ถ้ารถยนต์สตาร์ทไม่ติด แบตเตอรี่เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ แล้วปัญหาเกิดจากอะไร ?

รถยนต์สตาร์ทไม่ติด

ถ้าพูดถึงปัญหาของรถยนต์ที่สร้างความหงุดหงิดให้กับผู้ขับขี่ก็คงจะหนีไม่พ้นรถยนต์สตาร์ทไม่ติด และยิ่งถ้ารถยนต์สตาร์ทไม่ติดช่วงเช้าๆ ก่อนจะไหทำงานก็คงจะหงุดหงิดหน้าดูและถ้าวันไหนที่ต้องรีบไปทำงานหรือวันนั้นตื่นสายถ้าช้ากว่านี้อีก 5 นาทีต้องไปทำงานสายแน่ๆ และยังมาเจอกับปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติดซะอีก อาจจะต้องร้องกรี๊ดมือกุมขมับเข่าแทบทรุดอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะพยายามสตาร์ทแล้วสตาร์ทอีกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่ติด  และถ้าเป็นปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติดอุปกรณ์แรกที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะต้องเล็งไปนั้นก็คือแบตเตอรี่เป็นสิ่งแรกๆ   แต่ถ้าหากแบตเตอรี่เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่หละ ปัญหาจะมาจากอะไร ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามตามว่า "ถ้ารถยนต์สตาร์ทไม่ติด แบตเตอรี่เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ แล้วปัญหาเกิดจากอะไร?  และเมื่อมีคำถาม  Khaorot.com ก็มีคำตอบมาให้ ดังต่อไปนี้

คำถาม : รถยนต์ของผมสตาร์ทไม่ติด แบตเตอรี่ก็เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่  แล้วปัญหาเกิดจากอะไรครับ ? ขอบคุณครับ

ศรชัย แก้วเจริญ (sorachai189@yahoo.com)

เรียนคุณศรชัย ถ้าหากแบตเตอรี่เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่สภาพยังกิ๊ก  และเมื่อลองขยับขั้วแบตเตอรี่แล้วก็ไม่หลวม ก็ให้ลองกดแตรรถยนต์ดูว่าเสียงแตรยังดังปกติไหมครับ ถ้าเสียงแตรเบาลงกว่าเดิมก็อาจจะเพราะไฟแบตเตอรี่อ่อน  วิธีแก้ก็เพียงแค่ขอแรงจากเพื่อนบ้านพ่วงแบตเตอรี่แล้วลองสตาร์ทใหม่อีกครั้ง และถ้ารถยนต์สตาร์ทติดแล้วก็อย่าเพิ่งดับเครื่อง  ให้สตาร์ททิ้งไว้สักพัก หรือขับไปเรื่อยๆ วนในหมู่บ้านสัก 5 นาที เพื่อให้แบตเตอรี่ได้ชาร์ตไฟและครั้งต่อไปจะได้สตาร์ทติดง่ายขึ้น

พ่วงแบตเตอรี่เพื่อชาร์ตไฟ

และเมื่อรู้แล้วว่าปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติดนั้นไม่ได้มาจากแบตเตอรี่ก็ให้ย้ายประเด็นไปลองหาข้อสันนิษฐานใหม่โดยให้เล็งไปที่ ไดชาร์จ เพราะการที่รถยนต์สตาร์ทไม่ติดอาจจะเกิดจากไดชาร์จเสียก็เป็นได้ ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของไดชาร์จนั้นจะเป็นตัวปั่นไฟเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าไดชาร์จเสียก็ไม่สามารถจะปั่นไฟเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ได้ จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติด และวิธีเช็คว่าไดชาร์จเสียหรือไม่นั้นก็ทำได้ง่ายๆ โดยพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อให้รถยนต์สตาร์ทติดและหลังจากนั้นก็ให้ทำการถอดขั้วแบตเตอรี่ออก และถ้าเครื่องยนต์ดับก็แสดงว่าไดชาร์จได้โบกมือลาจากรถยนต์ของคุณไปแล้วและก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องจัดไดชาร์จชุดใหม่สักที แต่ถ้าถอดขั้วแบตเตอรี่แล้วเครื่องยนต์ยังติดและทำงานปกติก็แสดงว่าไดชาร์จยังใช้การได้ดี

