อยากรู้วิธีการดูแลคลัทช์รถยนต์ครับ

สวัสดีครับ พอดีผมยากทราบวิธีการดูแลคลัทช์รถยนต์ครับ เพราะที่บ้านใช้รถยนต์เกียร์กระปุก (เกียร์ธรรมดา) อยู่ครับแล้วในบางครั้งมีอาการคลัทช์ลื่นเข้าเกียร์ได้ยาก ต้องขยับหัวเกียร์ 1-2 ครั้ง จึงสามารถที่จะเข้าเกียร์ได้ ถ้าพี่ๆท่านใดพอที่จะมีประสบการณ์ก็มาแชร์กันให้ทราบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 

ปัญญา แสงกิจจา (punya_sang@gmail.com)

คลัทช์รถยนต์

สวัสดีครับคุณปัญญา

ก่อนอื่นเลยต้องเรียนให้ทราบว่าคลัทช์ (Clutch) เป็นชิ้นส่วนประกอบหนึ่งในระบบส่งกำลังทั้งเกียร์กระปุก และ เกียร์อัตโนมัติ โดยคลัทช์จะทำหน้าที่ตัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์มาสู่เกียร์เมื่อผู้ขับขี่ทำการเหยียบคลัทช์ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์ได้ และ จะทำหน้าที่ส่งกำลังจากเครื่องยนต์มายังระบบเกียร์อีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่รถยนต์ปล่อยคลัทช์ ทั้งนี้คลัทช์ภายในรถยนต์มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ คลัทช์แบบมีสายควบคุม ซึ่งคลัทช์ชนิดนี้จะอยู่ใกล้กับแป้นคลัทช์ ในการใช้งานผู้ขับขี่จะต้องใช้แรงมากในการเหยียบคลัทช์ซึ่งจะไม่ได้รับความนิยมในการใช้งานกับรถยนต์ทั่วไปมากนัก

ส่วนคลัทช์อีกรูปแบบหนึ่งมีความนิยมใช้กันอยู่มากในปัจจุบัน คือ คลัทช์แบบไฮดรอลิก โดยชุดคลัตช์อยู่ใกล้กับแป้นคลัทช์และใช้แรงในการเหยียบแป้นคลัทช์ไม่มากนัก สาเหตุก็เพราะมีปั๊มน้ำมันคลัทช์ที่ช่วยในการผ่อนแรงซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ลดอาการเหนื่อยล้าไม่ต้องขับรถในระยะทางที่ยาวนาน ทั้งนี้วิธีการดูแลรักษาไม่ให้คลัทช์มีอายุการใช้งานที่สั้นลงนั้นสำหรับเกียร์ธรรมดาหากคลัทช์ใกล้จะหมดให้ผู้ขับขี่สังเกตในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานมีรอบที่สูงขึ้นแต่ความเร็วของรถกลับช้าลง หรือ รถอาจไม่มีกำลังที่จะขึ้นทางลาดชันสาเหตุก็เพราะว่ารถที่ต้องขับขึ้นที่สูงอยู่บ่อยๆอาจจะต้องมีการใช้งานคลัทช์มาก หรือ เลี้ยงคลัทช์เพื่อเปลี่ยนเกียร์บ่อยส่งผลให้ผ้าคลัทช์ด้าน หวีคลัทช์ และ ฟลยวีลมีรอยไหม้

จานคลัทช์ และ หวีคลัทช์

หากผู้ขับขี่พบปัญหาดังกล่าวควรหาช่างผู้มีความชำนาญในการรื้อแผงคลัทช์ออกมาตรวจสอบ อีกทั้งหากมีความจำเป็นก็ควรที่จะเปลี่ยนคลัทช์เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานรถได้อย่างปลอดภัย ส่วนปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งเมื่อผู้ขับขี่เหยียบคลัทช์อย่างรุนแรงก็ย่อมส่งผลให้คลัทช์แตกได้เช่นกัน สาเหตุก็เพราะในผู้ขับขี่รถบางรายมีการเปลี่ยนเกียร์รถบ่อยและเหยียบคลัทช์รุนแรงทำให้มีความเสี่ยงต่อการที่จะทำให้คลัทช์แตกได้ หรือ อาจเกิดขึ้นจากผ้าคลัชท์ที่มีคุณภาพไม่ดีและไม่เหมาะกับรถรวมถึงปัญหาสปริงคลัทช์เสียซึ่งจะส่งผลให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์ได้

ทางด้านรถที่มีการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ (เกียร์ออโต้) ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบคลัทช์หมดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เพียงสังเกตเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องยนต์เย็นตัวอยู่ เมื่อเหยียบคันเร่งแล้วต้องใช้รอบเครื่องที่สูงกว่าปกติแสดงว่ารถยนต์ของท่านคลัทช์ใกล้ที่จะหมดแล้ว อีกทั้งในขณะที่ผู้ขับขี่เข้าเกียร์ถอยรถจะไม่ถอยหลังให้ตามปกติ และ ต้องเข้าเกียร์ซ้ำๆอีกหลายครั้งให้ผู้ขับขี่เตรียมใจไว้ได้เลยว่าระบบคลัทช์ในรถท่านกำลังเสื่อมสภาพแล้วควรรีบนำไปทำการเปลี่ยนคลัทช์แบบยกชุดซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากกว่า

สำหรับผู้ขับขี่ที่มีการใช้งานรถอยู่เป็นประจำควรหมั่นตรวจสอบคลัทช์ให้มีความพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้นครับ