เปรียบเทียบ Mini MPV 2 รุ่น ที่ร้อนแรงในตลาดอินเตอร์กับ Chevrolet Spin 2018-2019 กับคู่แข่ง Honda Freed 2018-2019

1. แนะนำ Chevrolet Spin 2018-2019 กับคู่แข่ง Honda Freed 2018-2019

แม้ว่าในประเทศไทย Chevrolet Spin 2018-2019  รุ่นปรับโฉม คงไม่น่าจะนำกลับมาจำหน่ายอีกแล้ว เพราะยอดขายของรถ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ขนาดเล็กรุ่นนี้ในไทยไม่ค่อยปังอย่างที่ตั้งใจนัก บวกกับขาลงของรถ MPV ซึ่งถูกแทนที่ด้วยรถครอสโอเวอร์ จนเสียศูนย์กันแทบทุกค่ายไม่ใช่เฉพาะ Chevrolet แต่ถึงกระนั้นในตลาดอเมริกาใต้นั้นยังคงได้รับความนิยมอยู่ หลังจาก Chevrolet Spin รุ่นปรับโฉมใหม่ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อย ผู้เขียนก็ถือเสียว่าเอารถยนต์ในรุ่นนี้มาทักทายและเปรียบเทียบในฐานะรถที่คนไทยเคยคุ้นก็แล้วกัน

ดูเลย:  รถมินิ

Chevrolet Spin Activ 2018-2019  ที่เปิดตัวในตลาดอเมริกาใต้ช่วงกลางปีที่ผ่านมา

ส่วนทางฝั่ง Honda Freed 2018-2019 ได้เปิดตัวในญี่ปุ่น แบบเครื่องยนต์ Hybrid  และรุ่นพิเศษ Modulo X  จัดว่าเป็นรถ MPV ขนาดกลางอีกรุ่น ที่ปัจจุบันทาง Honda ก็ยังไม่ได้เอามาทำตลาดต่อในประเทศไทยแต่ก็อยู่ในช่วงรอว่าจะมี Freed โฉมใหม่นี้ นำมาทำการตลาดในไทยหรือไม่ในอนาคต หลังจากเปิดตัวไปแล้วที่ญี่ปุ่นเมื่อปลายปีที่แล้วแต่ แต่ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์บวกกับประสบการณ์เชื่อว่าฮอนด้าจะนำมาจำหน่ายตอบสนองไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ในบ้านเราในไม่ช้า

Honda Freed 2018-2019 แบบ Hybrid กับรุ่นพิเศษ Modulo X แบบฉบับจากญี่ปุ่น

2. วัดกันที่ภายนอกระหว่าง Chevrolet Spin 2018-2019 Activ กับ Honda Freed 2018-2019

รูปลักษณ์ภายนอกของ Chevrolet Spin 2018- 2019 Activ รุ่นปรับโฉมนี้มาพร้อมกับดีไซน์ด้านหน้าออกแบบใหม่ทั้งหมด (ยกเว้นแก้มชิ้นส่วนด้านหน้า) โดยในรุ่น Activ ซึ่งเป็นรุ่น Top of The Line จับ Spin รุ่นมาตรฐานมายกตัวถังให้สูงขึ้นเล็กน้อย พร้อม เพิ่มแถบกันกระแทกสีดำ, กาบข้างสีดำ, คิ้วประตูสีดำ, เพิ่มวัสดุสีโครเมี่ยมบริเวณกันชนท้าย, ติดตั้งชายบันไดประตูสีเงิน , ติดตั้งแร๊คหลังคาใหญ่พิเศษ และมีการเปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะที่มีสีสันมากขึ้น สำหรับครอบครัวที่ต้องการทั้งความอเนกประสงค์และความเท่ห์ในสไตล์รถ Crossover รวมถึงดีไซน์ภายนอกอื่น ๆ ได้แก่ฝากระโปรงหน้าขึ้นรูปใหม่ ดูทันสมัย ไฟหน้าทรงเรียวยาว กระจังหน้า Dual Port แบบใหม่ กันชนหน้าใหม่ ที่มีช่องดักลมดูคล้าย Chevrolet Prisma ผสมกับ Opel Crossland X ต่อด้วยดีไซน์ไฟท้ายทรงเรียวยาวใหม่ ลายล้ออัลลอยใหม่ และดีไซน์สปอยเลอร์ด้านท้ายใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นปิดท้ายด้วยเปลี่ยนฝากระโปรงท้ายใหม่ ย้ายตำแหน่งที่ติดตั้งป้ายทะเบียน

