Ford Ranger Raptor 2020 ลุยเวียดนาม ผ่านอุปสรรคสุดโหด วิ่งบนทะเลทราย

Ford Ranger Raptor 2020 กับเมืองดาลัด ที่โด่ย ก่อ ฮอง (Doi Co Hong)

ฟอร์ด ประเทศไทย ได้จัดทริปสุดพิเศษนำคณะสื่อมวลชนไทย ร่วมผจญภัยกับเส้นทางสุดท้าทายในประเทศเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน กับ Ford Ranger Raptor 2020 รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงอันโดดเด่น กระตุ้นอะดรีนาลีนของการขับขี่แบบออฟโรดให้สูบฉีบด้วยความเร้าใจ 

Ford Ranger Raptor 2020 เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ปรับปลายปี 2019

กิจกรรมในครั้งนี้ สื่อมวลชนได้สัมผัสบรรยากาศอันสวยงามตระการตาของมุยเน่ เมืองรีสอร์ตบนชายฝั่งทะเล ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม ภายใต้ธีม "Ranger Raptor: Arabian in Mui Ne"

Ford Ranger Raptor 2020 ที่งาน Motor Expo

Ford Ranger Raptor 2020 เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ในงาน Motor Expo 2019 ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน

จุดที่โดดเด่นคือ อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) ใช้โช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX เพื่อซับแรงกระแทก ช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้นและระยะช่วงล้อที่กว้างขึ้น มุมไต่และมุมจากเพิ่มขึ้น ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อคทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น

Ford Ranger Raptor 2020 มากับขุมกำลัง ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร

ขุมกำลังเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร มอบแรงบิดและแรงม้าที่เต็มประสิทธิภาพด้วยเทอร์โบ 2 ลูกและอัตราทดเกียร์ที่แคบลง

แชสซี ระบบเบรก และช่วงล่าง ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับระบบช่วงล่างที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มระยะช่วงล้อคู่หน้าและหลัง และยังเพิ่มระยะการให้ตัวของล้อได้มากขึ้น ตอบสนองการขับขี่ออฟโรดความเร็วสูง และทนต่อแรงกระแทกที่อาจเกิดจากการขับขี่ได้ดีเยี่ยมด้วยเหล็กอัลลอย HSLA (High-Strength Low-Alloy) เกรดต่าง ๆ อีกทั้งยังเสริมความแข็งแรงด้านข้างของแชสซี (side-rails) เพื่อรองรับแรงกระแทกที่เกิดจากการขับขี่ด้วยความเร็วสูง 

Ford Ranger Raptor 2020 ยางล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยาง LT285/70 R17 A/T

แชสซีด้านหน้าเพิ่มความแข็งแรงของจุดยึดหูโช้คที่ถูกขยายความสูงขึ้นมา ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบคอยล์โอเวอร์ช็อคซึ่งทำขึ้นมาพิเศษเฉพาะเรนเจอร์ แร็พเตอร์ เท่านั้น รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์ ช่วยให้เพลาเคลื่อนที่ขึ้น-ลงได้อย่างอิสระโดยที่มีการขยับตัวในแนวราบน้อยมาก จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น ขนาดล้อและยางล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยาง LT285/70 R17 A/T

ไฮไลต์อุปกรณ์และเทคโนโลยีใน Ford Ranger Raptor 2020

ไฟหน้าแบบ LED โปรเจ็คเตอร์ พร้อมไฟวิ่งกลางวัน LED และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (LED Projector with LED DTRL and Auto Headlamps), ไฟตัดหมอกหน้า, กระจังหน้าแบบพิเศษ Raptor 

กระจังหน้าแบบพิเศษ Raptor 

แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถเหล็กกล้าหนา 2.3 มม., ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift, แป้น Paddle Shifter แบบแมกนีเซียม, ปรับเบาะที่นั่งคนขับแบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ปรับเบาะที่นั่งผู้โดยสาร 4 ทิศทาง, เบาะนั่ง Alcantara แบบโอบกระชับตัว, พวงมาลัยชนิดพิเศษ Raptor

