รีวิวรถ BMW X1 2018 เรียบหรูในระดับเฟิร์สคลาส

1. แนะนำ BMW X1 2018

BMW X1 2018 ยอดรถอเนกประสงค์ตระกูล X ที่ได้รับการดีไซน์ปรับโฉมให้ก้าวล้ำขีดจำกัดของนวัตกรรมการออกแบบด้วยรูปทรงภายนอกที่มีระยะโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นลงและฐานล้อยาวตามแบบฉบับของรถ SAV (Sport Activity Vehicle) เพื่อตอบโจทย์การขับขี่ทั้งในรูปแบบของเส้นทางเรียบ และ เส้นทางทุรกันดาร กอปรกับขนาดตัวถังที่มีการออกแบบให้กระชับคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภายในห้องโดยสารก็ได้รับการดีไซน์เพิ่มพื้นที่กว้างขวางรองรับเบาะนั่งทั้งสองแถวที่มีขนาดใหญ่

ดูเพิ่มเติม:  ราคา BMW i8

BMW X1 2018 ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ BMW Twin Power Turbo ขนาด 1.5 ลิตร สร้างสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันในทุกทริปการขับขี่ ส่วนฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกก็ได้รับการติดตั้งมาอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ ระบบนำทาง Navigation Plus พร้อมหน้าจอ LCD แบบสีขนาด 8.8 นิ้ว หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 5.7 นิ้ว พร้อมมาตรวัดขนาดใหญ่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถอ่านการตั้งค่าระบบต่างๆภายในรถได้สะดวกขึ้น

2. รีวิวภายนอก BMW X1 2018

รีวิว BMW X1 2018

ภายนอก BMW X1 2018 ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ Bi-LED ที่มีจำนวนดวงไฟรวมกันมากถึง 6 ดวงบ่งบอกความเป็นรถสายพันธุ์ X อย่างแท้จริงผสานการทำงานร่วมกับระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวันแบบ LED พร้อมสกู๊ปดักอากาศด้างล่างกระจังหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า เสาอากาศแบบครีบฉลาม ส่วนด้านหลังได้รับการติดตั้งไฟท้ายแบบ LED แนวนอน พร้อมกับการติดตั้งสัญลักษณ์ X1 ที่บริเวณฝาปิดท้ายรถ   

กระจังหน้าทรงไตคู่เจ็ดซี่

BMW X1 2018 สร้างความโดดเด่นสะดุดตาด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังในสไตล์รถแนว SAV ผสานเข้ากับความล้ำสมัยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบคนเมืองด้วยชุดแต่งแนว xLine เพิ่มเส้นสายอะลูมิเนียมบนตัวถังผลักดันให้ดูมีความทะมัดทะแมงมากยิ่งขึ้นซึ่งประกอบไปด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่เจ็ดซี่จากบีเอ็มดับเบิลยูที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เสริมด้วยการตกแต่งด้านหน้าด้วยอะลูมิเนียมแบบด้านพร้อมกรอบกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมพื้นมันวาว

ไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ Bi-LED

กันชนหน้าพร้อมแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถและชิ้นส่วนตกแต่งสีเงินแบบด้าน เพิ่มความสะดุดตามากยิ่งขึ้นด้วยชุดสเกิร์ตด้านข้างสีเงินแบบด้านเพิ่มความโดดเด่นทั้งในด้านหน้า และ ด้านหลังของรถ นอกจากความพิเศษด้านความสวยงามแล้วชุดแต่ง xLine ยังช่วยป้องกันร่องรอยขูดขีดที่เกิดขึ้นจากการขับขี่ในรูปแบบออฟโรดอีกด้วย

ไฟท้ายแบบ LED

นอกจากนี้แล้ว BMW X1 ยังได้รับการดีไซน์เพิ่มส่วนประกอบต่างๆบนตัวรถ เช่น Air Blade ด้านข้างบริเวณประตูท้าย และ Air Curtain ที่ช่องรับลมด้านหน้าซึ่งได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ช่วยลดแรงเสียดทานจากลมด้านหน้า และ เพิ่มการประหยัดพลังงานมากขึ้น ส่วนช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว แบบ Y-Spoke 566 และ ท่อไอเสียแบบคู่

ระบบเปิดฝากระโปรงท้ายแบบอัตโนมัติผ่านระบบเซ็นเซอร์

รีวิว BMW 730 Ld M Sport เรียบหรู พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน

3. รีวิวภายใน BMW X1 2018

ภายใน BMW X1 2018 ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตด้วยบันไดประตูด้านหน้าตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมสลักสัญลักษณ์ BMW พวงมาลัยหุ้มหนังแท้สไตล์สปอร์ต กุญแจรถตกแต่งด้วยสี Pearl Chrome เพิ่มความสะดุดตามากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งลายไม้ Oak Grain แบบด้าน ผสานกับชุดไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารที่สามารถเลือกปรับสีได้ทั้งสีส้มกับสีขาวพร้อมไฟ LED Optical Fiber ที่แผงบุประตู ให้ความเย็นสดชื่นมากยิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ

เปิดตัว BMW X2 2018 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์2 2018)

ภายในเพิ่มความสะดุดตาด้วยการตกแต่งลายไม้ Oak Grain แบบด้าน

BMW X1 2018 ได้รับการติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Dakota แบบฉลุเจาะรูที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก กอปรกับการดีไซน์เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารมากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคนขับแบบยกสูงเพื่อให้ได้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนและออกจากตัวรถได้อย่างสะดวกอีกด้วยผลักดันให้ห้องโดยสารดูมีชีวิตชีวาน่าสัมผัสในสไตล์รถ SAV ที่มีแนวหลังคาสูงช่วยให้ห้องโดยสารดูกกว้างเป็นพิเศษ ส่วนเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 และ พนักพิงหลังเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 40:20:40

เบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40

บีเอ็มดับเบิลยู X1 ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยคอนโซลกลางขนาดใหญ่พร้อมที่วางแก้วน้ำแบบเลื่อนฝาเปิด-ปิด พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ได้รับการจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย เช่น ระบบนำทางรุ่น Professional พร้อมปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นอัจฉริยะผ่านระบบสัมผัสแบบ iDrive ให้ความบันเทิงด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว รองรับระบบ RDS Double Tuner และ หน้าจอแดชบอร์ดแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT พร้อมมาตรวัดความละเอียดสูงขนาด 5.7 นิ้ว ติดตั้งระบบ BMW Head-Up Display ฉายภาพสีเพื่อแสดงข้อมูลการขับขี่ในระดับสายตาของคนขับ 

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน ติดตั้งระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Paddle Shift

เพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยการขยายพื้นที่จัดเก็บสัมภาระในด้านหลังที่มีให้อย่างกว้างขวางพร้อมระบบเปิดฝากระโปรงท้ายแบบอัตโนมัติผ่านระบบเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้บริเวณกันชนหลังสามารถจับความเคลื่อนไหวของเท้าที่บริเวณใต้กันชนหลังโดยฝากระโปรงท้ายจะปลดล็อคและเปิดขึ้นได้เอง

ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นอัจฉริยะพร้อมระบบสัมผัส iDrive

เปรียบเทียบอย่างละเอียดระหว่าง BMW X1 กับคู่แข่ง Mercedes-Benz GLA Class รถคันไหนดีกว่า

4. รีวิวเครื่องยนต์ BMW X1 2018

BMW X1 2018 ได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส B38 BMW Twin Power Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 4,400-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250-4,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรภายใน 9.7 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยสูงสุด 15.9 กิโลเมตร/ลิตร ระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 146 กรัม/กิโลเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Steptronic

เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ Twin Power Turbo ขนาด 1.5 ลิตร

ทั้งนี้เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ที่ได้รับการติดตั้งมาในรถรุ่นนี้ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในบีเอ็มดับเบิลยู X1 ได้มากยิ่งขึ้นภายใต้การติดตั้งเทคโนโลยี BMW Efficient Dynamics ที่ช่วยควบคุมระบบจ่ายพลังงานให้คงประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การใช้พลังงานด้วยระบบ Auto Start/Stop และระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ รวมถึงระบบเกียร์แบบ Steptronic ที่ช่วยเพิ่มการประหยัดเชื้อเพลิงและเสริมสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Steptronic

ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อันเป็นเอกสิทธิ์จากบีเอ็มดับเบิลยูได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายรูปแบบทั้งในเส้นทางเรียบ และ การขับขี่ในรูปแบบออฟโรดผสานกับอัตราความเร็วในแบบคงที่ไปจนถึงการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วสูงในโหมดการขับขี่แบบ SPORT เกียร์จะทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถเปลี่ยนมาใช้เกียร์ระบบธรรมดาได้โดยโยกคันเกียร์หรือกดปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift 

BMW X1 2018 Diesel ดีไหม?

5. รีวิวระบบความปลอดภัยของ BMW X1 2018

BMW X1 2018 ให้การปกป้องอย่างเต็มที่ในทุกเส้นทางผ่านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ BMW ConnnectedDrive ที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ผู้ขับขี่สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ขับเพียงแค่กดโทรหา Concierge Services เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของเส้นทาง ร้านอาหาร หรือ ที่พักระหว่างทางได้ อีกทั้งผู้ขับขี่ยังดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ได้ง่ายๆผ่าน App Store

BMW ConnnectedDrive

เพิ่มขีดความสามารถด้านระบบความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นผ่านระบบ BMW HEAD-UP DISPLAY ที่ให้ความสะดวกด้วยการฉายภาพสีเพื่อแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในระดับสายตาของผู้ขับขี่จึงช่วยให้ไม่เสียสมาธิในขณะขับรถ เช่น อัตราความเร็ว การจำกัดความเร็ว การแนะนำเส้นทาง ระดับน้ำมัน และ แสดงรายละเอียดของของระบบความบันเทิงนับเป็นตัวช่วยผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี

BMW HEAD-UP DISPLAY

นอกจากนี้แล้ว BMW X1 2018 ยังได้รับการติดตั้งฟีเจอร์พื้นฐานด้านความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ ระบบเบรค ABS ระบบกระจายแรงเบรคแบบ EBD ระบบเสริมแรงเบรคแบบ BA ระบบควบคุมแรงดันเบรคแบบแปรผัน DBC ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่แบบ DSC ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน DTC ระบบเตือนให้หยุดพักการขับขี่แบบ Driver Alert System เสริมด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย

6. สรุป

BMW X1 2018 รถยนต์อเนกประสงค์แบบ SAV ที่พกพาเอาความสปอร์ตมาในชนิดที่เรียกว่าจัดเต็มผสานกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ล้ำหน้า อาทิ ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้าฝั่งคนขับแบบ HEAD-UP DISPLAY ระบบแผนที่นำทาง Navigation System ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส B38 BMW Twin Power Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ที่สามารถสร้างความเร็วสูงสุดได้มากถึง 200 กม./ชม. ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2,259,000 บาท เท่านั้น ถือเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสัมผัสเลยทีเดียว

ดูเพิ่มเติม

• BMW เผยทีเซอร์ 2018 All-NEW BMW 8-Series!!

• Crossover ระดับเทพ! BMW ซุ่มทดสอบ iX3