ข้อควรปฏิบัติ เพื่อรับมือกับ"รถเสีย" บนทางด่วน
รถเสีย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ทั้งแบตเตอรี่หมด หม้อน้ำพัง เบรกค้าง รถดับ เข้าเกียร์ไม่ได้ นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งรีบอย่างก่อนทำงาน หรือหลังเลิกงาน ซึ่งนอกจากจะทำให้ตนเองเสียเวลาแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัด รถคันอื่นก็ขยับออกได้ยาก ยิ่งเกิดบนทางด่วนด้วยแล้ว อาจถูกบีบแตรไล่ขยับไปไหนก็ไม่ได้ บางคนไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงกดดันมากทีเดียว ซึ่งวันนี้เรามีข้อควรปฏิบัติสำหรับรับมือกับสถานการณ์ “รถเสีย บนทางด่วน” ให้กลายเป็นปัญหาเล็กๆ ไม่น่ากลัวอีกต่อไป
หากพบว่ารถมีปัญหาขัดข้อง ให้รีบเปิดสัญญาณเลี้ยวซ้ายเพื่อนำรถเข้าจอดข้างทาง พยายามนำรถเข้าจอดบริเวณไหล่ทาง (พื้นที่จะกว้าง และเสี่ยงอันตรายน้อยกว่า) หากไม่มีไหล่ทางให้เข้าจอดชิดขอบทางด้านซ้ายสุด
เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน
หลังจากเข้าจอดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อให้รถคันอื่นๆที่ตามมาทราบว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา
วางป้ายฉุกเฉินด้านหลัง ห่างจากตัวรถ 100-150 เมตร (ควรมีติดรถไว้)
สำรวจดูในรถว่ามีป้ายสามเหลี่ยม ที่แสดงถึงสัญลักษณ์ฉุกเฉินหรือไม่ หากมีให้นำมาวางกั้นด้านหลังรถ ห่างจากตัวรถราว 100-150 เมตร เพื่อให้รถที่ตามมามองเห็นได้จากระยะไกล ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากรถที่ขับตามมา โดยเฉพาะรถที่ขับด้วยความเร็วสูง หากไม่มีป้ายสามารถวาดสัญลักษณ์ หรืออุปกรณ์อื่นๆที่มองเห็นได้ชัดวางแทน
สามารถโทรขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการผู้ใช้ทางพิเศษ ผ่านหมายเลข 1543 ซึ่งสามารถโทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากรถเสียบริเวณทางหลวงและมอเตอร์เวย์ โทร.1586 และโทลเวย์ โทร.1233
โทรศัพท์ฉุกเฉินบนทางด่วน
สำหรับท่านใดที่แบตโทรศัพท์หมด ไม่มีเงินในโทรศัพท์ หรือสาเหตุอื่นที่ทำให้ไม่สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ สามารถโทรขอความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์ฉุกเฉิน ซึ่งติดตั้งตามไหล่ทางฝั่งซ้าย ทุกระยะ 500-1,000 เมตร
ควรโทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ให้ทราบ พร้อมถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน(หากสามารถถ่ายได้) เพื่อให้ทางประกันรับทราบว่ารถเสียจริง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเคลมเข้ามาที่เกิดเหตุ กรณีที่รถมีปัญหาอุบัติเหตุซ้ำซ้อน หรือเสียค่าปรับจากการกีดขวางทางด่วน สามารถให้ทางบริษัทประกันเคลียร์ให้ได้
เมื่อปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว ให้นั่งรอผู้เข้ามาช่วยเหลือในรถ โดยคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย และอาจติดต่อประสานงานกับทางศูนย์บริการรถยนต์ของท่าน เพื่อขอคำปรึกษาในการแก้ปัญหาเบื้องต้นต่อไป
สิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างมากคือ รถที่ขับแซงซ้าย ซึ่งมีโอกาสชนกับรถเราที่จอดเสียอยู่ค่อนข้างสูง ดังนั้นควรทำสัญลักษณ์ที่มองเห็นได้ชัดเจน วางห่างจากตัวรถ และหากจุดจอดรถเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ให้จอดรถแล้วรอในบริเวณที่คิดว่าปลอดภัย มองเห็นรถชัดเจน (พิจารณาตามสถานการณ์) เมื่อผู้ช่วยเหลือมาถึง ควรนำรถออกจากทางด่วนให้เร็วที่สุด เพราการกีดขวางทางจราจร ตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ถือว่ามีความผิด ฝ่าฝืนระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาทครับ
อ่านเพิ่มเติม
8 เทคนิคขับรถหน้าร้อน ให้ปลอดภัย
ขับรถขึ้น-ลงเขา ช่วงสงกรานต์อย่างไรให้ปลอดภัย!