Ford ร่วมมือ ห้าง Walmart ทดลองรถยนต์ไร้คนขับไว้สำหรับส่งสินค้า

Palist 27 พ.ย. 2561 | 53 View | ข่าวตลาดรถยนต์ต่างประเทศ

เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมการซื้อสินค้าในปัจจุบันสร้างความสะดวกสบายให้กับมวลมนุษยชาติมากขึ้นเราสามารถนี่งอยู่ที่บ้านโดยสั่งซื้อของผ่านโลกออนไลน์ได้เพียงปลายนิ้สัมผัสบนแป้นพิมพ์เครื่องสื่อสารออนไลน์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ไม่ใช่สินค้าทุกประเภทบนโลกที่เราจะสามารถนั่งอยู่กับบ้านแล้วสามารถสั่งให้มาส่งที่บ้่านได้ทันที เช่น อาหารสด ผัก ผลไม้ ที่เราต้องขับรถไปที่ตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตเอง ซึ่งค่อนข้างเสียเวลาทั้งเรื่องของการจราจรหรือที่จอดรถ

ล่าสุด Ford Motors อเมริกาทำพันธมิตรกับห้างสะดวกซื้อยักใหญ่ของโลกอย่าง Walmart ร่วมกันพัฒนาและวิจัย รถยนต์ไร้คนขับออกมาเรียบร้อยโดยทำการประกาศผ่าน Postmates สื่อดังในสหรัฐถึงความสำเร็จในครั้งนี้

รถยนต์ที่ทาง Ford ร่วมทำการทดลองกับ Walmart ในการใช้รถยนต์ไร้คนขับสำหรับส่งสินค้า

สำหรับวัตุประสงค์ของความร่วมมือกันระหว่าง Ford และ Walmart ในการสร้างรถยนต์ไร้คนขับออกมานั้นเพื่อค้นหาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อช่วยในการขนส่งสินค้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายโดยไม่ต้องมาจับจ่ายซื้อของเอง ที่ห้าง Wallmart ซึ่งรถยนต์ไร้คนขับของห้างจะนำสินค้าที่ลูกสั่งจากห้างนำไปส่งให้ที่บ้านโดยเฉพาะของสดต่างๆ เช่นผักและเนื้อสด ที่ต้องส่งภายวันและเวลาที่รวดเร็ว

พนักงาน Wallmart จัดเตรียมสินค้าขึ้นรถยนต์ไร้คนขับเพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่บ้านโดยไม่ต้องใช้พนักงานขับรถ

โดยล่าสุดนั้นทาง Walmart นั้นได้ติดตั้งรถขนส่งอัตโนมัติแบบไร้คนขับออกมาแล้วในสาขาหลักๆ ประมาณ 800 แห่ง เพื่อจะทดสอบความเป็นไปได้ในการขนส่งอาหารสดๆ ถึงบ้านลูกค้าตามลิสต์รายการที่ได้มาจากการสั่งซื้อ โดยทั้งหมดนั้นสามารถทำงานได้โดยการสั่งซื้อผ่่านแอพลิเคชั่นได้ด้วยตนเอง

Wallmart จัดเตรียมสินค้าขึ้นรถยนต์ไร้คนขับเพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่บ้านโดยไม่ต้องใช้พนักงานขับรถ

ซึ่งทาง Ford และ Walmart นั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการขนส่งสินค้าโดยรถไร้คนขับแบบใหม่นี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ในอนาคตซึ่งมันจะดีเสียกว่าการขนส่งคนอีก เพราะมันสามารถทำให้การมาซื้อของนั้นง่ายดายกว่าเดิมไม่ต้องเสียเวลาในเดินทางมาเองหรือหาที่จอดรถในห้างซึ่งเป็นภาพรวมของความยุ่งยากในการมาซื้อสินค้าเองที่ห้างในอนาคตห้าง Brand ดังระดับโลกต่างๆ จะนำนวัตกรรมแบบนี้มาใช้งานหรือไม่ต้องติดตามดู

ดูเพิ่มเติม: