เปรียบเทียบกันให้ชัด MG ZS กับ Mazda CX-3 รถรุ่นไหนดีกว่า?

1. เปรียบเทียบราคาจำหน่าย MG ZS กับ Mazda CX3

MG ZS 2018 ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Smart Car ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยมแต่เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้นไม่สูงมากนักเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักขับวัยรุ่นยุคใหม่ที่ชื่นชอบความสนุกไม่ซ้ำใคร มีสไตล์เป็นของตัวเองกอปรกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ไว้ใจได้ด้วยขุมพลัง VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ที่ผสานการทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวกับราคาที่ต้องจ่าย

MG ZS 2018

สำหรับราคาจำหน่าย MG ZS เดือนมิถุนายน 2018 มีดังนี้:

MG ZS รุ่น 1.5 C ราคา 679,000 บาท

MG ZS รุ่น 1.5 D ราคา 729,000 บาท

MG ZS รุ่น 1.5 X ราคา 789,000 บาท

มาสด้า CX-3 ถูกตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 835,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อนำมาเทียบกับบรรดารถตระกูล SUV Crossover ในเซ็กเมนต์เดียวกันแต่หากนำมาเปรียบเทียบกับขุมพลังที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร ที่ประสานการทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด นับได้ว่าคุ้มค่าสำหรับราคาที่ตั้งไว้เลยทีเดียว อีกทั้ง Mazda CX-3 โฉมนี้ยังให้ความสปอร์ตเร้าใจจากเส้นสายตัวถังภายนอกที่ได้รับการปรับปรุงให้สะดุดตามากยิ่งขึ้นด้วย

สำหรับราคาจำหน่าย Mazda CX-3 เดือนมิถุนายน 2018 มีดังนี้

MAZDA CX-3 รุ่น 2.0 E ราคา 835,000 บาท      

MAZDA CX-3 รุ่น 2.0 C ราคา 910,000 บาท
MAZDA CX-3 รุ่น 2.0 S ราคา 975,000 บาท
MAZDA CX-3 รุ่น 2.0 SP ราคา 1,083,000 บาท
MAZDA CX-3 รุ่น 1.5 XDL ราคา 1,193,000 บาท

2. เปรียบเทียบภายนอก MG ZS กับ Mazda CX3

ภายนอก MG ZS ยอดรถ SUV จากค่ายเอ็ม จี ดึงดูดทุกสายตาด้วยการดีไซน์เส้นสายตัวถังให้มีความโดดเด่นตอบโจทย์วัยรุ่นยุคใหม่ที่ชื่นชอบความสนุก เร้าใจ เสริมด้วยการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบไฟส่องสว่างที่คัดสรรค์มาอย่างดีเยี่ยมให้ทัศนวิสัยได้ดียิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ Daytime Running Lamp ลำสมัยด้วยการติดตั้งระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมสร้างประสบการณ์สุดล้ำค่าในทุกเส้นทางด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ให้ความหรูหราอย่างเต็มเปี่ยม อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกด้วยไฟตัดหมอกหน้า-หลัง

นอกจากนี้แล้ว MG ZS 2018 ยังเพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เช่นเดียวกัน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับ-พับ ได้ด้วยไฟฟ้า เสริมด้วยระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลาหน้า-หลัง ล้ำหน้าแบบสุดๆด้วยเทคโนโลยีระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง พร้อมสร้างความประทับใจด้วยการดีไซน์ฝาปิดกระโปรงท้ายแบบสปอร์ตใหม่ล่าสุดติดตั้งสปอยเลอร์หลังแนวสปอร์ต พร้อมที่เปิดฝากระโปรงท้ายรูปแบบใหม่ซ่อนอยู่ภายใต้สัญลักษณ์ MG สำหรับช่วงล่างให้ความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R 17

ฝากระโปรงท้ายรูปแบบใหม่ซ่อนอยู่ภายใต้สัญลักษณ์ MG

ส่วนคู่แข่งไซส์ครอสโอเวอร์เช่นเดียวกัน Mazda CX3 สร้างความโดดเด่นด้วยเส้นสายภายนอกดีไซน์ใหม่ผสานกับความคล่องตัวที่สามารถขับขี่ในพื้นที่จราจรแออัดได้อย่างดีเยี่ยม ให้ความโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Halogen ในรุ่น E และ C ส่วนในรุ่น S , SP และ XDL ได้รับการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED ผสานการทำงานร่วมกับระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Lamp) และ ไฟตัดหมอกคู่หน้า อีกทั้ง Mazda CX-3 โฉมใหม่ ยังได้เสริมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ด้วยระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ  รวมถึงไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (Auto Leveling System) และ ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา

