รวบรวมรีวิวของผู้ใช้จริง และสุดยอดปัญหากวนใจของ Honda Brio พร้อมวิธีการแก้ไข ที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย !!

สำหรับรถยนต์ประเภท Ecocar นั้น ถือเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในบ้านเรา โดยเฉพาะ Honda Brio ที่หลังจากเปิดตัวออกมาก็ทำเอาหลายคนหลงไหลในความมีเอกลักษณ์ของรถคันนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ชีวิตในสังคมเมืองและเป็นเพศหญิง เพราะ Honda Brio นั้น จะเน้นไปที่ความมีเสน่ห์ ความน่ารัก แต่ก็ยังแฝงความเท่เอาไว้เล็กๆ ทำเอาสาวกของ Honda ต่างก็ชื่นชมอยู่ไม่น้อย

รถยนต์ Ecocar Honda Brio

อย่างไรก็ตาม หากเทียบกันแล้ว Honda Brio นั้น ถือว่ายังเป็นรองจากรุ่นอื่นๆของ Honda อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น City, Civic หรือแม้กระทั่ง Accord เองก็ตาม ซึ่งหลายคนที่ใช้ Honda Brio ก็มีเสียงรีวิวออกมาหลากหลาย ดังต่อไปนี้

รีวิวข้อดีข้อเสียของ Honda Brio

ข้อดีของ Honda Brio

• ช่วงล่างดี แน่นพอสมควร
• พวงมาลัยตอบสนองเร็ว
• ประหยัดน้ำมัน
• ห้องโดยสารกว้างขวาง
• ดีไซน์เรียบง่าย
• การออกตัวไม่อืด
• ขับสนุกเพราะเครื่องยนต์และระบบต่างๆตอบสนองค่อนข้างดี
• ขับทางไกลได้ไม่ค่อยมีปัญหา

ดูเลย:  ยางปัดน้ำฝน

ข้อเสียของ Honda Brio

• วัสดุที่ใช้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
• ยังเป็นรองรถรุ่นอื่นๆที่มีราคาเทียบเท่ากัน
• ราคาแพงกว่ารถประเภท Ecocar รุ่นอื่นๆ ทั้งที่สมรรถนะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
• ไม่มีช่องลมเป่าไฟฝ้ากระจก
• เครื่องปรับอากาศไหม่ค่อยเย็นสบายเท่าไหร่
• ออฟชั่นยังน้อยหากเทียบกับรุ่นอื่นๆ
• บางครั้งพวงมาลัยค่อนข้างตึงมือ
• เครื่องเสียงอ่านเพลงได้ไม่ดี
• เหล็กของรถค่อนข้างบาง
• ยางประตูเสื่อมเร็วกว่ารุ่นอื่นๆของ Honda
• ห้องโดยสารไม่ค่อยเก็บเสียง

รีวิวรถยนต์ Honda Brio

ปัญหาของ Honda Brio พร้อมวิธีการแก้ไข

อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานนั้น หลายคนก็คงจะต้องเจอปัญหาที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะกับรถรุ่นเดียวกัน เพราะถึงแม้จะมีการพัฒนาอยู่เสมอ แต่ก็ย่อมมีปัญหาตามมาบ้าง เนื่องจากการพัฒนานั้นไม่สามารถทำให้รถหลุดกรอบของคอนเซ็ปต์ตัวเองไปได้ ซึ่ง Honda Brio ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีปัญหาอยู่พอสมควร ซึ่งเราจะมารวบรวมสุดยอดปัญหาของ Honda Brio พร้อมวิธีการแก้ไขที่ง่าย ก่อนที่ปัญหานั้นจะกวนใจไปมากกว่านี้

ปัญหาที่ 1 : พวงมาลัยล็อค สตาร์ทรถไม่ได้

สำหรับปัญหาพวงมาลัยล็อค นั้น ส่วนมากมักเกิดจากการดับเครื่องและหมุนพวงมาลัยกระทันหัน ส่งผลให้ระบบตัดการสตาร์ทเครื่องโดยอัตโนมัติ วิธีการแก้ไขก็คือ ทำได้โดยการเสียบกุญแจเข้าไปใหม่ แล้วขยับพวงมาลัยไปมาพร้อมบิดเล็กน้อย ก็จะทำให้สตาร์ทติดได้ แต่หากยังไม่ติด ให้ลองตรวจสอบดูว่าเกียร์ของรถอยู่ที่ตำแหน่งใด โดยให้เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P หรือ N แล้วให้ทำการเหยียบแป้นเบรกแล้วบิดกุญแจทันที จะทำให้ปลดล็อคได้

