น้ำมันเบรก คืออะไร ควรเลือกแบบไหน?
เคยสงสัยมั้ย? น้ำมันเบรกรถยนต์คืออะไร ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ และควรเลือกน้ำมันเบรกแบบไหน บทความนี้มีคำตอบ
น้ำมันเบรกคือตัวกลางในการถ่ายทอดแรงดันจากแป้นเหยียบไปยังระบบเบรก ทำให้รถหยุดหรือชะลอตามแรงเหยียบของมนุษย์ ทำหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการเสียดสีกันภายในระบบเบรก ลดการสึกหรอและการเสื่อมสภาพ
น้ำมันเบรกคือตัวกลางในการถ่ายทอดแรงไปสู่ระบบเบรก
น้ำมันเบรกรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่?
น้ำมันเบรกรถยนต์ ควรเปลี่ยนทุก ๆ 1 ปี หรือเมื่อครบ 25,000 กิโลเมตร หรือหากใช้เป็นรถที่งานหนัก ๆ ก็ควรเปลี่ยนตามความเหมาะสม การเปลี่ยนน้ำมันเบรกจะช่วยป้องกันสนิมของชิ้นส่วนภายใน และยืดอายุการใช้งานของระบบเบรกให้นานยิ่งขึ้น
ปริมาณน้ำมันเบรกสามารถตรวจสอบได้จากกระปุกน้ำมันเบรกที่ห้องเครื่อง ปริมาณที่เหมาะสมควรอยู่ในระดับ MAX ตลอดเวลา แต่ถ้าน้ำมันเบรกในกระบอกลดลง ให้ลองเติมดูก่อนพร้อมกับหมั่นตรวจเช็ก หากมีการลดลงอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่นานหลังเติมเข้าไป แสดงว่าคุณเจอปัญหาแล้วล่ะ ควรให้ช่างตรวจสอบหาสาเหตุให้เร็วที่สุด
หากน้ำมันเบรกลดลง ระบบเบรกรถคุณอาจเจอกับปัญหา
การเปลี่ยนน้ำมันเบรกรถยนต์ หากไม่เชี่ยวชาญหรือต้องการความสะดวก ควรนำเข้าศูนย์หรืออู่ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยเปลี่ยน แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนด้วยตัวเอง ผู้ขับขี่สามารถทำได้หลายวิธีแล้วแต่ความสะดวก สรุปได้คร่าว ๆ ดังนี้
- วิธีใช้เท้าเหยียบ วิธีคลาสสิกที่อู่ไหนก็ทำกัน ต้องใช้คนอย่างน้อย 2 คน คนหนึ่งอยู่ในรถ คอยใช้เท้าเหยียบเบรกถี่ ๆ แล้วกดแป้นเบรกไว้ อีกคนอยู่ที่ล้อ คอยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก
- วิธีใช้แรงดูด คือการใช้ปั๊มดูดน้ำมันเบรกเก่าออกแล้วเติมน้ำมันเบรกใหม่เข้าไปแทนที่
- วิธีใช้แรงดัน คือการใช้ถังพลาสติกสูบลมเข้าไปดันน้ำมันเบรกใหม่ในกระปุกเติมให้ดันน้ำมันเบรกเก่าออก
น้ำมันเบรกรถยนต์ควรเปลี่ยนทุก ๆ 1 ปี หรือตามความเหมาะสม
การเลือกน้ำมันเบรก
ประเทศไทยนิยมใช้น้ำมันเบรกที่มีมาตรฐาน DOT (Department of Transportation) รับรองโดยกรมขนส่งของอเมริกา ซึ่งจะใช้ส่วนผสมทางเคมีต่างกัน และให้จุดเดือดต่างกัน แบ่งเป็นจุดเดือดแห้ง และจุดเดือดเปียก
- จุดเดือดแห้ง (Dry Boiling Point) คือจุดเดือดของน้ำมันเบรกตอนที่ยังไม่มีความชื้นปะปน เป็นน้ำมันเบรกใหม่ที่ยังไม่ได้ผ่านการใช้งาน
- จุดเดือดเปียก (Wet Boiling Point) คือจุดเดือดของน้ำมันเบรกที่มีความชื้นปะปนแล้ว เป็นน้ำมันเบรกที่ผ่านการใช้งานมาแล้วระยะหนึ่ง
ที่ได้รับความนิยมได้ก็จะมี DOT-3, DOT-4 และ DOT-5 แตกต่างกันที่ค่าจุดเดือด
- DOT-3 จุดเดือดแห้ง 205 องศาเซลเซียส จุดเดือดเปียก 140 องศาเซลเซียส
- DOT-4 จุดเดือดแห้ง 230 องศาเซลเซียส จุดเดือดเปียก 155 องศาเซลเซียส
- DOT-5 จุดเดือดแห้ง 260 องศาเซลเซียส จุดเดือดเปียก 180 องศาเซลเซียส
- DOT 5.1 จุดเดือดไม่ต่ำกว่า 260 องศาเซลเซียส จุดเดือดเปียก 180 องศาเซลเซียส
