All New Mercedes Benz A-Class 2019 เปิดตัวตัวถังซีดานสุดสวย เคาะราคา 2.49 ล้านบาท

22 ส.ค. 2562 | 316 View | ข่าวตลาดรถยนต์ในประเทศ

All New Mercedes Benz A-Class 2019 ตัวถังซีดาน เปิดตัวในไทย ราคาจำหน่าย 2,490,000 บาท เจเนอเรชั่นที่ 4 ของ เมอเซเดส เบนซ์ a-class 2019 ตัวถังซีดาน มีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียว

คลิป All New Mercedes-Benz A Class 2019 ตัวถังซีดานสวยจริง แถมเครื่องเล็กแต่แรงเว่อร์

วันที่ 22 สิงหาคม 2562 เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Mercedes-Benz A-Class 2019 ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 4 เข้ามาเติมเต็ม พอร์ตโฟลิโอของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ (Compact Car) ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเพียงรุ่นย่อยเดียว Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ ที่ดูสปอร์ต และโฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วยดีไซน์ภายนอก และภายในที่ได้รับการออกแบบใหม่

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019

นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ครั้งแรกจากการเปิดตัว Mercedes-Benz A-Class ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อปีพ.ศ. 2540 นับเป็นเวลากว่า 20 ปี ที่รถยนต์ตระกูล A-Class ได้รับการพัฒนาสมรรถนะในด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับรูปแบบดีไซน์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ตระกูล A-Class ได้รับการตอบรับที่ดีจากสาวกดาวสามแฉกจากทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก"

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019 กับด้านท้าย

"โดยในปีที่ผ่านมารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ถูกจำหน่ายทั่วโลกทุก ๆ สี่คันจะเป็นรถยนต์ คอมแพ็คคาร์หนึ่งคัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประสบความสำเร็จในตลาดพรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์ คือ การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ ของรถยนต์ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในรถยนต์ ตลอดจนความสามารถในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมในด้านสมรรถนะที่ดีเยี่ยม และมอบความสะดวกสบายให้แก่ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อย่างเหนือระดับ"

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019 ดีไซนืด้านหน้า แรงบัลดาลใจจาก CLS-Class

"ด้วยเหตุนี้ ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงมีความมุ่งมั่นในการสานต่อความสำเร็จของรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ The new Mercedes-Benz A-Class 2019 เจเนอเรชันที่ 4 ในรุ่น Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic เจาะกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนรุ่นใหม่"

ปัจจุบันตระกูล A-Class 2019 จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น ราคาดังนี้

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ราคา 2,490,000 บาท
Mercedes-Benz CLA 200 Urban ราคา 2,140,000 บาท
Mercedes-Benz CLA 250 AMG Dynamic (Night Edition) ราคา 2,380,000 บาท
Mercedes-Benz CLA 250 AMG Dynamic (WhiteArt Edition) ราคา 2,440,000 บาท
Mercedes-Benz GLA 200 Urban ราคา 2,175,000 บาท
Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic ราคา 2,410,000 บาท

ด้านข้างของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019

ดีไซน์ภายนอก Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019

การดีไซน์สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity เน้นความเรียบง่ายและให้ความสำคัญกับผิวสัมผัส โครงสร้างภายนอก พร้อมพาร์ทแบบ AMG ด้านหน้าของตัวรถดูมีความล้ำสมัยสอดรับกับช่วงกระโปรงหน้าที่ลาดตัวต่ำและทอดตัวยาว

กระจังหน้าแบบ diamond radiator grille ที่ประกอบด้วยเส้นเดี่ยวแนวนอน และตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง ด้านข้างออกแบบให้ดูทรงพลังสอดรับกับเส้นสายที่ทอดตัวอยู่บริเวณช่วงล่างของตัวถัง ช่วยให้ตัวรถดูกว้าง ส่วนกระจกมองข้างนั้นอยู่ในระนาบเดียวกับขอบล่างของกระจกห้องโดยสารพอดี

