รถยนต์ MG6 มือสอง ตัวเลือกที่น่าลอง หรือต้องทบทวนใหม่ !!

รถ MG6 มือสอง ดีไหม?

MG6 รถยนต์สไตล์อังกฤษ พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งมีทั้งรุ่น Sedan ธรรมดา และ Fastback ที่ดูโฉบเฉี่ยวด้วยทรงหลังคาด้านหลังลาดต่ำ สร้างกระแสในวงการรถยนต์บ้านเราได้พอสมควร แต่หลายท่านแม้จะชอบใจทรวดทรงแค่ไหน ก็ยังไม่กล้าเสี่ยงซื้อรถป้ายแดงกับแบรนด์ใหม่อยู่ดี วันนี้ khaorot.com เราได้นำข้อมูล MG6 มือสอง ซึ่งราคาย่อมเยากว่ามาก มาให้ทุกท่านพิจารณากันครับ

ภายในห้องโดยสารกว้าง วัสดุสมราคา ไม่เปราะบางจนเกินไป

มีระบบ inkaNet ทุกรุ่น

รถยนต์ MG6 มือสองดีไหม รีวิวข้อดีของ MG6 

1. วัสดุภายในดี ไม่ก๊อกแก๊กอย่างที่หลายคนคิดไว้ เบาะนั่งหุ้มหนังนิ่มสบาย เบาะหลังกว้างพอสมควร ไม่อึดอัด

2. มีระบบ inkanet ทุกรุ่น ซึ่งทำให้ผู้ขับสามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์ และรับรู้ข้อมูลรถตลอดเวลา ผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ

3. ระบบปรับอากาศเย็นเร็ว ไม่ต้องรอนาน แม้เพิ่งเปิดซันรูฟมาก็ตาม

4. มีช่องแช่เย็นขนาดเล็ก เป็นอีกจุดหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ หรือคุณแม่นักปั๊มนม เพราะ MG6 มีช่องแช่เย็นขนาดเล็กที่บริเวณคอนโซลด้านหน้า ซึ่งสร้างความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางในเมืองร้อนอย่างบ้านเรา

5. ช่วงล่างดี หนึบแน่น การเกาะถนนดีเยี่ยมแม้ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง โดยช่วงล่างได้รับการปรับจูนแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ด้านหน้าเป็น MACPHERSON STRUT ด้านหลังแบบ Z-TYPE MULTI-LINK SUSPENSION ให้ความนุ่มนวลตลอดการขับขี่

6. พวงมาลัยน้ำหนักดี (ค่อนไปทางหนักสำหรับคุณผู้หญิง) การบังคับเลี้ยวแม่นยำ และพวงมาลัยนิ่งมากเมื่อขับด้วยความเร็วสูง

ดูเพิ่มเติม:  รถ mg ดีไหม

MG6 มือสอง รุ่นปี 2014-2015 ก่อนไมเนอร์เชนจ์

MG6 2016-2018 fastback

ข้อเสียของ MG6

1. สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เป็นข้อเสียที่เลี่ยงได้ยาก เพราะ MG6 ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.8 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ราว 12-13 กิโลเมตร/ลิตร 

2. ช่องกุญแจสตาร์ทรถและไฟเลี้ยวจะอยู่ทางซ้ายของพวงมาลัย ระบบปัดน้ำฝนอยู่ทางขวา สลับกับรถยนต์รุ่นทั่วไปที่มีขายในไทย หากใครไม่ชินก็ต้องปรับตัวกันพอสมควร

3. ไม่มีที่เปิดท้ายรถจากด้านใน เวลาจะเปิดท้ายรถต้องลงมาเปิดเอง ซึ่งไม่สะดวกสำหรับการใช้งาน

4. ระบบไฟฟ้า เซ็นเซอร์ไม่เสถียร โดยเฉพาะรุ่นแรกๆที่เป็นปัญหากันมาก ส่วนรุ่นหลังไมเนอร์เชนจ์ปี 2015 เริ่มดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องระบบไฟบ้างประปราย

5. ระบบเกียร์ MG6 มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ที่มี Paddle shift และ โหมด Manual มาให้ แต่ตัวระบบเกียร์ค่อนข้างสับสน เมื่อขับขึ้นทางชันเกียร์จะไม่ปรับลงมาที่เกียร์ต่ำให้ หากใช้โหมด Manual จะต้องกด Paddle shift เปลี่ยนเกียร์หลายครั้งมาก 

6. การออกแบบภายในไม่ทันสมัย

ราคาโดยเฉลี่ยของ MG6 มือสอง

ราคาโดยประมาณของ MG6 มือสอง

MG6 มือสองรุ่นที่นิยม

MG6 มือสอง รุ่นปี 2017 ราคา 350,000-780,000 บาท (แล้วแต่รุ่น)

ปัญหาต่างๆของรถยนต์ MG6 ที่ผู้ใช้พบเห็น

1. “ออกตัวหลักกดคันเร่งไปแล้วต้องรอประมาณ 1-2 วิ รถค่อยเคลื่อนตัว บางครั้งแตะคันเร่งนิดเดียวรถก็พุ่งตัวเลย”

อาการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นแรกๆ ที่มีการตอบสนองของคันเร่งช้าหรืองงงง เช่น กดแป้นคันเร่งเท่าเดิมแต่รถพุ่งมากกว่าเดิม เหยียบเต็มเท้าแต่รถค่อยๆออกตัว ซึ่งรุ่นไมเนอร์เชนจ์ปี 2015 ได้ปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นแล้ว

2. ไฟเตือนลมยางโชว์ ทั้งที่ตรวจสอบดูก็ปกติ

สาเหตุมาจากจุดเซ็นเซอร์ของระบบเตือนลมยาง ( TPMS ) ใน MG6 ไม่ได้อยู่ที่ยางโดยตรง แต่เป็นการใช้เซ็นเซอร์ของระบบ ABS มาวัดลักษณะการหมุนของล้อครับ ว่าล้อด้านไหนหมุนมากหรือน้อยผิดปกติ ซึ่งในคู่มือบอกไว้ว่าเป็นเพียงระบบช่วยเท่านั้น อาจมีการผิดพลาดได้ โดยหากใครที่พบไฟ TPMS โชว์ แล้วตรวจเช็คยางไม่พบความผิดปกติ ใดใด ให้สตาร์ทรถ -> เกียร์ P -> ดึงเบรกมือ -> เข้าเมนู TPMS Reset บนหน้าจอ (จะไม่เห็นเมนูนี้หากไม่ดึงเบรกมือ)

MG6 Fastback ด้านหลังจะลาดต่ำ ให้ความสปอร์ตมากกว่า

สรุป

MG6 มือสอง นับว่าเป็นรถที่น่าสนใจ อีกทั้งราคายังตกจากมือใหม่พอสมควร (มากกว่ารถเจ้าตลาด) นอกจากนี้ยังเป็นรถที่ผลิตในไทย ฉนั้นอะไหล่มีแน่นอน หากใครที่สนใจอยากได้เป็นรถสำรอง MG6 มือสอง ถือว่าตอบโจทย์พอสมควร แต่ถ้าจะซื้อเป็นรถคันแรกของบ้าน คงต้องชั่งใจสักนิดครับ

ดูเพิ่มเติม:

รีวิว MG6 2018 เก๋งฟีเจอร์ดีที่ถูกลืม

รถยนต์ Subaru XV มือสองดีไหม มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?