รีวิว MG6 2018 เก๋งฟีเจอร์ดีที่ถูกลืม

1. แนะนำ MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018)

“ยนตกรรมที่ถูกลืม” อาจเป็นนิยามของรถคันนี้จาก MG ได้ก็ไม่ผิด เพราะนอกจากความนิยมจากผู้ใช้จะไม่ “ตูมตาม” เท่าที่ควรเหมือนอย่างคู่แข่งเบอร์ต้น ที่ขายดีปี ๆ เป็นหมื่นคันแล้ว การมาของครอสโอเวอร์ที่เหมือนปลุกชีพให้กับแบรนด์อย่าง MG ZS ก็ยิ่งเป็นการทำให้ความมีตัวตนของ MG6 คันนี้ เจือจางลงไปอีก 

ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวมาครั้งแรกกับเจ็นแรกของตระกูล MG6 เมื่อปี 2014 พร้อมกับทางเลือกของรูปแบบทั้ง Sedan 4 ประตู และ Fastback 5 ประตู ด้วยราคาที่ค่อนข้างจะ “บ้าบิ่น” ไม่เกรงใจเลเวลชื่อชั้นความเป็นแบรนด์น้องใหม่ของตัวเอง ผลที่ได้ก็คือ “แป๊ก !” ขายไม่ออก จนต้องรีบแก้เกมส์เปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมนิด เพิ่มฟีเจอร์หน่อย แต่ปรับลดราคาลงในปี 2015 แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่พอที่จะดึงดูดผู้ซื้อให้เลือก MG6 คันนี้ 

ดูเพิ่มเติม:  ตารางผ่อน Civic

ยอดขายย้อนหลังของ MG3 และรุ่นอันดับ 1 ของคลาส C-Segment 3 ปีย้อนหลัง 2015-2013
2015 ยอดขาย 1 Altis 20966, MG6 593
2016 ยอดขาย 1 Civic 22385, MG6 1005
2017 ยอดขาย 1 Civic 27448, MG6 433 

ในเมืองไทยกับระยะเวลาทำตลาดมานานพอสมควร ยังไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไรนักสำหรับรุ่นนี้

ชัดเจนในเรื่องความนิยมของรถรุ่นนี้ อาจยังไม่เป็นที่ถูกใจของคนไทยสักเท่าไรนัก ถ้าให้เทียบกับ Honda Civic หรือ Toyota Altis คงต้องเรียกว่า “คนละชั้น” ในเรื่องยอดขาย ด้วยปัจจัยความล้มเหลวของการตั้งราคาขายที่ผิดพลาดมาตั้งแต่แรกเริ่ม ความนิยมของแบรนด์ที่ยังต้องมีการพิสูจน์กันอีกยาว ๆ  แต่ถ้ามองเจาะที่ตัวรถแล้ว MG6 2018 คันนี้ก็ไม่ได้ถือว่าแย่หรือด้อยกว่าเบอร์ต้นของตลาดสักเท่าไร ไปเจาะลึกดูที่รายละเอียดกันในแต่ละด้านของรถรุ่นนี้กันเลยดีกว่า

2. รีวิวภายนอก MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018)

กับทางเลือกทั้งแบบ 4 ประตู Sedan และแบบ 5 ประตู Fastback ที่ความแตกต่างในเรื่องดีไซน์ภายนอกไม่ห่างกันนัก ด้วยรูปลักษณ์ที่เน้นเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความสปอร์ต แต่คับด้วยคุณภาพจากฟีเจอร์ที่ให้มามากมาย ดีไซน์การออกแบบ Brit Dynamic จาก MG อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รูปทรง เฉียบคมด้วยเส้นสายที่ไม่ดูมากเกินไป  อารมณ์สาวน้อยที่หน้าตาอาจจะดูธรรมดา แต่ถ้าแต่งขึ้นมาแล้วจะสวยเป็นอีกคน เช่นเดียวกันกับ MG6 คันนี้ ที่ภายนอกอาจจะดูเรียบเมื่อมองผ่าน แต่เมื่อมองที่รายละเอียดแล้วคุณจะพบว่า รถคันนี้ก็มีความโดดเด่นซ่อนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน 

