ D-Segment การตกแต่งภายในหรูสหรา เก็บรายละเอียดดี ขับสนุก ไม่จุกจิกมาก (ซ่อมบำรุงทั่วไปตามอายุอะไหล่) มีความทนทาน อัตราเร่งขณะออกตัวและเร่งแซงดี ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 206 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ รุ่นท้ายๆจะมีออพชั่นเยอะพอสมควร โดยปัญหาหลักของรุ่นนี้คือ ระบบเกียร์ และแร็คพวงมาลัย ซึ่งควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ มีอะไหล่มือสองให้เลือกมากพอสมควรหากจำเป็นต้องซ่อมแซม

จะเห็นได้ว่าในงบไม่เกิน 2 แสนนั้น มีรถยนต์มือสองให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ Eco Car ไปจนถึงรถนั่งขนาดกลางอย่าง D-Segment ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รถรุ่นที่ผลิตราวปี 2005-2007 ถือว่าสภาพไม่เก่าจนเกินรับไหว ทั้งนี้ควรมีผู้เชี่ยวชาญ (คนรู้จักหรือช่างซ่อมโดยให้ค่าตอบแทนช่างตามที่ตกลง) เพื่อลดโอกาสเจอ “รถย้อมแมว” คุณภาพไม่เหมาะสมกับราคาที่จ่าย และควรเตรียมงบสำหรับซ่อมบำรุงเพิ่มเติม เพียงเท่านี้ก็จะได้รถคู่ใจสำหรับใช้งานแบบไม่ต้องกังวลเรื่องผ่อนชำระแล้วครับ

ดูเพิ่มเติม:
รถยนต์ MG6 มือสอง ตัวเลือกที่น่าลอง หรือต้องทบทวนใหม่ !!
รวมรถยนต์มือสองราคาไม่เกินแสน น่าใช้ และหลายคนยังนิยมในปัจจุบัน