ถ้าจะมีใครรู้จัก Nissan อย่างทะลุปรุโปร่ง คาร์ลอส กอส์น (Carlos Ghosn) อดีตประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มพันธมิตร เรโนลต์-นิสสัน (Renault-Nissan Alliance) คงเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเป็นผู้กอบกู้แบรนด์ Nissan ให้กลับมายืนหยัดอย่างสวยงามได้อีกครั้ง ก่อนที่อดีตผู้บริหารดาวรุ่งทรงอิทธิพลจะกลายเป็นดาวร่วงจากกรณีอื้อฉาว แสดงรายได้เป็นเท็จ จนโดนปลดฟ้าผ่าและถูกดำเนินคดี ก่อนหลบหนีออกจากญี่ปุ่นระหว่างการพิจารณาคดีในฐานะผู้ลี้ภัยไปยังเลบานอน
ซึ่งเมื่อวันพุธที่ 22 มกราคม 2563 นายโนบุโอะ โกฮาระ ทนายฝ่ายคาร์ลอส กอส์น ได้เปิดเผยประเด็นการสนทนาช่วงหนึ่งระหว่างอดีตนายใหญ่ Nissan ซึ่งก็คือคาร์ลอส กอส์น ก่อนจะหลบหนีออกจากญี่ปุ่นจนเป็นข่าวครึกโครมในวงการยานยนต์โลกเมื่อปลายปีก่อน ซึ่งคาร์ลอส กอส์น อนุญาตให้เปิดเผยไว้อย่างน่าสนใจว่า
"Nissan อาจจะล้มละลายภายใน 2-3 ปี" แต่ไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไม คาร์ลอส กอส์น อดีตนายใหญ่ของ Nissan จึงทำนายว่า Nissan จะเข้าสู่สภาวะสุ่มเสี่ยงอีกครั้ง
โดยหลังการให้สัมภาษณ์ของนายโนบุโอะ โกฮาระ ในฐานะทนายฝ่ายจำเลย โฆษกของ Nissan มีการปฏิเสธที่จะออกความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
ซึ่งสถานการณ์ของ Nissan ตอนนี้ก็ส่อแววไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะประสบปัญหายอดขายลดลงในจีนและยุโรป โดย Nissan เองยังคาดการณ์ว่าผลกำไรสุทธิและยอดขายในปีงบประมาณ 2562 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ลดลงถึง 66% (ต่ำสุดในรอบ 10 ปี) และอาจมีการปลดพนักงานถึง 12,500 ตำแหน่ง ทั่วโลก
ทั้งนี้ Nissan ได้มีการประกาศเรื่องอื้อฉาวของนายคาร์ลอส กอส์น อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ว่ามีการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง ซึ่งมีการรายงานรายรับต่ำกว่าความเป็นจริงมานานกว่า 5 ปี ก่อนจะโดนจับกุมและได้รับการประกันตัว จนมาถึงการหลบหนีจากญี่ปุ่นไปยังเลบานอนในฐานะผู้ลี้ภัย ซึ่งคาร์ลอส กอส์น ให้สัมภาษณ์ว่ากระบวนการตัดสินนั้น “ไม่มีความยุติธรรม”
ส่วนประเด็นอื้อฉาวจะเกิดจากสาเหตุใด อยู่ดี ๆ “ซูเปอร์ฮีโร่” ผู้กอบกู้ Nissan จากวิกฤติจนรุ่งเรืองอีกครั้งจนกลายเป็น “ผู้ร้ายหนีคดี” ยังคงเป็นปริศนา และที่สำคัญนับจากนี้อนาคต Nissan จะดิ่งลงไปอยู่จุดเดิมตามที่คาร์ลอส กอส์น ทำนายไว้หรือไม่ในยุคที่ไร้อดีต “ซูเปอร์ฮีโร่”
ดูเพิ่มเติม