Toyota Passo Moda 2018 เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ที่ญี่ปุ่น เคาะราคาเริ่มต้น 1,533,600 เยน

Toyota Passo Moda 2018 ไมเนอร์เชนจ์

Toyota Passo Moda 2018 รถยนต์ขนาดกระทัดรัด ใกล้เคียงกับ Nissan March ในไทย ที่เน้นความคล่องแคล่ว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง โดยทางญี่ปุ่นได้เปิดตัว Toyota Passo Moda 2018 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ที่มีหลายเวอร์ชันพร้อมทั้งสีตัวถังถึง 18 เฉดสีให้ผู้ซื้อได้เลือกอย่างจุใจ เรียกได้ว่าตามใจลูกค้าแบบสุดๆ มากกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

Toyota Passo Moda 2018 ติดตั้งไฟหน้า Bi-Beam LED และเพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น

Toyota Passo Moda 2018 ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมกับไฟหน้า Bi-Beam LED ทรงกลมน่ารักเยื้องกับขอบขอบกระโปรงหน้า กระจังหน้าสีดำเข้มขนาดใหญ่ แต่งขอบโครเมียมไม่ดูเรียบจนเกินไป ด้านล่างมีไฟตัดหมอกทรงกลมบนกรอบ L - shape สีดำเข้ากันกับกระจังหน้า นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีหลังคาเป็นสีดำหรือสีเดียวกับตัวถังเข้าชุดกันอีกด้วย 

กระจกข้างมีไฟเลี้ยวในตัว ส่วนไฟท้ายทรงมน LED พร้อมล้ออัลลอยขนาด 14-15 นิ้ว

ด้านข้างมีกระจกมองข้างพับอัตโนมัติ พร้อมไฟเลี้ยวในตัว มือจับประตูโครเมียม  ด้านหลังมาพร้อมกับไฟท้าย LED ทรงมนและไฟเบรกดีไซน์เดียวกับไฟตัดหมอกด้านหน้า ส่วนล้อมีให้เลือกทั้งแบบอัลลอยขนาด 14-15 นิ้ว และแบบล้อกระทะธรรมดาพร้อมฝาครอบขนาด 14 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ เพิ่มความละมุนจากสีเทาและแต่งขอบสีเดียวกับตัวถัง

นอกจากนี้ในรุ่น G Package จะเพิ่มไฟ LED บริเวณข้างไฟตัดหมอก, เพิ่มล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว และเบาะนั่งหุ้มวัสดุผ้าสลับหนังอีกด้วย Passo Moda มีสีตัวถังให้เลือกอย่างจุใจถึง 18 สีด้วยกัน โดยแบ่งเป็นโมโนโทน 11 สี และทูโทนอีก 7 สี ที่สำคัญมีชุดแต่งเฉพาะให้เลือกถึง 5 แบบด้วยกัน คือ แบบดั้งเดิม Accent Style, แบบเรียบหรู Elegant Style, Sport Style, Modellista และ ชุดแต่งดุดันจากค่าย TRD 

Toyota Passo Moda 2018 Sport Style

Toyota Passo Moda 2018 ไมเนอร์เชนจ์ ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำสไตล์สปอร์ต เพิ่มความละมุนด้วยสีเทาและแต่งขอบสีเดียวกับตัวถัง ออพชันมาตรฐานมีมาตรวัดเรืองแสง Optitron ดีไซน์ทันสมัย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังสามารถปรับหน่วงเวลาได้ และระบบป้องกันการชนด้านหน้า Smart Assist III ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกออพชั่นอื่นๆเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ อาทิ ติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง, ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย และกระจกหน้าตัดแสง UV  เป็นต้น
ด้านขุมพลัง Passo Moda ค่อนข้างเรียบง่าย เพียงพอต่อการใช้งานในเมือง โดยติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยมัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 19-20 กิโลเมตร/ลิตร ตามมาตรฐานใหม่ของ WLTC  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าขับเคลื่อนแบบใด ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ  FWD และ 4WD

Toyota Passo Moda 2018 ในโฉม Modellista

ด้านระบบกันสั่นสะเทือนหน้าเป็นแมคเฟอร์สันตรัตและคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังเป็นคานบิดทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง เรียกได้ว่าธรรมดาไม่หวือหวา วิ่งในเมืองได้สบายๆ แต่ถ้าวิ่งตามถนนนอกเมืองบ้านเราคงเหนื่อย ติดตั้งระบบเบรกหน้าแบบดิสก์ เบรกหลังดรัม ที่โดดเด่นคงเป็นด้านระบบความปลอดภัยที่ Passo Moda จัดมาให้แบบเต็มที่ อาทิ ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบตรวจจับคนเดินเท้า, ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบลดไฟสูงอัตโนมัติ 

Toyota Passo Moda 2018  ในโฉม TRD

Toyota Passo Moda 2018 ไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนความเรียบง่ายในรุ่นเดิม ด้วยสีสันที่สามารถปรับให้เข้ากับบุคลิคของผู้ขับขี่ พร้อมระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม แม้ความแรงและออพชันอื่นๆจะน้อยบ้าง แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,533,600 เยน หรือราว 447,000 บาทเท่านั้น

ดูเพิ่มเติม:
สุดยอดการพัฒนาที่เหนือระดับ กับ BMW M2 พร้อมเผยฉายา “เครื่องจักรแห่งการดริฟท์”
สุดยอดความสำเร็จ นักศึกษา ป.โท ในสหรัฐอเมริกา โชว์ศักยภาพโมดิฟายด์ Honda Civic ใหม่