น้ำมันเบรก ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและคุณภาพ
น้ำมันเบรก DOT-3, DOT-4 จะมีส่วนผสมของ Glycol based oil ที่ดูดซับความชื้นได้ง่ายและสามารถรวมตัวกับน้ำได้ ส่วนน้ำมันเบรก DOT-5 จะมีส่วนผสมของ Selicone Based oil มีคุณสมบัติไม่ดูดซับความชื้น ไม่รวมตัวกับน้ำ และไม่เหมาะกับรถยนต์ที่ติดตั้ง ABS ทำให้มีน้ำมันเบรก DOT-5.1 สำหรับรถที่ติดตั้ง ABS เข้ามา ทั้งนี้ รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะใช้น้ำมันเบรก DOT-3, DOT-4 เพราะมีจุดเดือดที่สูงกว่า
เมื่อใช้น้ำมันเบรกไปนาน ๆ ความชื้นจะถูกดูดเข้ามาปะปนมากยิ่งขึ้น จึงควรเปลี่ยนใหม่ หากยังใช้ต่อไปจะทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเสื่อมสภาพเร็ว เป็นสนิม และจะทำให้เกิดอาการเวเปอร์ล็อก (Vapour Lock) คือของเหลวในระบบเบรกร้อนจัดจนระเหยออกไป จนไม่สามารถถ่ายแรงดันได้ ส่งผลให้ระบบเบรกใช้การไม่ได้
น้ำมันเบรกยี่ห้อไหนดี?
Motul DOT 3/ DOT 4
น้ำมันเบรกที่รองรับการใช้งานหนัก ๆ ได้อย่างดี ตอบโจทย์เครื่องยนต์เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล หรือแก๊ส ข้อดีคือเปลี่ยนถ่ายได้ง่ายเพราะสามารถผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นได้ ทั้งยังมีราคาไม่แพง แต่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ เพราะมีแนวโน้มที่จะดูดซับความชื้น
Castrol DOT-4
น้ำมันเบรกคุณภาพดี ให้จุดเดือดสูง สามารถผสมกับผสมกับผลิตภัณฑ์หมวดอื่น ๆ อย่าง DOT-3 และ DOT-5.1 ได้ มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อน ตอบโจทย์รถที่ใช้งานหนัก บรรทุกเยอะ รองรับการใช้งานของรถได้ทุกประเภท ทุกเครื่องยนต์ แต่มีราคาสูง
Eurol Brakefluid DOT-5
น้ำมันเบรกที่เหมาะสำหรับแข่ง ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (บางรุ่น) ไม่สามารถผสมกับน้ำมันเบรกชนิดอื่นได้ จุดเด่นคือให้คุณสมบัติการหล่อลื่นที่ดี ป้องกันการกัดกร่อน มีพิษต่ำ และมีความเสถียรสูง ทว่าราคาก็สูงตามคุณภาพที่ได้เช่นกัน
Toyota DOT-5.1
ตอบโจทย์รถยนต์รุ่นใหม่ที่ติดตั้งระบบ ABS มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเบรก สามารถดูดความชื้นได้อย่างดี ไม่มีซิลิโคน เหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีการใช้งานหนัก เดินทางบ่อย รองรับรถยนต์ทุกประเภทที่ใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ดีเซล และแก๊ส แต่มีราคาแพง
อ่านเพิ่มเติม >>
โปรโมชั่น ดูทั้งหมด
โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 สิทธิพิเศษจากฟอร์ดสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถแต่ยังไม่มีงบ พร้อมทั้งโปรโมชั่น Ford อื่น ๆ เช็กได้กันเลย
โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 สิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าอีซูซุที่ยกมาให้เลือกพิจารณากันทั้งค่าย เช็กโปรโมชั่น Isuzu ได้ที่นี่
โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 สิทธิดี ๆ ส่วนลดสุดปัง สำหรับรถยนต์ผู้ที่สนใจรถยนต์นิสสัน เช็กรายละเอียดโปรโมชั่น Nissan ได้ที่นี่
โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายให้ที่ Suzuki นำมามอบให้แบบจัดเต็ม!