รีวิว Ford Everest 2018 สุดยอดยนตรกรรมที่คุณต้องการ

แนะนำ

Ford Everest 2018 โฉมใหม่ล่าสุดตอบโจทย์รถตระกูล PPV ที่ได้รับความสนใจอีกรุ่นหนึ่ง โดย Ford Everest 2018 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ถือเป็นรุ่นปรับโฉม Minor Change คาดการณ์กันว่าน่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีด้วยการนำเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ใน Ford Ranger Raptor กระบะสายพันธุ์แกร่งที่พึ่งทำการเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเข้ามาใส่ใน Ford Everest 2018 รุ่นปรับโฉมคราวนี้ เสริมด้วยการดีไซน์กระจังหน้าแบบโครเมียมให้มีความโดดเด่นแปลกตาไปจากเดิมพร้อมขอบเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวดูมีเอกลักษณ์มากขึ้น

Ford Everest 2018 ยังเพิ่มความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วยชุดตกแต่งกันชนหน้า-หลังแนวสปอร์ต พร้อมทางเลือกเฉดสีตัวถังที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สีดำ Black Metallic สีขาว Cool White สีแดง Sunset Metallic และ สำน้ำเงิน Blue Reflex Metallic เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เสริมด้วยช่วงล่างแชสซีส์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกันโคลง พร้อมโหมดขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ในสภาพการขับขี่แบบพื้นทราย  ทางเรียบ ปีนป่ายหินขรุขระ และ ลุยโคลน-หิมะ

รีวิวภายนอก Ford Everest 2018

ภายนอก Ford Everest 2018 ล้ำหน้าด้วยดีไซน์ตัวถังให้มีรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วยไฟหน้าแบบ HID Projector พร้อมชุดครอบโคมไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ กระจังหน้าแบบสปอร์ต หลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับด้วยไฟฟ้า ราวหลังคาและบันไดข้างแบบ Roof Rails & Running Boards รวมถึงไฟส่องสว่างข้างตัวรถ แผงกันแมลงบริเวณฝากระโปรงหน้า ชุดท่อไอดีอากาศเข้าเครื่องยนต์ และ ชุดลากเทรลเลอร์ ช่วงล่าง Ford Everest 2018 มากับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ

Ford Everest 2018

รีวิวภายใน Ford Everest 2018

ภายใน Ford Everest 2018 เพียบพร้อมด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ผ่านการดีไซน์ที่หรูหราอย่างเหนือระดับ อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมการตกแต่งสีเบาะแบบทูโทนด้วยสีเบจและสีดำ  เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเอนเลื่อนตำแหน่งหน้า-หลังได้ เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับได้ พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เสริมความคมชัดด้วยไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารเปลี่ยนสีได้ 7 โทนสี ชายแสตนเลสแบบ LED และ ช่องต่อไฟขนาด 12 V 4 จุด

รวมถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในอีกมากมาย เช่น เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน ปลั๊กไฟบ้านแบบ AC 230 V ให้ความบันเทิงด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมลำโพง 9 ตัว ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC เชื่อมต่อ Bluetooth รองรับ Apple Carplay ระบบนำทาง Navigator ระบบปรับอากาศแยกอัตโนมัติซ้ายขวาแบบ Dual Zone และ พวงมาลัยเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าแบบ EPAS

Ford Ranger Raptor ในงาน Bangkok International Motor Show 2018

พวงมาลัยเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าแบบ EPAS

ภายในห้องโดยสารขนาดกว้างขวาง

รีวิวเครื่องยนต์ Ford Everest 2018

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ 2 รูปแบบ  ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ/นาที ส่งผ่านทุกความเร็วด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ

ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ มาพร้อมระบบ Terrain Management เติมเต็มทุกความเร็วด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ แถวเรียง 20 วาว์ล  เทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดาเช่นกัน

นอกจากนี้แล้ว Ford Everest 2018 มีแนวโน้มที่จะนำเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร จาก Ford Ranger Raptor 2018 ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีมา พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันจากฟอร์ดเข้ามาใส่ใน Ford Everest โฉมใหม่นี้ด้วย

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร

เปรียบเทียบระว่าง Ford Everest กับ Toyota Fortuner จับรถ SUV ราคาระดับล้านกลางๆ มาประชัน

รีวิวระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2018 ให้การปกป้องในทุกมิติการขับขี่ด้วยระบบกันล้อล็อค ABS และ ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TC ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันแบบ Hill Descent Control เสริมด้วยระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง Trailer Sway Mitigation พร้อมระบบช่วยการออกตัวขณะจอดอยู่บนทางลาดชัน HLA  รวมถึงระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ Rollover Mitigation

นอกจากนี้แล้ว Ford Everest โฉมใหม่ 2018 ยังมีฟังก์ชั่นความปลอดภัยที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ ถุงลมนิรภัยจำนวน 7 จุด บริเวณคู่หน้า ด้านข้าง หัวเข่าฝั่งคนขับ และ ม่านถุงลมนิรภัย สัญญาณเตือนกะระยะทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง เสริมด้วยกล้องมองหลังขณะถอยจอด ระบบตรวจจับรถในจุดอับสายตา ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด Cross Traffic Alert พร้อมทั้งสัญญาณกันขโมย และ ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Volumetric Burgular Alarm System and Immobilizer

Ford Everest 2018

สรุป

สำหรับนักขับที่สนใจ Ford Everest 2018 ยังคงต้องรอการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมจากฟอร์ด ประเทศไทยต่อไปซึ่งคาดว่าจะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นดังกล่าวในกลางปี 2018 นี้ หรือ สอบถามข้อสงสัยได้จากตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดใกล้บ้าน โดยราคาจำหน่าย Ford Everest ในปัจจุบันมีราคาดังนี้

Ford Everest รุ่น 2.2L Titanium 4X2 AT ราคา 1,389,000 บาท

Ford Everest รุ่น 3.2L Titanium 4x4 AT ราคา 1,599,000 บาท

Ford Everest รุ่น 3.2L Titanium+ 4X4 AT ราคา 1,749,000 บาท

สามารถดูบทความรีวิวรถอื่นๆได้ที่นี่

ดูเพิ่มเติม

พบกับโปรโมชั่นสุดโดนใจใน Ford Ecosport

Ford F-22 Raptor คันเดียวในโลก ได้เครื่องบินรบเป็นแรงบันดาลใจ พลังจัดเต็มกว่า 500 แรงม้า