ฟีเจอร์เด่นของ MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018) : ภายนอก  

• ไฟหน้า โปรเจคเตอร์ BI-XENON HID พร้อมปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ 
• ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights)
• ระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า Headlight Washer
• หลังซันรูฟปรับไฟฟ้าอัตโนมัติ 
• ไฟท้าย LED

ภายนอกเรียบหรู ถ้าดูดี ๆ จะเห็นถึงความสวย  

มิติตัวถังของ MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018) 

• ความยาวตัวถัง (mm.) :: 4653
• ความกว้างตัวถัง (mm.) :: 1827
• ความสูงตัวถัง (mm.) :: 1467
• ระยะฐานล้อ (mm.) :: 2705 

แบบ Fastback 5 ประตูพร้อมทางเลือกในการใช้งานที่มากกว่า 

Khaorot Comment : ถ้าให้เทียบในเรื่องดีไซน์กับคู่แข่งในคลาสเดียวกันอย่าง Honda Civic, Mazda3 ความสปอร์ตอาจจะสู้ได้ยาก แต่ถ้าให้เทียบกับ Toyota Altis หรือ Nissan Sylphy ถือว่า MG6 สู้ได้เลยในเรื่องการออกแบบที่ภายนอก  อีกทั่งยังมีทางเลือกในแบบ 5 ประตูเปิดท้ายได้ด้วย เหมาะสำหรับใครที่มองหาความแตกต่าง MG6 คันนี้ก็ถือว่าความสวยไม่น้อยหน้าเบอร์ต้นในคลาสเดียวกันเลย  มีมาให้ด้วยกับ “ซันรูฟไฟฟ้า” ฟีเจอร์นี้แหละที่น่าจะจุดดึงดูดความสนใจให้กับ MG6 ได้มากที่สุด (เป็นอุปกรณ์เสริมต้องจ่ายเพิ่ม)

3. รีวิวภายในห้องโดยสาร MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018)

อาจดูน่าสนใจเมื่อช่วงตอนเปิดตัวแรก แต่อาจไม่ใช่แล้วหรือเปล่าสำหรับตอนนี้ ที่คู่แข่งจากค่ายอื่น ๆ ทั้ง Honda, Mazda ทำออกมาได้ล้ำนำยุค จนทำให้เมื่อมามองที่ MG6 อาจจะดูธรรมดาไป แต่ยังพอให้รู้สึกถึงความพรีเมี่ยมได้อยู่ จากการตกแต่งของวัสดุที่เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เอื้อในการใช้งานมากมาย 

MG6 2018 มีดีครบครันที่ฟีเจอร์การใช้งานทันสมัย กับภายใน 2 เฉดสีให้เลือกได้ 

ฟีเจอร์เด่นของ MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018) : ภายใน

• เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง คู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
• พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อม Paddle Shift และ Cruise Control
• ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง 
• เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold
• แผงบังแดดกระจกบังลมหลัง

ระบบ Infotainment 

• หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 
• ระบบนำทาง Navigation System
• ระบบ inkaNet จาก MG 
• ลำโพง 8 ตำแหน่ง

ดีไซน์พวงมาลัยและคอนโซลหน้าคือจุดด้อยของ MG6 ถ้าให้เทียบกับคู่แข่งน่าจะสู้ได้ยาก

Khaorot Comment : ถือว่าให้มาครบครันคุ้มค่าสำหรับการจะเป็นเก๋งหรูเหนือระดับสักคันของใครสักคน แต่ติดเพียงในเรื่องของดีไซน์ซึ่งตรงนี้ถ้าใครชอบก็ไม่เกี่ยงความรู้สึกใคร  แต่ในความคิดเห็นของผู้เขียนมองว่า อาจจะดูไม่ค่อย “โฉบ” สักเท่าไรในเรื่องของดีไซน์เมื่อมองเทียบกับรุ่นอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวงมาลัยทรงใหญ่หนาทึบมโหราฬ คือส่วนส่วนสำคัญที่ทำให้ภายในของ MG6 คันนี้ น่าเบื่อดูไม่ค่อยน่านั่งขึ้นมาทันทีที่เห็น ดีที่เรื่องของดีไซน์ส่วนอื่น ๆ ทั้งรูปทรงเบาะ แผงคอนโซลกลาง ยังพอไปวัดไปวาได้ และฟีเจอร์ครบ ๆ ทั้งเบาะปรับไฟฟ้า เบรกมือไฟฟ้า แอร์เบาะหลัง ที่เข้ามาช่วงพยุงให้คะแนนในเรื่องภายในของ MG6 คันนี้ ไม่แย่ไปจนเกินเยียวยา 