พวงมาลัยชนิดพิเศษ Raptor

ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System), ระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation System), เฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential, ถุงลมนิรภัย 6 จุด: คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, ระบบความคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control), ระบบ Terrain Management System (TMS)

Ford Ranger Raptor 2020 ปรับโหมดการขับขี่ได้ 6 รูปแบบ

ระบบเลือกโหมดการขับขี่ Terrain Management (Terrain Management System) ปรับโหมดการขับขี่ได้ 6 รูปแบบ ผู้ขับขี่จึงสามารถควบคุมรถได้ดั่งใจในแต่ละสภาพถนน อันประกอบด้วย 

- โหมดปกติ – เน้นความสบาย นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน
- โหมดสปอร์ต – ตอบโจทย์ผู้ที่มีใจรักการขับขี่ทางเรียบ เน้นการเปลี่ยนเกียร์เร็วและฉับไวในขณะที่รอบเครื่องสูง พร้อมทั้งค้างรอบเครื่องสูงไว้เพื่อให้การตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้นอย่างที่ผู้ขับขี่ต้องการ
- โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ – ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ โดยระบบจะทำการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลขึ้นพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดอัตราการลื่นไถลของล้อรถ
- โหมดโคลน/ทราย – ระบบจะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง
- โหมดหิน – ใช้เมื่อขับขี่บนพื้นผิวในเขตภูเขาที่ลาดชัน ต้องใช้ความเร็วต่ำ และเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ 
- โหมดบาฮา – ระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ โดยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

Ford Ranger Raptor 2020 สีมาเกือบครบ ขาดเพียงสีขาว

Ford Ranger Raptor 2020 มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทา Conquer Grey สีแดง True Red สีดำ Absolute black สีขาว Arctic White และสีใหม่ สีน้ำเงิน Performance Blue

Ford Ranger Raptor 2020 หลุมนี้ลึกราว ๆ 160 ซม.

Ford Ranger Raptor 2020 ทดสอบ จุดชมวิวโด่ย ก่อ ฮอง (Doi Co Hong) กับทัศนียภาพของป่าสนพร้อมกับด่านอุปสรรค์ที่ไม่คิดว่าจะผ่านได้

ซึ่งการทดสอบแบ่งออกเป็น 7 ด่าน เพื่อทดสอบสมรรถนะด่านต่าง ๆ มีอยู่ 2 ด่านที่ Ford Ranger Raptor 2020 ได้โชว์สมรรถนะอันน่าทึ่ง คือด่าน rebound&rebump ที่ตะแคงข้างชันกว่า 30 องศา ด้วยการออกแบบที่พิเศษอย่างบันไดข้างที่ไม่ขูดกับเนิน เพราะจุดยึดบันไดออกแบบพิเศษระดับเดียวกับแชสซีย์ ทำให้ใช้ความสูงใต้ท้องรถ 281 มม. ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงอาการแบะของล้อที่ไม่มีให้เห็นด้วยวัตต์ลิงค์

Ford Ranger Raptor 2020 สามามารถใข้การยืด-ยุบของโช้ค และความสูงใต้ท้องรถ ได้อย่างเต็มที่

ด่านทดสอบ diff-lock ซึ่งเป็นการไต่หลุมที่ลึกว่า 150 ซม. ใช่ครับฟังไม่ผิด และในการทดสอบเราแค่ขับเข้าไลน์ให้ล้อได้สัมผัสพื้นบ้าง เดินคันเร่งเบา ๆ ก็ผ่านได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ.....