ถ้าไดชาร์จใช้การได้ดีเราก็มาควานหาสาเหตุของรถยนต์สตาร์ทไม่ติดกันอีกครั้ง โดยให้พุ่งประเด็นไปที่มอเตอร์สตาร์ท ซึ่งการที่รถยนต์สตาร์ทไม่ติดแม้แต่จะอาศัยขอพ่วงแบตเตอรี่จากเพื่อนข้างบ้านแล้วก็ตามก็ยังสตาร์ทไม่ติดซึ่งนั้นก็อาจจะเกิดจากมอเตอร์สตาร์ทเสื่อม  วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก็ให้ลองเช็คที่หน้าปัดว่าไฟติดหรือไม่ ถ้าหากไฟหน้าปัดติดแต่รถยนต์สตาร์ทไม่ติดมีเสียงดังแชะๆ ก็ให้สันนิษฐานได้เลยว่ามอเตอร์สตาร์ทเสื่อมอย่างแน่นอน ซึ่งก็จะมีปัญหาสืบเนื่องมาจากสายไฟที่ต่อไปยังสตาร์ทมอเตอร์ชำรุด, ฟิวส์มอเตอร์สตาร์ทขาด หรือแปรงถ่านที่อยู่ในมอเตอร์สตาร์ทอาจจะหมด ถ้าเกิดจากปัญหานี้เกินจะเยี่ยวด้วยตัวเอง ควรจะนำรถยนต์เข้าอู่หรือศูนย์เพื่อให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจเช็คเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและจะได้แก้ไขซ่อมแซมได้ทันท่วงที

อีกสาเหตุหนึ่งที่ให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติดก็เห็นจะเป็นปั๊มติ๊ก เพราะถ้าหากปั๊มติ๊กเสียก็จะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติด เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงจะไม่สามารถถูกส่งไปยังห้องเผาไหม้เพื่อทำการจุดระเบิดได้  ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ปั๊มติ๊กเสียนั้นก็มาจากผู้ขับขี่เองปล่อยให้น้ำมันเชื้อเพลิงในถังเหลือน้อยจนแทบจะเกลี้ยงถัง จนไฟเตือนน้ำมันโชว์อยู่บ่อยครั้ง เมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือน้อยน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะไหลผ่านปั๊มติ๊กเพื่อล่อลื่นไม่ให้ปั๊มติ๊กร้อนก็จะน้อยลง ส่งผลให้ปั๊มติ๊กต้องทำงานหนักเพื่อทำการสูบน้ำมัน  และเมื่อน้ำมันน้อยปั๊มติ๊กร้อนการระบายความร้อนก็ทำได้ไม่ดีพอจึงทำให้ปั๊มติ๊กเสียและทำให้รถยนต์สตาร์ไม่ติด

ระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในรถยนต์ก็มีผลทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติด แต่ก็อาจจะมีเป็นส่วนน้อย เพราะปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติดเพราะสาเหตุที่เกิดมาจากระบบไฟฟ้านั้นจะไม่ค่อยเกิด แต่ถ้าหากรถยนต์คันไหนโชคร้ายเกิดสตาร์ทไม่ติดเพราะระบบไฟฟ้าก็สามารถสังเกตอาการแบบง่ายๆ โดยเมื่อบิดกุญแจให้สังเกตว่าบนหน้าปัดมีสัญญาณไฟโชว์หรือไม่ถ้าไม่มีก็แสดงว่าระบบไฟฟ้ามีปัญหา แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็ให้ลองพ่วงแบตเตอรี่แล้วลองสตาร์ทรถยนต์อีกครั้ง ถ้ายังไม่มีสัญญาณตอบรับสตาร์ทกี่ครั้งก็ไม่ติดให้มุ่งประเด็นไปที่ระบบไฟฟ้ามีปัญหาแน่นอน และวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือให้โทรศัพท์เรียกช่างมาจัดการได้เลย

เห็นไหมครับว่า แค่เพียงปัญหาเดียวอย่างรถยนต์สตาร์ทไม่ติดนั้น จะมีผลพวงพ่วงมาจากหลายสาเหตุ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดขับหรือมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต่างก็ต้องใส่ใจและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ไว้บ้าง อย่างน้อยๆ ก็จะได้เป็นความรู้เพื่อสังเกตอาการผิดปกติของรถยนต์ว่าการที่รถยนต์แสดงอาการแบบนี้ถือว่าผิดปกติหรือไม่ และถ้าผิดปกติจริงๆ จะต้องแก้ไขอย่างไรเพื่อให้รถยนต์กลับมาสู่สภาพพร้อมใช้งานและไม่มีปัญหาใดๆ อีก