ดื่มเท่าไร ไม่ผิดกฎหมาย

Pichai Damrongsak 2 เม.ย. 2562 | 37 View | ขับรถอย่างปลอดภัย

กลายเป็นข้อสงสัยสำหรับนักดื่มหลายรายถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่มีความเหมาะสมต่อการดื่มและไม่ผิดกฏหมาย วันนี้ข่าวรถนำคำตอบมาให้แล้วครับ

ถือเป็นกฎหมายที่สร้างความหนักใจให้กับนักขับสายดื่มหลายรายสำหรับมาตรการออกกฎหมายควบคุมผู้ที่เมาแล้วขับรถยนต์ ทั้งนี้ถือเป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้ที่เมาแล้วทำการขับขี่รถยนต์ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขึ้นได้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับบุคคลอื่นอีกด้วย อย่างไรก็ตามได้มีการกำหนดให้ผู้ขับขี่ที่มีการดื่มแอลกอฮอล์แล้วทำการขับรถนั้นต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ส่งผลให้ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฏหมายมีการระบุไว้จะต้องได้รับโทษตามที่กฏหมายกำหนด

ดื่มเท่าไร ไม่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ถือเป็นการปรับแก้กฎหมายใหม่ภายหลังจากที่กฎหมายฉบับเดิมที่มีการระบุเอาไว้ว่าเกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ผู้ขับขี่สามารถดื่มได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม จนกระทั่งในปี 2560 มีการปรับปรุงเกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์ขึ้นอีกครั้งให้ผู้ขับขี่ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี หากมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ภายในเลือดเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ให้ถือว่าเมาสุราและมีความผิดตามที่กฎหมายมีการกำหนดเอาไว้ กอปรกับในกรณีที่ผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์ หรือ มีใบอนุญาตขับรถยนต์แบบชั่วคราวหากมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ก็ให้ถือว่าเมาและมีความผิดตามกฏหมายเช่นเดียวกัน

ดูเลย: ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี

ส่วนบุคคลอื่นซึ่งมีอายุมากกว่า 20 ปี และ มีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลแบบปกติยังคงให้ใช้กฎหมายเดิมในการบังคับ คือ ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ให้ถือว่าเมา ส่วนอัตราโทษนั้นในประเด็นของการเมาแล้วขับ คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับขั้นต่ำไม่เกิน 10,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ ให้ศาลสั่งพักการใช้ใบอนุญาตในการขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ ใช้วิธีการเพิกถอนใบอนุญาต แล้วยังเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาลไม่ให้ใช้งานเป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน อีกด้วย

เมาแล้วขับ

เมาแล้วขับ

ในกรณีที่ผู้ขับขี่เมาแล้วขับจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือ จิตใจ จำคุก 1-5 ปี หรือ ปรับ 10,000 – 200,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ เพิกถอนใบอนุญาต อีกทั้งในกรณีที่เมาแล้วขับจนเป็นให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000 – 120,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือ เพิกถอนใบอนุญาต ส่วนในกรณีที่ผู้ขับขี่เมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตลงโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท รวมถึงเพิกถอนใบอนุญาตในการขับรถ

เมื่อได้ทราบถึงอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดในประเด็นของการเมาแล้วขับซึ่งมีอัตราโทษที่สูงจึงถือว่าไม่มีความคุ้มค่าหากผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถแต่อาจเลี่ยงมาใช้วิธีการโดยสารรถแท็กซี่แทนการขับรถด้วยตนเอง หรือ อาจใช้วิธีการให้ผู้อื่นที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มาขับแทนซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่มากขึ้นนั่นเอง