รถยนต์ต้นแบบ EQA จาก Mercedes-Benz
เริ่มจาก EQA รถยนต์ต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ EQ ที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพ็กต์ด้วยระบบขับเคลื่อนซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งชุดที่เพลาหน้าและอีกหนึ่งชุดที่เพลาท้าย ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ให้กำลังสูงสุดกว่า 200 กิโลวัตต์ การออกแบบภายนอกเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Sensual Purity ลบองค์ประกอบที่เป็นสัน และเส้นออกไปเพื่อให้ดีไซน์มีความเนียนตาและบริสุทธิ์หมดจดมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีไฟส่องสว่างโดดเด่นด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์โดยที่ตัวกลางซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงเลเซอร์ได้ถูกฝังไว้ในแกนกลางของเคเบิ้ลใยแก้ว ไฟรูปทรงขดเกลียวเล็กๆ สวยสะดุดตาช่วยเน้นย้ำแนวคิดของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งด้วยการออกแบบที่ชวนให้นึกถึงขดลวดทองแดงในมอเตอร์ไฟฟ้า และภาพการเคลื่อนไหวที่ให้มโนภาพถึงการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า
EQA มาพร้อมโหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ คือ “Sport” และ “Sport Plus” ปรับเปลี่ยนแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหน้า และล้อหลังในอัตราที่แตกต่างกัน จึงเลือกบุคลิกการขับขี่ในแต่ละแบบได้ แผงสีดำบริเวณตอนหน้าของรถทำหน้าที่เป็นกระจังหน้าแบบเสมือน และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามโหมดการขับขี่ที่ใช้ โดยในโหมด “Sport” กระจังจะแสดงภาพปีกติดเปลวเพลิงในแนวนอน ส่วนในโหมด “Sport Plus” ภาพที่แสดงจะเป็นเส้นขีดแนวตั้งรูปกระจังหน้าในแบบแพนอเมริกาน่าระยะทางขับขี่ของ EQA อยู่ที่ประมาณ 400 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูงนี้ เป็นแบบเซลล์กระเป๋า (Pouch Cell) ซึ่งผลจากการออกแบบในแบบโมดูลาร์ ทำให้ระบบแบตเตอรี่ชนิดนี้มีความจุรวมเฉพาะรุ่นมากกว่า 60 kWh โดยรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นต้นแบบนี้ยังสามารถชาร์จไฟฟ้าผ่านการเหนี่ยวนําแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) หรือวอลล์บ็อกซ์ และยังรองรับการชาร์จเร็ว (Rapid Charging) อีกด้วย
รถยนต์ Mercedes-AMG GT S
สำหรับด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี ที่มีมาอย่างมากมายเพื่อช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น อาทิ ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE® Plus และระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) นอกจากนี้ เทคโนโลยีเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G transmission รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension
ต่อท้ายด้วย Mercedes-AMG GT S น้องใหม่ ในตระกูล AMG GT ที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านเครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบกันสะเทือน ตลอดจนดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก วางขุมพลังวี8 เทอร์โบคู่ มีพละกำลังสูงถึง 522 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. อยู่ที่เพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น
ดีไซน์ภายนอกสวยงามด้วยฝากระโปรงหน้าแบบ jet wing ที่แสดงให้เห็นถึงความกว้าง ปราดเปรียว ดูลู่ขนานไปกับพื้นถนน ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ล้อหลังขนาด 20 นิ้ว ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance โครงสร้างตัวรถน้ำหนักเบาแบบ spaceframe ผลิตจากอลูมิเนียม แม็กนีเซียม และเหล็กกล้า ซึ่งทำให้ตัวรถมีศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ภายในตกแต่งเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง พวงมาลัย AMG Performance Steering wheel
ทั้งหมดนี้ แฟนรถค่ายตราสาวดาว สามารถเข้าชมรถยนต์ ทั้ง สามรุ่นนี้ ได้ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 61 - 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี
ดูเพิ่มเติม:
ฮือฮา Mercedes-Benz EQC รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบตัวแรกของแบรนด์
Mercedes-Benz S 560 Cabriolet 2018 เผยโฉมอย่างสง่างาม มาพร้อมกับราคาที่สมน้ำสมเนื้อ 16.72 ล้านบาท