Honda Jazz มือสองดีไหม ไขข้อข้องใจก่อนการเลือกซื้อรถ Honda Jazz มือสอง

ตั้งแต่ที่สังคมปัจจุบัน เริ่มมีการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความต้องการในการซื้อย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่งหรือมือสองก็ตาม แต่หากใครที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ก็ต้องมองหารถที่มีสมรรถนะดี ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ที่สำคัญคือราคาไม่แรงมาก หนึ่งในตัวเลือกก็คือการเลือกซื้อรถมือสองนั่นเอง ซึ่งหนึ่งในรถที่กำลังเป็นที่นิยมก็คงจะหนีไม่พ้น Honda Jazz อย่างแน่นอน โดยเราจะมาแนะนำพร้อมไขข้อข้องใจก่อนตัดสินใจซื้อมาเป็นรถคู่ใจ

1. ทำไมต้องซื้อรถยนต์ Honda Jazz มือสอง

หากพูดถึงรถยนต์ Hatchback แล้ว หลายคนจะต้องนึกถึง Honda Jazz อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง และการพัฒนาเทคโนโลยียนตรกรรมเองก็ไม่เคยน้อยหน้าใคร นอกจากนี้ การใช้งานยังตอบโจทย์หลายๆคน เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ รถค่อนข้างมีความทนทานสูง ตลอดจนบริการจากศูนย์ที่ใส่ใจลูกค้า จึงทำให้หลายคนมองหารถ Honda Jazz มาเป็นรถคู่ใจ ยังไม่รวมถึงดีไซน์และการออกแบบทั้งภายใสและภายนอก ที่ค่อนข้างสวย มีความเป็นสปอร์ตอยู่เล็กน้อย ตลอดจนระบบต่างๆภายในรถยนต์ ที่ทาง Honda จัดให้อย่างไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว

รถยนต์ Honda Jazz 

แน่นอนว่า ในส่วนของราคานั้น ถือว่าไม่ได้สูงมากนัก แต่อยู่ในระดับที่ผ่อนชำระได้ โดยเริ่มที่ราคา 500,000 บาท ไปจนถึง 800,000 บาท เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในตลาดรถยนต์มือสองเองราคา Honda Jazz ก็ค่อนข้างจับต้องได้ สำหรับคนที่มีงบจำกัด และมองหารถยนตร์ Hatchback มาขับขี่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถ Honda Jazz มือสองเองก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากสูงสุดถึง 300,000 บาท ด้วยกัน

2. สมรรถนะของ Honda Jazz เป็นยังไง

ในส่วนของสมรรถนะของรถยนต์ Honda Jazz นั้น ถือว่ามีให้แบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว อย่างเช่น ในรุ่น Honda Jazz 2018 เอง ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังที่สูงถึง 117 แรงม้า แน่นอนว่าอัตราเร่งค่อนข้างดี มักไม่เจอกับปัญหารถอืดมากนัก ยิ่งหากไม่ได้สัมภาระมาก ก็ถือว่าค่อนข้างใช้งานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หรือแม้กระทั่ง Honda Jazz 2016 เอง ก็ใช้เครื่องยนต์ที่ดีไม่แพ้กัน เพราะใช้เทคโนโลยี 2 หัวเทียน ถึงแม้จะมีการลดแรงม้าจาก 120 แรงม้า (PS) มาเหลือแค่ 88 แรงม้า (PS) แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้งานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่

เครื่องยนต์ Honda Jazz Hybrid

หากมองย้อนกลับไปแล้ว จะเห็นถึง Honda Jazz แทบจะเป็นรุ่นบุกเบิกในการขายรถยนต์นั่งขนาดเล็กเลยก็ว่าได้ ตามมาด้วยค่ายอื่นๆ ดังนั้น การพัฒนาและต่อยอดให้กับ Honda Jazz นั้นก็มีอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน จึงไม่แปลกใจเท่าใดนักหากรถยนต์รุ่นนี้จะได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มตลาดมือหนึ่งหรือมือสองก็ตาม

3. สภาพการใช้งานของรถ Honda Jazz ดีหรือไม่ หากจะซื้อมือสอง มีปัญหาอะไรบ้าง

หากสังเกตจากรีวิวจากผู้ใช้งานจริงนั้น จะเห็นว่า Honda Jazz ค่อนข้างมีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะการใช้เกียร์ออโต้ ที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายมากขึ้น เบาะนั่งสามารถพับได้หลากหลายรูปแบบ ระบบภายในสเถียร เครื่องยนต์ค่อนข้างแรงเทียบเท่ากับรถยนต์ขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งศูนย์บริการที่มีอยู่มากมายในแต่ละท้องที่ ซึ่งข้อเสียก็มีอยู่เช่นเดียวกัน เพราะบางคนมองว่าราคาค่อนข้างแพงหากเทียบกับรถยนต์ Hatchback จากค่ายอื่นๆ หลายคนจึงมองว่าหากจะซื้อ Honda Jazz นั้น หากเลือกเป็นมือสองน่าจะคุ้มค่ามากกว่า เนื่องด้วยการใช้งานไม่ค่อยมีปัญหา หากเกิดอะไรขึ้นมาทางศูนย์ก็พร้อมบริการเสมอ ซึ่งหลักๆแล้ว จากการใช้งาน ถือว่าเป็นรถยนต์อีกเครื่องที่มีอัตราเร่งค่อนข้างดี อุปกรณ์ภายในครบครัน ความอเนกประสงค์ค่อนข้างมาก จึงสามารถใช้งานได้หลากหลายกว่ารถรุ่นอื่นๆ