Ford Ranger Raptor 2020 ไต่ทางชัน มองเห็นแต่ท้องฟ้า

นอกจากนี้เราก็ยังได้ทดสอบระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา Hill Descent Contro ที่ปรับความดันเบรกอย่างต่อเนื่อง และการวิ่งด้วยความเร็วสูงในบาฮาโหมดบนทางลูกรัง ทั้งหมดก็ต้องชมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox ที่ในทริปนี้ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็ม

Ford Ranger Raptor 2020 กับ ทะเลทรายขาวมุยเน่

เดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองมุยเน่ ด้วยระยะทางประมาณ 205 กิโลเมตร และเปิดประสบการณ์วิ่งบนทะเลทราย

เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าจดจำในการขับขี่ระหว่างเมืองที่เวียดนาม เพราะ Ford Ranger Raptor 2020 จากประเทศไทยเป็นพวงมาลัยขวา บนจราจรแบบทางขวาทำให้รถช้าแทรกจากทางขวาแบบไม่คุ้นชิน ที่สำคัญคือการขับขี่จากคนท้องถิ่นด้วยมอเตอร์ไซค์ที่สามารถโผล่ออกมาได้จากทุกมุม หรือแม้กระทั่งสวนเลน

Ford Ranger Raptor 2020 พวงมาลัยขวา วิ่งจราจรทางขวา

ซึ่งการควบคุมความเร็วของระหว่างเมืองจะขับได้ไม่เกิน 55 กม./ชม. อย่างเข้มงวด ทำให้แม้จะขับตัดหน้าสยังไงก็พอจะเบรกทัน รวมถึงวัฒนธรรมการใช้แตรที่กดกันแบบไม่มีพัก

ถึงแม้จะต้องเดินทางไกล แต่ด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อย่างระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ฟีเจอร์ใหม่ในเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทำให้การขับรถระยะไกลเป็นไปได้อย่างผ่อนคลายยิ่งขึ้น ถึงแม้จะเจอสิ่งรบกวนบ้างก็ตาม

นอกจากนี้ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ยังช่วยเหลือผู้ขับขี่เมื่อต้องขับผ่านเส้นทางที่มีการจราจรพลุกพล่าน และคลาคล่ำไปด้วยมอเตอร์ไซค์ในเวียดนาม

ถึงทะเลทรายขาวมุยเน่ หรือ White Sand Dunes ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของเวียดนาม ทริคสำหรับการขับบนทะเลทรายคือต้องลดความดันยางจาก 35 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) เหลือประมาณ 15 PSI เพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับทรายได้มากที่สุด

ซึ่งในทะเลทรายพื้นจะมีความนิ่มมาก บวกกับน้ำหนักรถเกือบ 2 ตัน เมื่อเจ้าพื้นที่ทะเลทรายห้ามหยุดรถเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นทรายจะดูดจนจม

โหมดที่เราใช้ขับขี่บนทะเลทรายก็คือ Baja Mode (โหมดบาฮา) คือพวงมาลัยจะไว คม เครื่องยนต์จะเร่งรอบสูงกว่า 4000 รอบต่อนาที ไม่ว่าคุณจะเหยียบคันเร่งหรือไม่ ระบบก็จะปิดแทร็คชั่นคอนโทรลเพื่อดึงเอากำลังสูงสุดออกมาใช้เสมอ

บนทะเลทรายรถ การควบคุมต้องมีสติและอย่างหลงพวงมาลัย พวงมาลัยจะดิ้น เหวี่ยง หมุนตลอดเวลา และต้องแก้ตามอาการไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญคือจุดตัดเนินที่จะไม่เห็นรถคันอื่นพุ่งมาเข่นกัน นับว่าเป็นประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมมาก

ทั้งหมดนี้เป็นบทพิสูจน์ Ford Ranger Raptor 2020 ด้านศักยภาพของรถ ที่มีราคาจำหน่าย 1.699 ล้านบาท แต่สามารถลุยออฟโรดระดับความยากได้สูงมากอย่างทะเลทราย โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรจากโรงงาน

อ่านเพิ่มเติม
- รีวิว Ford Ranger Raptor 2020 เข้มแกร่ง ตกแต่งสปอร์ต