ดูเพิ่มเติม:  ราคารถ MG

ส่วนด้านหลังติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต พร้อมแผงกันกระแทกสีน้ำเงิน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า เหนือชั้นด้วยกระจกกรองแสงรอบคันพร้อมลดเสียงรบกวนจากภายนอกแบบ (Green Tinted Mirror) ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตพร้อมปลายท่อโครเมี่ยม และ เสาอากาศแบบครีบฉลาม

Mazda CX-3

นอกจากนี้แล้วมาสด้ายังเพิ่มทางเลือกเฉดสีตัวถังให้มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ สีขาว Ceramic Metallic White , สีน้ำเงิน Eternal Blue , สีดำ Jet Black , สีเทา Meteor Grey และ สีแดง Soul Red ส่วนช่วงล่างล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว 215/50 R18

3. เปรียบเทียบภายใน MG ZS กับ Mazda CX3

ภายใน MG ZS ได้รับการดีไซน์ให้หรูหราตามแบบฉบับยานยนต์จากอังกฤษผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานภายในที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับพรีเมี่ยมเลยทีเดียวให้ความโดดเด่นจากเฉดสีตกแต่งภายในแบบทูโทนน้ำตาล-ดำ ล้ำหน้าด้วยการดีไซน์นำวัสดุ Soft Touch มาสร้างสรรค์ให้ห้องโดยสารดูงดงามมากยิ่งขึ้น ในส่วนของวัสดุหุ้มเบาะ MG ZS โฉมนี้ได้รับการผลิตจากหนังสังเคราะห์พร้อมให้ความสะดวกด้วยเบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งด้านหลังปรับพนักพิงได้แบบ 60:40 ให้ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นสำหรับคุณหนูๆด้วยการติดตั้งจุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ Isofix

ภายใน MG ZS หรูหราระดับพรีเมี่ยม

ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบอัจฉริยะ( Multi Function Display) พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ให้ภาพที่คมชัดมากยิ่งขึ้นด้วยกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน เสริมด้วยกระจกไฟฟ้าแบบ One Touch Up-Down ด้านคนขับ รวมถึงปุ่มสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล และ ช่องจ่ายไฟขนาด 12 V เติมเต็มทุกความบันเทิงด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและข้อมูลไร้สาย ติดตั้งระบบสั่งการ i-Smart ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ในทุกเส้นทางการขับขี่

ระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว

ทางด้านดีไซน์ภายในของ Mazda CX3 ได้รับการออกแบบให้สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้นผสานกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครันให้ความโดดเด่นด้วยวัสดุหุ้มเบาะหนังสีดำ และ ผ้า Lux Suede สีดำแต่งด้วยด้ายสีแดง แผงคอนโซลหน้าเรียบหรูตกแต่งด้วยหนังสีดำพร้อมด้ายสีแดง และ สีเงินซาติน วัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์สีเงินซาติน ส่วนระบบบังคับเลี้ยวติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Sport Paddle Shift พนักพิงเบาะด้านหลังแบบแยกปรับพับ 60:40 พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบ Jam Protection ที่ตำแหน่งคนขับ

ภายใน Mazda CX3 มาพร้อมห้องโดยสารขนาดกว้างขวาง

Mazda CX3 ยังได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี Active Driving Display พร้อมมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบ Digital ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์ให้ความบันเทิงผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander เชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสัญญาณบลูทูธ พร้อมสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัย เสริมด้วยฟังก์ชั่นระบบสั่งการด้วยเสียง Voice Recognition และ ระบบนำทาง Navigator

คอนโซลหน้า Mazda CX3 สปอร์ต โดนใจนักขับ

เปรียบเทียบ MG ZS กับ Honda HR-V รถรุ่นไหนดีกว่า มาดูกัน

4. เปรียบเทียบเครื่องยนต์ MG ZS กับ Mazda CX-3

MG ZS 2018 พร้อมสร้างอัตราการเร่งอย่างเต็มที่ผ่านการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน รหัส  I5S4C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode รอบรับเชื้อเพลิง E85 ส่วนระบบบังคับเลี้ยวในเอ็ม จี โฉมนี้ได้รับการติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังแร็ค แอนด์ พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า EPS สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุดโหมดการปรับน้ำหนักของพวงมาลัย

เครื่องยนต์ VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร

นอกจากนี้แล้ว MG ZS 2018 ได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน I-Smart Mobile Application อันเป็นเอกสิทธิของ เอ็ม จี ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของส่วนต่างๆภายในรถผ่านฟังก์ชั่นการใช้งานบนหน้าจอมือถือง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ , ระบบล็อก-ปลดล็อกประตู ระบบค้นหารถ Find My Car และ ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์