ล้อแม็กซ์ของ AMG ขนาด 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่ลายดาว

ล้อแม็กซ์ของ AMG ขนาด 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่ลายดาว โคมไฟหน้าแบบ LED High Performance เพรียวบางและกรอบเคลือบโครเมี่ยมที่ทำงานร่วมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ที่มีลักษณะคล้ายคบเพลิง

ดีไซน์ภายใน Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019

ห้องโดยสารดูทันสมัย สไตล์สปอร์ตแบบ AMG โดยจะมีพื้นที่ว่างบริเวณช่วงไหล่ ข้อศอก และเหนือศีรษะมากกว่าค่าเฉลี่ยของรถยนต์ประเภทเดียวกัน รวมไปถึงการออกแบบห้องโดยสาร ตอนหลังให้เข้าออกได้ง่าย ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตร 420 ลิตร ช่องกระโปรงหลัง มีขนาดกว้าง 950 มิลลิเมตร และมีระยะเส้นทแยงมุมจากตัวล็อกถึงขอบล่างของกระจกหลัง ถึง 462 มิลลิเมตร ช่วยให้ใส่หรือนำสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ออกได้อย่างสะดวก

พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa

พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre ทั้งหมด โดยเบาะที่นั่งด้านคนขับจะมาพร้อมหน่วยบันทึกความจำ อีกทั้งเบาะด้านหลังยังสามารถพับได้แบบ 40:20:40

แผงหน้าปัดฝาครอบทรงปีกนกที่ทอดยาวตั้งแต่ประตูหน้า ผ่านคอนโซลกลางอย่างไร้รอยต่อ เชื่อมไปจนถึงด้านบนของแผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้วต่อกัน 2 หน้าจอ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยหน้าจอทั้งสองจะอยู่ติดกันและมีลักษณะลอยตัวแบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่าง ๆ ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ Widescreen ขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน อีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ระบบสัมผัส (Touchscreen) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่นำหน้าจอระบบสัมผัสมาใช้ในรถยนต์คอมแพ็คคาร์

Touchpad สามารถใช้ควบคุมเครื่องเสียงได้

ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและออกคำสั่งได้ด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ หรือใช้ Touchpad ส่วนช่องออกแบบโดยใช้กังหัน (turbine) ส่วนล่างของคอนโซลกลางยังได้รับ การออกแบบให้มีลักษณะคล้ายปีกที่ดูแบนราบและไร้รอยต่อจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของ ห้องโดยสาร โดยมีระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารที่มีให้เลือกถึง 64 สี มากกว่ารุ่นก่อนหน้า ถึง 5 เท่า ที่ช่วยขับเน้นเอกลักษณ์นี้โดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถผสมสีสันต่าง ๆ เพิ่มเป็นสีพิเศษ ได้อีก 10 สีสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครอีกด้วย

ความปลอดภัยเด่นของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีในรถยนต์รุ่นก่อนหน้ามากมาย เช่น

ระบบช่วยหยุดรถ (Active Brake Assist) ที่ได้รับพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นโดยสามารถ ลดความเสียหายหรือป้องกันการพุ่งชนกับรถยนต์ข้างหน้าที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า กำลังชะลอ หรือแม้แต่รถที่จอดอยู่ข้างหน้าได้ และยังช่วยป้องกันไม่ให้รถเฉี่ยวชนกับผู้ที่ข้ามถนนหรือผู้ใช้จักรยานได้เช่นกัน
ระบบช่วยจอดพร้อมกล้องหลัง (Parking package with reversing camera) ที่จะช่วยให้การถอยจอดง่ายขึ้นอีกด้วย

MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience คืออีกไฮไลท์ของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019

มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่หลากหลายขึ้นเช่น

บริการ Mercedes me connect มาพร้อมฟังก์ชันอันโดดเด่นมากมายที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเพิ่มบริการ และฟังก์ชันต่าง ๆ ตามต้องการได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
Mercedes-Benz emergency call system ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชน เซ็นเซอร์ ของระบบนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ และส่งตำแหน่งของรถยนต์ให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที
Vehicle Monitoring เจ้าของรถยนต์สามารถเช็กตำแหน่งล่าสุด หรือเส้นทางการขับขี่ของรถยนต์ได้ผ่านแอปพลิเคชั่นของ Mercedes me connect ได้
Vehicle Set-up ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์ได้จากระยะไกล โดยเซ็นเซอร์ที่ อยู่ในรถจะตรวจสอบสภาพของรถยนต์ในขณะนั้น และส่งเป็นข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่น ให้ทั้งผู้ขับขี่ และศูนย์ซ่อมบำรุงสามารถเปิดดูรายละเอียดข้อมูลสถานะต่าง ๆ ได้
Maintenance Management ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อถึงเวลานำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ โดยจะตั้งวัน และเวลาเข้ารับบริการในครั้งต่อไปให้อัตโนมัติ
Remote Engine Start ฟังก์ชันที่ช่วยให้การใช้รถของคุณสะดวกสบายมากขึ้น โดยคุณสามารถเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศทำความเย็นล่วงหน้า หรือการสั่งเปิด หรือล็อกประตูรถจากระยะไกล
Online Booking ฟังก์ชั่นสำหรับการนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการต่าง ๆ จาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุม

MBUX เป็นระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับความสะดวกสบายให้แก่ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รองรับการสั่งการผ่านจุดสำคัญ 2 จุด คือ หน้าจอ Widescreen ระบบสัมผัส (หน้าจอส่วนอินโฟเทนเมนต์) และ Touchpad ที่อยู่ ตรงคอนโซลกลาง ระบบนี้มีจุดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติด้านการเรียนรู้ที่สามารถจดจำความต้องการ ของผู้เป็นเจ้าของผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้ MBUX เป็นระบบมัลติมีเดียที่สามารถปรับแต่งหรือปรับเปลี่ยนตามลักษณะ การใช้งานจริงของผู้เป็นเจ้าของรถได้ ซึ่งเป็นการสร้าง ความผูกพันระหว่างผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และรถยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยระบบนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ Navigation ระบบนำทางแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ GPS ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และแผนที่ ที่แสดงผลแบบสามมิติ (3D) ด้วยกราฟิกที่มีความละเอียดสูง ทำงานร่วมกับระบบ AR ในการนำทางโดยผู้ใช้สามารถหาจุดหมายที่ต้องการได้ด้วยการสัมผัสหน้าจอ

นอกจากนั้นยังสามารถรายงานสภาพถนนและสถานะของร้านค้าต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย Personal profiles ที่จะจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่แต่ละคนไว้ ทั้งลักษณะของการปรับเบาะ ที่นั่ง สีไฟในห้องโดยสารที่ชอบ สถานที่ที่ไปเป็นประจำ ฯลฯ โดยระบบนี้สามารถจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่ได้ถึง 22 โปรไฟล์ Linguatronic ระบบสั่งการด้วยเสียงที่รองรับได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน และภาษาฝรั่งเศสของทุกสำเนียงทั่วโลก (natural speech recognition) ระบบนี้สามารถรับรู้และเข้าใจเกือบทุกคำที่ปรากฏอยู่ในระบบอินโฟเทนเม้นท์ของรถยนต์ โดยผู้ขับขี่สามารถเปิดระบบได้เพียงพูดคำว่า "Hey, Mercedes"

ขุมกำลังของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic 2019 มาพร้อมขุมกำลังเบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ ขนาดความจุ 1,332 ซี.ซี. ให้กำลัง 163 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตัน-เมตรที่ 1,620 รอบต่อนาที สามารถเร่ง 0-100 กม/ชม. ใน 8.1 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 5.2-5.4 ลิตรต่อ 100 กม. หรือราว ๆ 19 กม.ต่อลิตร