Chevrolet Spin โฉมใหม่ล่าสุด 2019 รถอเนกประสงค์ MPV ที่แม้จะมียอดขายที่ไม่ค่อยจะดีนักในประเทศไทยแต่ในตลาดรถยนต์ในละตินอเมริกาโดยเฉพาะบราซิลกลับเรียกกระแสความนิยมได้อย่างล้นหลามพร้อมปล่อยรุ่นใหม่ออกทำตลาดทั้งในรุ่น Chevrolet Spin 2019 และ Chevrolet Spin Activ 2019 ผ่านการปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้โฉบเฉี่ยวตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานในโซนอเมริกาใต้มากยิ่งขึ้นแต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ในแบบ Mini MPV ขนาดเล็ก 7 ที่นั่ง ผสานกับการติดตั้งฟังก์ชั่นภายในมาอย่างครบครัน
เชฟโรเลต สปินที่มีการทำตลาดอยู่ในบราซิลในรุ่นใหม่ล่าสุด Chevrolet Spin 2019 มีการปรับโฉมใช้ไฟหน้าและไฟท้ายที่มีความคล้ายคลึงกับในเชฟโรเลตครูสพร้อมการดีไซน์ภายนอกที่ไม่แต่ต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก ส่วนในรุ่น Chevrolet Spin Activ 2019 มีการติดตั้งคิ้วกันกระแทกรอบคันแบบเดียวกันกับที่มีการติดตั้งในรถครอสโอเวอร์แต่ก็ยังคงมีส่วนที่แตกต่างอยู่บ้างที่ยางอะไหล่ติดท้ายรถถูกถอดออกไป ส่วนการจำหน่ายภายในประเทศไทยเชฟโรเลตรุ่นนี้ถูกผลิตออกมาทำตลาดเพียง 1 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.5 LTZ ราคา 762,000 บาท ปัจจุบันยกเลิกการจำหน่าย
รีวิวรถยนต์ Chevrolet Spin 2019
Chevrolet Spin 2019 ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานรถในกลุ่ม B-Segment ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าแบบ Dual Port สีดำเงา กันชนหน้าพร้อมช่องดักลมขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบใหม่ล่าสุดติดตั้งระบบ Follow-Me-Home ติดตั้งไฟตัดหมอกทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ฝากระโปรงหน้าแบบใหม่ถูกดีไซน์ให้รับกับตัวรถมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งแร็คหลังคาสีเงินขนาดใหญ่ดูโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
กระจังหน้าแบบ Dual Port สีดำเงา
เชฟโรเลต สปินมอบความประทับใจในทุกทริปการเดินทางผ่านกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับและพับอัตโนมัติผสานกับการติดตั้งชายบันไดสีเงินสุดโฉบเฉี่ยว มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ ส่วนในรุ่น Chevrolet Spin Activ 2019 มีการติดตั้งคิ้วกันกระแทกรอบคันเพิ่มเข้ามาให้รวมถึงแถบกันกระแทกสีดำเงาตกแต่งบริเวณด้านข้างตัวรถทั้งสองด้าน อีกทั้งยังตกแต่งคิ้วประตูด้วยสีดำเงาเช่นเดียวกันผสานกับเส้นสายรอบคันที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตโดนใจนักขับเป็นอย่างมาก
แถบกันกระแทกสีดำด้านข้างตัวรถ
ส่วนด้านหลังเชฟโรเลต สปินได้รับการตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้กันพร้อมไฟท้ายทรงเรียวยาวที่มีความคล้ายคลึงกับในเชฟโรเลต ครูซ สปอร์ต 2018 สปอยเลอร์ด้านหลังแบบใหม่ล่าสุดที่มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กันชนท้ายตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม แต่สิ่งที่หายไปคือล้ออะไหล่ที่ไม่ได้รับการติดตั้งมาในทั้ง 2 รุ่นย่อย ช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาดใหญ่
กันชนท้ายตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม
คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีเทา
ภายในของเชฟโรเลต สปิน 2019 ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันภายใต้เฉดสีภายในแบบทูโทนดำ-เทา คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีเทา แผงประตูด้านข้างตกแต่งด้วยวัสดุสีเทาสุดโดดเด่น กรอบช่องแอร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินโครเมี่ยม ติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งเป็นแบบหุ้มหนังตกแต่งด้วยเฉดสีทูโทนดำ-เทาเย็บเก็บตะเข็บด้วยด้ายสีเหลืองพร้อมปักอักษร Activ บนพนักพิงหลัง เพิ่มความพิเศษมากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้า 50 มิลลิเมตร และ สามารถขยับไปด้านหลังได้ 60 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับผู้โดยสารในตอนกลางมากยิ่งขึ้น
เบาะนั่งติดตั้งสัญลักษณ์ Activ
เพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยมือจับประตูด้านในแบบโครเมี่ยมล้ำหน้าด้วยกระจกมองหลังปรับแสงแบบอัตโนมัติพร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติอีกเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งฟีเจอร์อำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานอีกมากมาย อาทิ หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ MID พร้อมมาตรวัดการขับขี่แบบประหยัดตกแต่งด้วยชิ้นส่วนพลาสติกสีเงินเพิ่มความโฉบเฉี่ยวได้เป็นอย่างดี พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และ บริเวณคอนโซลเกียร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา
รีวิวรถยนต์ 7 ที่นั่งที่น่าซื้อที่สุด ปี 2018 ตามสไตล์ครอบครัวคุณ
เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถพับราบกับพื้นได้
Chevrolet Spin 2019 ให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่รองรับ Apple Carplay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ และ ระบบนำทาง Navigator พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB วิทยุ CD/MP3 ให้เสียงกระหึ่มผ่านลำโพงกว่า 4 จุด นอกจากนี้แล้วเชฟโรเลต สปินยังได้รับการติดตั้งระบบเซ็นทรัลล็อกและปุ่มกดไฟฉุกเฉินรูปแบบใหม่ อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลังขนาดใหญ่มากขึ้นถึง 162 ลิตร
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน
Chevrolet Spin เพิ่มความประทับใจให้แก่ผู้ขับขี่ภายใต้การติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual-VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ (Multi-Point Fuel Injection) ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Driver Shift Control ให้การประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม
เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Dual-VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร
ทั้งนี้ระบบ Dual VVT-I ที่ได้รับการติดตั้งเข้ามาในรถรุ่นนี้เป็นการเพิ่มชุดแปรผันบริเวณแคมไอเสียอีกชุดเพื่อให้การเปิด-ปิดวาล์วทั้งในฝั่งไอดีและไอเสียให้มีความสมดุลกัน อีกทั้งยังสามารถตอบสนองอัตราการเร่งของผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม โดยจะประสานการทำงานร่วมกับระบบ VVT-I ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมเปิด-ปิดวาล์วไอดีและไอเสียซึ่งการเปิดและปิดวาล์วจะขึ้นอยู่กับความต้องการของเครื่องยนต์
คอนโซลเกียร์ตกแต่งด้วยสีดำเงา
ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Driver Shift Control ถือว่าสามารถให้การเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลไร้ซึ่งอาการกระตุกตอบสนองต่อทุกอัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็วซึ่งถือเป็นนวัตกรรมระบบส่งกำลังแบบใหม่จากฟอร์ดที่มุ่งเน้นให้ระบบเกียร์มีการทำงานอย่างสอดคล้องกับเครื่องยนต์เพื่อช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่และสามารถประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น
Chevrolet Spin 2019 พร้อมมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางผ่านระบบไฟส่องสว่างภายหลังการดับเครื่องยนต์แบบ Follow-Me-Home เสริมด้วยระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรมแบบ Immobilizer พร้อมระบบกันขโมยและสัญญาณป้องกันการโจรกรรมที่ถือเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ รวมถึงระบบเซ็นทรัลล็อก ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกแบบ ABS ถุงลมนิรภัยแบบ SRS ในด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ช่วงล่างอิสระแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ โดยในแถวที่ 1 ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ในตำแหน่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า (Pretensioner & Load Limit) เบาะนั่งแถวที่ 2 ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ในตำแหน่งผู้โดยสารด้านนอกซ้าย-ขวา และ แบบ 2 จุด ในตำแหน่งตรงกลาง ส่วนในแถวที่ 3 ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ในตำแหน่งเบาะนั่งด้านซ้าย-ขวา พร้อมไฟสัญญาณเตือนการลืมคาดเข็มขัดนิรภัย
เทคโนโลยีวัสดุซับเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน (NVH)
Chevrolet Spin 2019 มอบความประทับใจให้แก่ผู้ขับขี่ได้ในทุกเส้นทางพร้อมเบาะนั่งภายในที่มีการติดตั้งมาให้ถึง 7 ตำแหน่งผสานกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดครบครันทั้งจากพวงมาลัยพาวเวอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ กระจกไฟฟ้า ไฟหน้าติดตั้งระบบ Follow-Me-Home ผสานกับเส้นสายบนตัวรถที่ดูดุดันแต่แฝงไว้ด้วยความสปอร์ตเร้าใจตอบโจทย์รถครอบครัวที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานจริง โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นประมาณ 7.6 แสน นับว่าน่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับรถรุ่นนี้
ดูเพิ่มเติม