ราคาและตารางผ่อน ALL NEW MG3 HATCHBACK “WE ARE FUN” แค่ลองเปลี่ยน ก็สนุก มีความสุขอย่างมีสีสัน

4. รีวิวระบบขับเคลื่อนของ MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018)

MG6 2018 มากับเครื่องยนต์เทอร์โบทุกรุ่นย่อย จากที่ก่อนหน้าจะมีรุ่นเครื่องยนต์ “ไร้” เทอร์โบมาให้เลือกด้วย แต่หลังจากไมเนอร์เชนจ์ก็ปรับมาเป็นรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบทั้งหมด เป็นเครื่องยนต์เบนซินรหัส 18K4G แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ TCI-TECH ขนาด 1.8L กำลังสูงสุดอยู่ที่ 161 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 215 Nm แบบขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed Dual Clutch ที่มีการพัฒนาให้การขับเคลื่อนให้เป็นไปอย่างราบรื่นจากโฉมแรกเปิดตัว รองรับน้ำมันสูงสุดประเภท E85

เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.8L เร้าใจไม่น้อย ให้อารมณ์ปลายไหลแต่ต้นอาจจะต้อรอหน่อย 

ข้อมูลในเรื่องสมรรถนะของ MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018)

• น้ำหนักตัวรถ (กิโลกรัม) : 1548
• อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (วินาที) : 10.4
• ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตรต่อชั่วโมง) : 210

Khaorot Comment :  “ต้นช้าแต่ปลายไหล” ต้นอาจจะมาช้าไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ให้มาในรูปแบบพลังเทอร์โบ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกับเวลาระดับ 10 วินาที ไม่เร็วนักแต่ก็ไม่แย่ แต่ยังดีที่ปลายไหลสามารถไต่ระดับความเร็วสูงสุดไปได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าไมเลวเลยในสำหรับในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ของ MG6 2018 คันนี้ 

5. รีวิวด้านความปลอดภัย MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018)

ฟีเจอร์เด่นของ MG6 2018 (เอ็มจี 6 2018) : ระบบความปลอดภัย 

• ถุงลมนิรภัย 6 จุด (คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลมนิรภัย)
• คานเหล็กนิรภัยที่ช่วยรับแรงกระแทกจากด้านข้าง
• กล้องมองภาพด้านหลัง
• Steering Wheel Reminder : ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์  
• Dynamic Wheel Torque Control : ระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง  
• Tire Pressure Monitor System : ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง  

ความปลอดภัยจากถุงลมไม่ธรรมดา ให้มาถึง 6 จุดสำหรับ MG6

Khaorot Comment : ถือว่าดีแต่ยังไม่ดีเลิศด้วยเทคโนโลยีในด้านความปลอดภัย  ไม่มีระบบช่วยเบรกหรือ Active Safety ใด ๆ ด้วยเหตุที่ตัวรถรุ่นนี้ออกมาตั้งแต่ 2015 พร้อมกับทางค่ายก็ไม่ได้ให้น้ำหนักชูจุดเด่นในเรื่องนี้มากนัก จะเป็นในเรื่องของระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะกับมือถือ inkaNet มากกว่าซึ่งมีในเรื่องความปลอดภัยเข้ามาด้วยเช่น ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนความผิดปกติของตัวรถ, ฟังก์ชั่นติดตามรถยนต์แบบเรียลไทม์ 

