3 ประสาน ค่ายดังรถญี่ปุ่น จับมือ R&D แบตเตอร์รี่ Solid State

14 พ.ค. 2561 | 126 View | ข่าวตลาดรถยนต์ต่างประเทศ

เมื่อเทคโนโลยียานยนต์ทั่วโลกก้าวล้ำถึงขีดสุด ความต้องการของผู้บริโภคผู้ใช้ยานยนต์ก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ส่งผลให้ปัจจุบัน รถไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) กลายเป็นกระแสที่คนทั่วโลกหันมาให้ความสนใจมากขึ้น เช่นเดียวกับฟากฝั่งของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ๆ ระดับโลก ซึ่งต่างก็ R&D นวัตกรรมยานยนต์และเครื่องยนต์ให้ทันสมัยตอบโจทย์ผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเช่นกัน

เมื่อเทคโนโลยียานยนต์ทั่วโลกก้าวล้ำถึงขีดสุด ความต้องการของผู้บริโภคผู้ใช้ยานยนต์ก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ส่งผลให้ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) กลายเป็นกระแสที่คนทั่วโลกหันมาให้ความสนใจมากขึ้น เช่นเดียวกับฟากฝั่งของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ๆ ระดับโลก ซึ่งต่างก็ R&D นวัตกรรมยานยนต์และเครื่องยนต์ให้ทันสมัยตอบโจทย์ผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเช่นกัน

NEW BATTERIES OF SOLID GRAPHENE WITH CLOSOBORANO FOR ELECTRIC CAR

ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจากประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดการจับมือกันระหว่างภาครัฐ และ ผู้ผลิตรถยนต์ รวมไปถึงบริษัทแบตเตอรี่ชื่อดังหลายค่ายทั้ง Toyota – Nissan – Honda เพื่อมาร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่ solid-state ให้ล้ำหน้ากว่าแบตเตอรี่ lithium-ion และ มีอีกเป้าหมายคือ การทวงตำแหน่งเจ้าตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า EV กลับมา

โดยแผนดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในเดือนนี้ ภายใต้ความร่วมมือของ Consortium for Lithium Ion Battery Technology and Evaluation Center (Libtec) ที่มีสมาชิกเป็นบริษัทชื่อดังอย่าง Asahi Kasei, Toray Industries, Kuraray, Panasonic และ GS Yuasa ส่วนผู้ออกทุนการพัฒนาในครั้งนี้ มีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และ อุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพทุ่มทุนมูลค่า 1,600 ล้านเยนให้ (ราว 467 ล้านบาท)

แบตเตอรี่ solid-state จะนำของเหลว electrolytes ในแบตเตอรี่ lithium-ion มาเปลี่ยนเป็นของแข็ง ซึ่งจะทำให้การผลิตเป็นอย่างง่ายดายและปลอดภัยขึ้น เนื่องจากไม่มีโอกาสที่สารดังกล่าวจะรั่วซึม ทั้งยังมีส่วนประกอบน้อยกว่า ต้นทุนต่ำกว่า และให้พลังงานสูงกว่า อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนของการพัฒนาแบตเตอรี่ solid-state นั้นดูซับซ้อนกว่าของแบตเตอรี่ lithium-ion

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าแบตเตอรี่ solid-state ของ Toyota ถือว่าล้ำหน้าที่สุดในโลกแล้วในขณะนี้ แต่ Toyota เองยังไม่สามารถทำให้เกิดการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ นั่นจึงเป็นเหตุให้ผู้เชี่ยวชาญของแต่ละบริษัท มาช่วยกันหาทางออก โดยตั้งเป้าให้แบตเตอรี่แบบใหม่นี้ เพิ่มระยะทางสูงสุดในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าจาก 400 กิโลเมตร ในปัจจุบัน เป็น 550 กิโลเมตร ในปี 2025 และ มากกว่า 800 กิโลเมตร ในปี 2030

เป้าหมายในการพัฒนาแบตเตอรี่ solid-state ไม่ได้มีเพียงที่จะเพิ่มขีดความสามารถของแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังต้องการทวงตำแหน่งเจ้าตลาด ในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ ที่ญี่ปุ่นเคยมีส่วนแบ่งสูงถึง 70% ในปี 2013 แต่ลดเหลือ 41% ในปี 2016 สวนทางกับจีนที่เพิ่มจาก 3% ในปี 2013 เป็น 26% ในปี 2016 นับว่าน่าติดตามไม่น้อยเลยว่าพวกเขาจะทำได้หรือไม่

แบตเตอร์รี่ Solid State