ดูเลย:  ราคารถ Mini Cooper

ส่วน ภายนอก Honda Freed  2018-2019 รุ่นนี้นั้นจะมาพร้อมกับรูปร่างและขนาดใกล้เคียงกับรถแบบ Ford C-Max ที่มาพร้อมที่นั่งแบบ 7 ที่นั่ง (ตามการออกแบบรถอย่าง Freed Model) โดยมาพร้อมกับรูปแบบไฮบริด (Hybrid Model) ที่สมัยสวยงามและโดดเด่นมากขึ้นกับความลงตัวด้วยกระจังหน้า ไฟหน้า และกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ล้ออัลลอย 15″  สุดเฉียบพร้อมการออกแบบใหม่ของไฟท้ายและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบใหม่ที่ลงตัว

ดีไซน์ภายนอก Freed 2018-2019 (Modulo) ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจาก Freed รุ่นก่อนเล็กน้อย

ความสะดวกสบายกับประตูข้างสไลด์อัตโนมัติ ซ้าย-ขวาพร้อมรองรับที่นั่งผู้สูงอายุตามมาตรฐานของรถในญี่ปุ่น

กระจังหน้าดีไซน์พิเศษสำหรับกระจังหน้า ตัด สีขาว-ดำ ใน รุ่นแต่งพิเศษ  Modulo X

แม๊กซ์อัลลอยลายพิเศษ ขนาด 15 นิ้ว ในรุ่นแต่งพิเศษ Modulo X

ดูเพิ่มเติม:
เปรียบเทียบ Toyota Sienta 2018-2019 vs Honda Freed 2018-2019
Honda Mobilio มือสองดีไหม? ตัวเลือกในใจสำหรับคนเพื่อนเยอะ

3. รีวิวภายใน ระหว่าง Chevrolet Spin 2018-2019 กับ Honda Freed 2018-2019

Chevrolet Spin รุ่นปรับโฉม 2018-2019 นี้ได้พยายามปรับปรุงดีไซน์ภายในห้องโดยสาร จากเดิมให้ดูสากลมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์เด่นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ พวงมาลัยทรงใหม่ มาตรวัดแสดงผลแบบเข็ม ชิ้นส่วนพลาสติครอบมาตรวัดทรงใหม่ เปลี่ยนช่องแอร์ซ้าย – ขวา พร้อมกรุขอบโครเมี่ยม พร้อมดีไซน์คอนโซลบริเวณถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเป็นทรงเหลี่ยมสัน ส่วยดีไซน์อุปกรณ์ความบันเทิง มีการเปลี่ยนหน้าจอสัมผัส MyLink ขนาดใหญ่ขึ้น รองรับ Apple Carplay/Android Auto พร้อมบริการ OnStarพร้อมรายละเอียดปุ่มกดต่างๆภายในรถยนต์รวมถึงเปลี่ยนวัสดุครอบฐานเกียร์ด้วยวัสดุสะท้อนเงาอีกด้วยส่วนที่นั่งมีการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถเลื่อนไปด้านหน้าได้ 50 มิลลิเมตร และร่นไปด้านหลังได้ 60 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

ภายในกว้างขวางโอ่โถงทันสมัย

คอนโซลหน้าพร้อมฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ของ SPIN  มีการดีไซน์และเพิ่มเติมความทันสมัยมากขึ้น 

ขณะที่ภายในของ Honda Freed รุ่นนี้  มีการออกแบบให้ดูโก้เก๋ชิคๆ ตอบสนองคนรุ่นใหม่ด้วยสไตล์ ภายในที่ประกอบด้วยห้องโดยสารสีดำ Black – สีน้ำตาล Mocha ด้านคอลโซลกลางสีดำ Piano Black มาพร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ และพรมพื้นแบบพิเศษ ETC 2.0 OBE พร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง

คอนโซลที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ใน Freed Modulo 2018-2019