inkaNet จาก MG ช่วยในเรื่องความปลอดภัยจากรถหายได้ด้วย 

6. สรุป

ยังดูธรรมดาเกินไปสำหรับ MG6 2018 คันนี้ที่จะดึงดูดเรียกแขกเรียกผู้ซื้อให้เข้ามาสนใจ กับสิ่งที่รถคันนี้มีและเป็นอยู่ แม้จะมากับสองทางเลือกทั้งในรูปแบบทั้ง Sedan และ Fastback ซึ่งแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย  เด่นที่สุดอาจจะเป็นแค่เรื่องภายนอกกับระบบความปลอดภัยจากถุงลมถึง 6 จุด ซึ่งนอกนั้นแล้ว สิ่งที่ MG6 2018 คันนี้มอบให้ก็ไม่ต่างกับตอนที่คุณจะเลือกกินข้าวมันไก่ในแหล่งที่มีหลาย ๆ ร้าน ซึ่งรสชาติมาตรฐานใกล้กัน ที่ในตู้มีไก่มัน ๆ ห้อยแขวนไว้ คนแน่นทุกร้านเหมือนกัน ซึ่งก็รู้ว่าไม่มีอะไรแตกต่างกันมากที่จะจ่ายเงินไปในราคาข้าวมันไก่สักจาก  

แค่ MG6 คันนี้อาจจะเป็นร้านที่เปิดใหม่ ที่ได้ลูกค้าจากอานิสงส์ร้านเก่าอื่น ๆ คนเต็ม ไม่มีที่นั่ง แต่ลูกค้าหิวมากก็มานั่งกิน ไม่ได้คาดหวังอะไร พอกินได้ให้อิ่ม ๆ ไป ไม่มีความโดดเด่นจนร้อง “Wow!” ที่จะทำให้เฉพาะเจาะจงต้องมากินที่ร้านนี้  อีกทั้งถ้าอยากได้เลือดได้เครื่องในเพิ่ม ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก เหมือนอย่างในกรณีของ “หลังคาซันรูฟไฟฟ้า” ที่เป็นส่วนของอุปกรณ์เสริม เจ้าของไม่ได้เป็นมิตรใจดี แถมให้ฟรีเพื่อซื้อใจทั้งที่เป็นร้านใหม่คนยังน้อยแท้ ๆ 

MG6 การใช้งานด้านต่าง ๆ ถือว่าทำได้ แต่ยังไม่ดีถึงดีที่สุดในทุกมิติของรถในกลุ่มนี้

ผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็น ยอดขายเกินพันคันมาแค่ปีเดียวจากย้อนหลัง 3 ปีของรถรุ่นนี้ ซึ่งน่าจะเป็นคำตอบได้ในหลาย ๆ อย่างว่าอะไรที่ทางค่ายผิดพลาดไปหรือเจตนาเพียงแค่ออกรถรุ่นนี้มา “ให้มี” ครบ ๆ ไปงั้น ๆ ทุกกลุ่มรถในตลาดเมืองไทย  ท่ามกลาง “ความธรรมดา” อาจจะมีบ้างที่ความสปอร์ตของภายในนอกและภายในให้ฟีเจอร์มาครบ ๆ แต่ MG6 2018 ก็ยังไม่มีอะไรที่ทำให้ “ซึ้ง” ได้ถึงความพิเศษเท่าที่ควร จนอยากขับในทันทีที่เห็นภาพ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม MG6 คันนี้ถึงไม่เป็นที่จดจำหรือถูกเรียกไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกของใครหลาย ๆ คนในตอนที่จะซื้อรถ 

แล้วคุณละคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ MG6 2018 ชอบหรือไม่ชอบตรงไหน และเพราะอะไร อย่าลืมบอกกับหน่อยที่ Comment ด้านล่างนี้ 

ดูเพิ่มเติม:
Toyota Camry ในความเรียบหรูภูมิฐานกับปัญหาต่างๆที่ผู้ใช้บอกเล่า
Nissan Teana 2019 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เผยโฉม 4 รุ่นย่อย เคาะราคาเริ่มต้น 1,339,000 บาท