6 เคล็ดลับ ช่วยให้รถยนต์ของคุณคงประสิทธิภาพได้อีกนาน

Darika Jainukul 7 ก.ย. 2561 | 3 View | ดูแลและรักษารถยนต์

หลายคนมักจะมีคำถามอยู่เสมอ ว่าทำอย่างไรจะให้รถยนต์ดูใหม่เหมือนพึ่งออกมาจากศูนย์ ซึ่งครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 6 เคล็ดลับ ง่ายๆ ที่ตอบโจทย์ให้รถของคุณ

สำหรับผู้ใช้รถทุกคน การดูแลรักษารถยนต์คู่ใจให้มีประสิทธิภาพและความสดใหม่นั้นถือเป็นสิ่งที่ปล่อยปละละเลยไม่ได้ ยิ่งทุกวันนี้เป็นช่วงข้าวยากหมากแพง อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัดไว้ก่อน แน่นอนว่าการดูแลรักษารถยนต์ด้วยตัวเองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก อาจจะเจียดเวลาช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์มาตรวจสอบก็ได้ เพราะถือเป็นเรื่องง่ายๆใครทำก็ได้ หากเห็นอะไรผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

การดูแลรักษารถยนต์โดยผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับการดูแลรักษารถยนต์นั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วย 6 เคล็ดลับ ดังต่อไปนี้

เคล็ดลับที่ 1 เช็คลมยางรถยนต์

การตรวจเช็คลมยางนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมากๆ โดยเฉพาะทุกครั้งก่อนขับขี่ เพระสามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งการตรวจคือดูว่ามันอ่อนหรือยุบลงหรือไม่ แน่นอนว่าจะต้องดูทุกเส้น เพราะหากลมยางล้อใดล้อหนึ่งไม่มีความสมดุลกันอาจจะทำให้เกิดผลเสียได้ในอนาคต ไม่เพียงอายุการใช้งานที่ลดลง แต่หมายถึงความปลอดภัยขณะขับขี่ด้วย

การตรวจเช็คยางรถยนต์โดยเครื่องวัด

เคล็ดลับที่ 2 เช็ครอยหยดรั่ว

สำหรับรอยหยดรั่วนั้น คือรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆของรถ โดยการตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถหากมีรอยหยดรั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องรีบให้ช่างมาตรวจสอบ ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ แต่หากเป็นน้ำระบายความร้อน ให้หาที่มารองการรั่ว หากเป็นข้อต่อให้ใช้ไขควงกดอัดให้แน่น หากพบเป็นรอยรั่วอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันเกียร์ ให้รีบนำรถไปตรวจสอบโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของคุณและรถ

การเช็คและตรวจสภาพรถยนต์

เคล็ดลับที่ 3 การดูแลน้ำระบายความร้อน

การตรวจเช็คสามารถทำได้โดยการเปิดฝาหม้อน้ำออก หากพบว่าน้ำลดลงกว่าระดับก็ให้ใช้น้ำสะอาดเติมลงไป แต่รถบางรุ่นอาจจะมีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่ และมีท่อเล็กๆต่อไปถึงหม้อน้ำ ให้ดูที่ระดับน้ำที่ขวดแทน หากอยู่ในระดับที่กำหนดก็ยังไม่ต้องเติม แต่หากลดลงไปจากระดับก็ให้เติมน้ำไว้ในขวดเก็บน้ำสำรองแทน เพราะระบบการระบายความร้อนถือว่ามีความสำคัญค่อนข้างมาก ไม่ควรละเลยเป็นอย่างมา เนื่องจากจะส่งผลเสียในอนาคตได้

การตรวจเช็คน้ำระบายความร้อน

เคล็ดลับที่ 4 เช็คระดับน้ำมันเครื่อง

การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องทำได้โดยการดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดไปยังตำแหน่งของมันตามปกติ แล้วดึงออกมาเพื่อดูคราบน้ำมันที่เกาะอยู่ แน่นอนว่าจะมีขีดบอกระดับของน้ำมันเครื่อง หากอยู่ในระดับ L(Low) ก็ให้เติมน้ำมันเครื่อง แต่หากอยู่ในระดับ F(Ful) ก็ไม่ต้องเติม แต่ก็ไม่ควรเติมจนเกินอักษร F เพราะจะทำให้ควันขาวจากน้ำมันเครื่องเข้ามาในห้องเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ได้ และจะเกิดผลเสียตามมาในภายหลัง

แท่งวัดปริมาณน้ำมันเครื่องของรถยนต์

เคล็ดลับที่ 5 เช็คน้ำมันเบรก

การตรวจน้ำมันเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั๊มเบรกนั้น หากอยู่ในระดับที่สูงก็ไม่ต้องเติม แต่หากต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจนอยู่ในระดับที่พอดี แน่นอนว่าการเติมน้ำมันเบรกต้องมีความระวังพอสมควร เพราะหากโดนสีรถจะทำให้สีเสียหายได้ หากโดนก็ให้ใช้น้ำราดเพื่อให้เจือจาง ไม่ควรเช็ดในทันที อย่างไรก็ตาม หากน้ำมันเบรกพร่องบ่อยครั้ง จะต้องนำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้วยเช่นเดียวกัน

การเช็คน้ำมันเบรกที่อยู่บริเวณเครื่องยนต์ของรถ

เคล็ดลับที่ 6 เช็คกระบอกคลัตซ์น้ำมัน

สำหรับการดูแลรักษาที่ทำได้ทุกวันและเป็นสิ่งที่ควรทำก็คือการเช็คกระบอกคลัตซ์น้ำมันให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง ซึ่งจะอยู่ข้างๆกระบอกน้ำมันเบรก โดยน้ำมันที่ใช้เติมก็คือน้ำมันเบรก หากน้ำมันในกระบอกคลัตซ์น้ำมันหมดรถก็ไม่สามารถวิ่งได้เช่นเดียวกันนั่นเอง

การตรวจเช็คกระบอกคลัตซ์น้ำมัน

สรุป

สำหรับเคล็ดลับทั้ง 6 ประการ นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนทำได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากการขับรถทุกครั้งนอกจากจะไม่ประมาทแล้ว จะต้องตรวจเช็คความพร้อมของรถด้วย เพราะนอกจากจะปลอดภัยในการขับขี่แล้วยังเป็นการช่วยให้รถคงประสิทธิภาพที่ดีอยู่เสมอ

อ่านเพิ่มเติม :