สีภายในตัวรถของ Freed Modulo สองโทนสีสองไสตล์ 

เบาะพับเก็บได้เพื่อความเอนกประสงค์

4. ขุมพลังและความแรงของ Chevrolet Spin 2018-2019 กับ Honda Freed 2018-2019

สำหรับขุมพลัง ของ Chevrolet Spin รุ่นนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร SPE/4 Eco บล็อก 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว หัวฉีก MPFI กำลังอัดสูงสุด 12.3 : 1 ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 165 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบ/นาที เมื่อเติมน้ำมันเบนซินมาตรฐาน และจะให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตรที่ 2,600 รอบ/นาที เมื่อเติมน้ำมันเอธานอล จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร SPE/4 Eco บล็อก 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว จาก Chevrolet Spin

ส่วนทางด้าน  ขุมพลังของ Honda Freed  2018-2019 ยังใช้ร่วมกับ Freed รุ่นปกติ ซึ่งมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส L15B แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,496 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 89.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 155 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15B

เบนซิน 1.5 ลิตร Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid รหัส LEB-H1 แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,496 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 89.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 29.5 แรงม้า (PS) ที่ 1,313 – 2,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ที่ 0 – 1,313 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า

เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.5 ลิตร รหัส LEB-H1

5. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย

ฟีเจอร์ระบบความปลอดภัย ของ Chevrolet Spin 2018-2019 รุ่นปรับโฉมนี้ มีการปรับปรุงให้ตรงกับมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น ได้แก่การเพิ่มพนักพิงศีรษะเบาะนั่งแถวที่ 2 ให้ครบทุก 3 ที่นั่ง อีกทั้งยังเพิ่มจุดยึด ISOFIX กล้องมองถอยหลังพร้อมเส้นประนำทาง และระบบเปิด-ปิด ใบปัดน้ำฝนอัตโนมัติสำหรับระบบความปลอดภัยอื่นๆ เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล ได้แก่ ถุงลมนิรภัย เบรก ABS เป็นค้น 

จุดยึด ISOFIX  เพิ่มความปลอดภัย ใน Chevrolet Spin Activ 2018-2019 

ส่วนฟีเจอร์เด่นด้านความปลอดภัยของ Honda Freed 2018-2019  ยังคงมาตรฐานเฉกเช่นรุ่นก่อน ซึ่งประกอบด้วย ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ช่วยปกป้องและลดการบาดเจ็บของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า เมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย จี-ฟอร์ช คอนโทรล (G-Force Control) หรือ จี-คอน (G-CON) เสริมโครงสร้างเหล็กกล้าพิเศษเพื่อช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกออกไปตามโครงสร้าง กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Seatbelts) จะดึงสายเข็มขัดให้ตึง ขณะที่ระบบผ่อนแรง (Load Limiter) จะช่วยป้องกันและลดแรงกดบริเวณหน้าอกเพื่อลดอาการบาดเจ็บ ระบบกุญแจนิรภัย (Immobilizer) และระบบสัญญาณกันขโมย เพิ่มความอุ่นใจกับมาตรฐานความปลอดภัย ถอยจอดอย่างมั่นใจกับกล้องส่องภาพด้านหลัง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS

ช่วงล่างช่วยการทรงตัวและความปลอดภัย ที่มีใน Freed Modulo X 2018-2019

6. สรุป

โดยภาพรวมทั้งสองรุ่นมีข้อดี ที่ต่างกันไปทีละด้าน  ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการและปัจจัยต่างๆของแต่ละคนถึงแม้ในตลาดเมืองไทยเราอาจจะยังไม่ได้สัมผัสรถยนต์ในโฉม 2018-2019  ทั้ง Chevrolet Spin Activ และ Honda Freed Modulo   ซึ่งทั้งสองรุ่นมีการปรับโฉมที่ดูน่าสนใจตอบสนองไลฟ์ไสตล์ คนยุคใหม่แต่ยังไงก็ตามหากทั้งสองค่ายนำทั้งสองรุ่นเข้าสู่สมรภูมิรถของ Segment นี้ในบ้านเราอีกครั้งเชื่อว่าคงจะสูสี เป็นตัวเลือกที่ผู้สนใช้รถยนต์กลุ่มนี้ต้องลำบากใจไม่น้อยในการเลือกรถยนต์ที่ถูกใจของคุณและครอบครัว

อ่านเพิ่มเติม :

• แต่ง Chevrolet Captiva 2018 ให้สวย ด้วยการมิกซ์ แอนด์ แมทช์

• Volvo XC60 2018 กับชุดแต่ง HEICO ทั้งเท่ทั้งเฉียบขาดบาดใจจนใครๆต้องเหลียวมอง