I-Smart Mobile Application ใน MG ZS

ตามมาติดๆกับ Mazda CX-3 อเนกประสงค์ SUV ตัวเก่งจากค่ายมาสด้ามากับขุมพลังที่มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิง E85 และ E20

ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลมากับขุมพลัง Skyactiv-D เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ/นาที โดยเครื่องยนต์ทั้ง 2 รูปแบบส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ Skyactiv-Drive อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic

ขุมพลัง Skyactiv ใน Mazda CX3

ทั้งนี้หากนำเครื่องยนต์จากทั้ง 2 ค่ายมาเปรียบเทียบกันต้องยอมรับว่า Mazda CX3 มีความเหลื่อมล้ำ MG ZS อยู่มากพอสมควรเนื่องจากรูปแบบเครื่องยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ทั้งในแบบเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล รวมถึงขนาดของเครื่องยนต์ที่มีความจุมากกว่าทำให้สามารถสร้างอัตราการเร่งได้ดีรวมถึงอัตราความเร็วในระยะการออกตัวที่เหนือกว่าอีกด้วย

5. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย MG ZS กับ Mazda CX3

สำหรับฟีเจอร์ความปลอดภัยจากทั้ง 2 ค่าย ล้วนแล้วแต่อัดแน่นไปด้วยระบบ Safety สุดล้ำหน้าที่ขนมาประชันกันได้อย่างไม่มีใครยอมใครโดยเฉพาะในรายแรก MG ZS ที่ชูจุดเด่นด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF ที่มีคุณสมบัติน้ำหนักเบาสามารถปกป้องห้องโดยสารรวมถึงผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี ส่วนคู่แข่งรายสำคัญ Mazda CX3 ให้การปกป้องอย่างสูงสุดไม่แพ้กันโดยเฉพาะระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาซึ่งเป็นจุดเด่นของมาสด้า CX3 โฉมนี้

ถุงลมนิรภัย 6 จุด บริเวณคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย

ระบบความปลอดภัยใน MG ZS มีดังนี้:

• โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF
• ระบบแจ้งเตือนความผิดปกติของลมยางแบบ TPSM
• กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง
• ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
• ถุงลมนิรภัย 6 จุด บริเวณคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงแบบอัตโนมัติ
• เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
• ระบบสัญญาณเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS
• ระบบฟ้องกันล้อหมุนฟรี และ ควบคุมการลื่นไถลแบบ TCS
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และ สัญญาณกันขโมย

ระบบความปลอดภัยใน Mazda CX3 มีดังนี้:

• ระบบไฟหน้าแบบ LED อัจฉริยะ ALH
• ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS
• ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS
• ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC

ระบบความปลอดภัย i-Activsense

• ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control
• ระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
• ระบบถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และ ม่านถุงลมนิรภัย
• พวงมาลัยยุบตัวแปรผันตามการทำงานของถุงลมนิรภัย
• คานเหล็กเสริมกันกระแทก ด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง

6. สรุป

 MG ZS 2018 จัดเป็นอีกหนึ่งในรถตระกูล SUV ที่น่าจับตามองในปี 2018 ด้วยราคาที่แตะต้องได้ไม่ยากนักสำหรับนักขับครอสโอเวอร์หน้าใหม่ที่เริ่มต้นเพียงแค่ 679,000 บาท เท่านั้น ตอบโจทย์ความทันสมัยผสานรูปร่างตัวถังทรงสปอร์ตพร้อมฟังก์ชั่นเสริมที่ทัดเทียมกับรถใน Segment เดียวกันที่ราคาสูงกว่าจัดว่าเด็ดทีเดียว ส่วน Mazda CX3 ครอสโอเวอร์ เอส ยู วี ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันพร้อมสร้างความแตกต่างด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยแบบสุดๆ ให้ฟีเจอร์พื้นฐานติดตั้งมาอย่างเต็มที่ในราคาเริ่มต้นเพียง 835,000 บาท ถึงแม้จะเป็นราคาที่สูงแต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสมรรถนะการขับขี่ทำงานร่วมกับช่วงล่างที่ขึ้นชื่อถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายเป็นอย่างยิ่ง

ดูเพิ่มเติม

สามารถดูบทความรีวิวรถยนต์ได้ที่นี่

All New Mazda 2 Sedan 2018 สปอร์ตคล่องตัวถูกใจนักขับ

All New Mazda 2 Hatchback 2018 ค้นพบสุนทรียภาพในทุกการขับขี่