คุมเข้ม ! รัฐบาลจีนประกาศติดตั้งแท็กระบุตัวตนผ่านคลื่นวิทยุ (RFID) ในรถยนต์ใหม่ทุกคัน

การจราจรแออัดในสาธารณรัฐประชาชนจีน

อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศจีน มีจำนวนประชากรหลายหมื่นล้านคน เมื่อมีคนมาก การดูแลควบคุมก็ยากขึ้นตามมา ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลจีนจึงมีการคิดค้นเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐตามที่เป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น แว่นตาไฮเทค ที่ช่วยจดจำใบหน้าผู้ต้องสงสัยเพื่อค้นหาคนร้าย บังคับดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นของรัฐ หรือใช้หุ่นยนต์ตำรวจเข้าตรวจตราบางพื้นที่และล่าสุด ประกาศติดตั้งแท็กระบุตัวตนผ่านคลื่นวิทยุ (Radio-Frequency Identification:RFID) ในรถยนต์ใหม่ทุกคัน โดยมีข้อยกเว้นให้รถเก่าที่ผ่านการใช้งานแล้วไม่ต้องทำการติดตั้ง RFID ในทันที

Radio-Frequency Identification tag

ตามที่ Wall Street Journal รายงานว่า การใช้แท็ก RFID ในตอนแรกนั้นจะให้ประชาชนติดตั้งตามความสมัครใจ โดยจะเริ่มทดลองใช้ตั้งแต่เดือน กรกฏาคม 2018 และจะบังคับใช้ในรถยนต์ทุกรุ่นที่ผลิตใหม่ในปี 2019 โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (Ministry of Public Security) และสถาบันวิจัยการจัดการจราจร (the Ministry’s Traffic Management Research Institute) ของประเทศจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามและแก้ไขสภาวะการจราจรติดขัด รวมถึงติดตามการจารกรรมรถยนต์ ซึ่งแท็กนี้จะถูกติดตั้งที่กระจกรถยนต์ ที่มีการบันทึกรายละเอียดข้อมูลต่างๆของรถคันนั้น เช่น สี เลขป้ายทะเบียน รุ่นและยี่ห้อรถ โดยจะติดตั้งเครื่องอ่านแท็กไว้ตามริมถนน เมื่อขับรถผ่านเครื่องอ่านแท็กจะส่งข้อมูลไปที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ( Ministry of Public Security) โดยตรง 

What is RFID? How RFID works? RFID Explained in Detail

การใช้เทคโนโลยี  RFID เข้ามาใช้ในการจราจร ทำให้ตำรวจสามารถตรวจสอบรถยนต์ได้แม่นยำมากขึ้น ดีกว่าการติดกล้องวงจรปิดแบบเก่า เนื่องจากจีนมีควันมลพิษหนาแน่น บดบังทัศนวิสัยของกล้องทำให้ไม่สามารถตรวจจับภาพได้ในบางจุด 
ทางรัฐบาลจีนกล่าวว่าระบบนี้ไม่เหมือนกับ GPRS เพราะไม่สามารถติดตามและระบุการเคลื่อนไหวของรถได้ทุกจุด แต่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายยานพาหนะได้ แต่ทั้งนี้ทางรัฐบาลยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะมีการบันทึกข้อมูลส่วนตัวใดบ้างเพิ่มเติมนอกจากข้อมูลรถ 

การติดตั้งในรถขนส่งสินค้าของบริษัทเพื่อติดตามการทำงาน

อันที่จริง การนำระบบ RFID เข้ามาใช้ในการติดตามนั้นไม่ใช่ของใหม่ เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการโลจิสติกส์ โดยจะติดตั้งในรถขนส่งสินค้าของบริษัทเพื่อติดตามการทำงาน ติดแผ่นแท็กในสินค้าเพื่อความสะดวกในการตรวจเช็คสต็อกของโรงงาน มีการใช้ RFID กับหนังสือเดินทางอิเล็กโทรนิค(e-passport)ในบางประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ และอีกอย่างที่เราใช้กันบ่อยก็คือบัตรโดยสารรถไฟฟ้า ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าเป็นระบบ RFID เช่นกัน แต่สำหรับการบังคับติดตั้งในระดับพลเรือนนี้ยังไม่เคยมีประเทศใดทำมาก่อน หากมองในมุมมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่า แต่ก็ต้องแลกมากับความเป็นส่วนตัวที่หายไป เพราะไม่ว่าจับพวงมาลัยไปที่ใด รัฐบาลก็รู้หมด

ดูเพิ่มเติม:
แจ้งเตือน!!! ติดกล้องเลนเชนจ์ 15 จุด เบียด – ปาด คอสะพาน – ลงอุโมงค์ หนียาก แจกใบสั่ง ปรับ ไม่มีข้อยกเว้น
ประเทศจีนออกมารายงานว่า “รถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้ามีส่วนในการสร้างมลพิษทางอากาศ”