ดูเพิ่มเติม:  ตารางผ่อน Civic

การออกแบบภายในของ Honda Brio

ปัญหาที่ 2 : รถเป็นรอยถลอกลึกเวลามีอะไรมากระทบ

ด้วยปัญหาที่ว่า เหล็กที่ใช้ของ Honda Brio ค่อนข้างบาง หากโดนอะไรกระทบจะทำให้เป็นรอยถลอกได้ วิธีแก้นั้น เบื้องต้นให้ดูว่าเป็นรอยลึกหรือไม่ หากไม่ได้ลึกมาก ให้นำคาน่าขัดจนรอยดูจางลง แล้วให้นำกระดาษทรายเบอร์ 2000 ที่แช่น้ำมาก่อนอย่างน้อย 5 นาที มาขัดวนเบาๆที่รอย หลังจากนั้นให้นำสีแต้มรถมาแต้มเพิ่มในจุดที่เป็นรอย จะทำให้รอยที่เกิดจางลงหรือหายได้ แต่ถ้าหากเป็นรอยลึก จะต้องนำรถเข้าไปทำสีที่ร้านซ่อมรถ ห้ามปล่อยไว้นานอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้สนิมกินได้ และเมื่อมาทำสีจะทำให้สีปูดเพราะเกิดจากการที่สนิมกินมาจากด้านในนั่นเอง

การใช้งานของ Honda Brio

ปัญหาที่ 3 : กระจกเป็นคราบเวลาขับรถในยามฝนตก

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การขับรถโดยเฉพาะในยามที่ฝนตกนั้น รถยนต์จะต้องถูกกระทบด้วยสิ่งต่างๆภายนอก ยิ่งถ้าเป็นสังคมเมือง มักจะโดนคราบต่างๆที่มาพร้อมกับน้ำฝน ยิ่งถ้าเป็น Honda Brio ด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้หลายคนหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เพราะด้านหลังไม่ได้มีที่ปัดน้ำฝนมาให้ เมื่อโดนคราบก็ย่อมทำให้เป็นปัญหาต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ ที่สำคัญคือปัญหาดังกล่าวค่อนข้างกวนใจในยามขับขี่เป็นอย่างมาก

สำหรับวิธีการแก้ไขนั้น ต้องดูว่าได้ติดฟิล์มกรองแสงไว้หรือไม่ เพราะหากติดฟิล์ม จะต้องใช้น้ำสะอาดเช็ดเท่านั้น ผ้าที่ใช้จะต้องเป็นผ้าที่สะอาดและนิ่ม ห้ามใช้น้ำยาล้างกระจกที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนียเช็ดโดยเด็ดขาด ที่สำคัญคือ ให้พยายามพกอุปกรณ์ทำความสะอาดติดรถไว้เสมอ เพราะหากปล่อยไว้คราบอาจจะฝังลึกได้ และสีรถอาจจะด่างได้นั่นเอง แต่ถ้าหากไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสง ก็สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดได้ตามปกติ แต่จะต้องเป็นประเภทที่อ่อนโยน ใช้กับประเภทของกระจกรถด้วย

การสัมภาระท้ายรถของ Honda Brio

สรุป

สำหรับ Honda Brio นั้น ถือเป็นอีกหนึ่ง Ecocar ที่หลายคนต่างก็จับตามองอยู่ไม่น้อย เพราะถือเป็นรถที่ทาง Honda ได้พยายามพัฒนาเรื่อยมา อย่างไรก็ตาม ด้วยดีไซน์และการออกแบบของทาง Honda เอง ที่ทำให้ Honda Brio นี้ มักมีปัญหาจุกจิกตามมาอยู่ไม่น้อย ซึ่งวิธีการแก้ไขนั้นเป็นเพียงการแก้ไขเบื้องต้นเท่านั้น เพราะบางครั้งหากเป็นปัญหาที่เกิดจากระบบภายใน หรือเครื่องยนต์ จะต้องนำรถเข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป

.....

อ่านเพิ่มเติม : 

• AWD F-150 Hoonitruck เผยโฉมพร้อมขุมพลังจาก Ford GT !!
• รีวิว Mazda CX-3 2019 ครอสโอเวอร์ที่ใช่ที่สุดสำหรับคนรุ่นใหม่