Honda Jazz มือสองในตลาดรถยนต์

ดีไซน์ด้านหลังของ Honda Jazz

4. ราคารถ Honda Jazz มือสองโดยเฉลี่ย

สำหรับราคารถยนต์ Honda Jazz มือสอง นั้น ถือว่าค่อนข้างราคาไม่ได้สูงมากนักหากเทียบกับสภาพโดยรวมและสมรรถนะของรถยนต์ที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยราคามือสองโดยเฉลี่ยนั้นเป็นเพียงการรวบรวมราคาขายตามท้องตลาดเท่านั้น และเป็นราคาที่สภาพของรถยนต์ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดอุบัติเหตุมาแต่อย่างใด

ราคา Honda Jazz มือสอง โดยเฉลี่ย

5. จะเลือกรถ Honda Jazz มือสองยังไงให้ไม่เสียเปล่า

สำหรับการเลือกรถ Honda Jazz มือสอง ตามท้องตลาดนั้น โดยหลักๆแล้ว จะต้องศึกษาดูก่อนว่าต้องการประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในเกณฑ์ใด ต้องการออฟชั่นเสริมภายในประมาณไหน เพราะในแต่ละปีที่ได้เปิดตัวออกมานั้น ทาง Honda เอง ก็ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยและความนิยมในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้น ผู้ที่กำลังมองหารถ Honda Jazz มือสอง จะต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละรุ่นเสียก่อน ว่าการใช้งานเป็นอย่างไร ถ้าหากใช้เพียงเป็นรถบ้าน ไม่ได้ใช้งานหนัก หรือขับข้ามจังหวัดบ่อย ก็อาจจะใช้รุ่นปี 2012-2015 ก็ได้ เพราะราคามือสองนั้นสามารถจับต้องได้ ประสิทธิภาพการใช้งานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ถ้าหากอยากได้ความทันสมัย เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ก็จะต้องเลือกรุ่นที่ไม่น้อยกว่า 2 ปี คือให้เลือกรุ่นปี 2016-2018 จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่า และที่สำคัญคือต้องไปดูว่าในแต่ละรุ่นแต่ละปี ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเท่าใด โดยการประเมินจากสภาพของรถที่นำมาจำหน่ายด้วยนั่นเอง

การเลือกซื้อรถ Honda Jazz มือสอง

นอกจากนี้ การเลือกซื้อ Honda Jazz มือสอง จะต้องดูงบประมาณที่เราสามารถใช้จ่ายได้โดยที่ไม่กระทบกับเงินส่วนอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ด้วย เพราะคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวนั้น จะต้องมีการสำรองเงินเอาไว้ในยามกรณีฉุกเฉินด้วย เนื่องจากไม่ใช่เพียงค่าน้ำมันเท่านั้นที่จะต้องใช้จ่าย

6. หากซื้อ Honda Jazz มือสอง จะมีค่าใช้จ่ายอะไรตามมาอีกหรือไม่

แน่นอนว่า หากผู้ที่ซื้อรถยนต์มาเป็นของตนเอง จะต้องมีการสำรองเงินสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆด้วย แต่ในส่วนของ Honda Jazz นั้น ต้องยอมรับว่าการซ่อมบำรุงหรือการดูแลรักษารถยนต์ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมากนัก หากเทียบกับรถยนต์จากทางยุโรปค่ายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม จากเสียงผู้ใช้งานนั้น ยังมีคนที่ถือว่าราคาอะไหล่ยังค่อนข้างแพงและหายากอยู่บ้าง เพราะทาง Honda นั้น ไม่ได้มีนโยบาบส่งอะไหล่ให้ร้านภายนอกซ่อมบำรุง ซึ่งจะทำให้บางครั้งอาจจะต้องเสียเวลาในการรอด้วยก็ได้หากในอนาคตจะต้องมีการซ่อมบำรุงเกิดขึ้น

ตัวอย่างดีไซน์ภายในของรถยนต์ Honda Jazz

สรุป

สำหรับการเลือกซื้อรถยนต์ Honda Jazz มือสอง ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายกับผู้ซื้อได้ค่อนข้างมาก และด้วยตัวเลือกในตลาดรถยนต์มือสองที่มีมากนี้เอง ที่ทำให้สามารถเลือกซื้อได้ง่ายมากขึ้น เพื่อการได้มาซึ่งรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง และการใช้งานที่มีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม : 

• Nissan Note รถอีโค คาร์พรีเมี่ยม กับสรุปรวมข้อดี-ข้อเสีย
• แนะนำรถยนต์ใหม่ราคาไม่เกินล้าน พร้อมออพชั่นครบครัน !!