5 เทคนิคขับรถเมื่อ “น้ำมันใกล้หมดถัง”

ขับรถอย่างไรเมื่อน้ำมันใกล้หมด

5 เทคนิคขับรถเมื่อ “น้ำมันใกล้หมดถัง”

นับว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ที่เหล่าผู้ใช้รถทั้งหลายต้องเคยประสบ หากโชคดีหน่อยไฟสัญญาณเตือนน้ำมัน อาจโชว์เมื่อใกล้ถึงบ้าน หรือมองเห็นปั๊มอยู่ข้างหน้า แต่สถานการณ์ที่ทำให้กังวลมากที่สุดคือ น้ำมันจะหมดช่วงเดินทางไกล เวลากลางคืน หรือขณะขับขี่บนเส้นทางทีไม่คุ้นเคย ทำให้ขับขี่ไปด้วยวิตก กระสับกระส่าย ลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าน้ำมันจะหมดเมื่อไหร่ โดยทั่วไปแล้วสัญญาณเตือกระดับน้ำมันหมด จะแสดงเมื่อมีน้ำมันอยู่ในถังราว 10 ลิตร โดยสามารถขับต่อไปได้อีกระยะประมาณ 30-50 กิโลเมตร (ขึ่นอยู่กับรถแต่ละรุ่น และพฤติกรรมการขับขี่) ซึ่งหลายท่านยังไม่ทราบว่ามีเทคนิค ที่จะช่วยให้สามารถขับรถได้ระยะทางมากกว่าเดิม จนกระทั่งถึงปั๊มน้ำมันอันเป็นเป้าหมายที่ต้องการ วันนี้ทาง khaorot.com เราจึงนำวิธีเหล่านั้นมานำเสนอ สำหรับทุกท่านที่ต้องขับขี่เดินทางเป็นประจำ เพื่อช่วยรับมือกับเหตุการณ์ “น้ำมันใกล้หมดถัง”

ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในรถ เพื่อลดการใช้พลังงาน

ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถ

อันดับแรกที่ควรทำเมื่อน้ำมันใกล้หมด คือ ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในรถ ไม่ว่าจะเป็น แอร์ วิทยุ การชาร์จไฟโทรศัพท์ หรือระบบนำทางบนหน้าจอ รวมถึงปิดหน้าจอหลัก เพื่อลดการใช้กระแสไฟโดยไม่จำเป็น ช่วยรักษาระดับน้ำมันไม่ให้สิ้นเปลืองไปกับการสร้างกระแสไฟมากเกินไป

พยายามแตะเบรคให้น้อยที่สุด

การเหยียบเบรกบ่อยๆ (โดยเฉพาะช่วงรถติดยาว ) จะทำให้ต้องกลับมากดคันเร่งซ้ำเรื่อยๆทุกครั้งที่เหยียบเบรก ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น หากน้ำมันใกล้หมดช่วงรถติดยาว แนะนำให้ปล่อยรถไหลและเหยียบเบรก โดยไม่ต้องกดคันเร่ง จะช่วยให้ขับได้ไกลขึ้น

ขับด้วยความเร็วคงที่ ลดการ kick down

ขับด้วยความเร็วคงที่ เหมาะกับขนาดเครื่องยนต์

การขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับขนาดเครื่องยนต์ และพยายามคงความเร็วนั้นตลอดเส้นทาง จะช่วยให้การใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้สำหรับเป็นพลังขับเคลื่อนตัวรถน้อยลง โดยเครื่องยนต์ขนาด 1.3 – 1.8 ลิตร ควรขับที่ความเร็ว 45-65 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่าอย่าง 2.0 -3.0 ลิตร ควรเลี้ยงความเร็วอยู่ระหว่าง 55 – 75 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ไม่เปิดกระจกลงกว้าง เพื่อลดแรงต้านขณะรถวิ่ง

ไม่เปิดกระจกรถกว้าง

หลายท่านที่เข้าใจผิด เพราะปิดแอร์แล้วอากาศภายในห้องโดยสารร้อน จึงเปิดกระจกช่วยระบายอากาศ ซึ่งการเปิดให้มีลมหมุนวียนภายในห้องโดยสาร จะยิ่งเพิ่มแรงต้านทาน และรถจะต้องใช้แรงวิ่งมากขึ้นสำหรับเคลื่อนตัวไปด้านหน้า เพราะมีมวลอากาศอยู่ด้านใน ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าเดิม หากอากาศร้อนมากสามารถแง้มกระจกลงเล็กน้อยเพื่อช่วยระบายอากาศได้

ค้นหาปั๊มที่ใกล้ที่สุด พร้อมตรวจสอบการจราจรเส้นทางด้านหน้า

หาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด และการจราจรด้านหน้าผ่านมือถือ

ใช้โทรศัพท์มือถือ ค้นหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ขณะเดียวกันก็ควรตรวจดูเส้นทางจราจรด้านหน้า ว่ามีการติดขัดหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นที่สะดวกกว่า
จะเห็นได้ว่า แต่ละวิธีสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก หวังว่าเทคนิคที่เรานำมาเสนอจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถทุกท่านนะครับ หากท่านใดมีวิธีการอื่นๆสำหรับช่วยเหลือในสถานการณ์ “น้ำมันใกล้หมดถัง” สามารถแชร์กันได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างนะครับ

อ่านเพิ่มเติม
เคล็ดลับการลบรอยขีดข่วนบนพื้นผิวรถยนต์
วิธีที่จะช่วยให้คุณยืดอายุแบตเตอรี่ ให้อยู่กับรถยนต์ นานกว่าเดิม