เปรียบเทียบ MG5 2018 กับคู่แข่ง Toyota Vios 2018 คันไหนโดนใจที่สุด

เปรียบเทียบ MG5 2018 กับคู่แข่ง Toyota Vios 2018 คันไหนโดนใจที่สุด

บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมเราถึงนำซีดานที่มีขนาดใหญ่กว่าเทียบเท่า C-segment อย่าง MG5 2018 มาเปรียบเทียบกับ Toyota Vios 2018 ซึ่งมีขนาดตัวเล็กและออพชั่นน้อยกว่ามาก เหตุผลก็คือ “ราคา” ที่ทาง MG เปิดราคาจำหน่ายในช่วงเดียวกับรถยนต์ B-segment และยังวางให้เป็นคู่แข่งกับรถยนต์ระดับนี้ มากกว่าจะสู้กับรถยนต์ราคาล้านอัพ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายๆคนลังเล ตัดสินใจยาก เพราะ MG5 2018 รูปทรงดูดี ทันสมัย ออพชั่นมากกว่า มีซันรูฟ เครื่องยนต์มีเทอร์โบ แต่ก็ไม่แน่ใจเรื่องความเสถียรของระบบและบริการหลังการขาย ส่วน Vios 2018 รูปทรงสปอร์ตดุดัน ออพชั่นพอประมาณ เครื่องยนต์ธรรมดา แต่ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกและอะไหล่หาง่าย ซึ่งวันนี้ทาง khaorot.com จะมาเปรียบเทียบแบบลงลึกถึงรายละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าคันไหนที่ตอบโจทย์คุณมากกว่ากัน โดยรุ่นที่เราจะเปรียบเทียบคือ NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D และ Toyota Vios 1.5 G AT ที่ราคาต่างกันเพียง 1 หมื่นบาทเท่านั้น

MG5 TURBO 1.5L รุ่น D

Toyota Vios 1.5 G CVT รุ่นปรับโฉมใหม่ ราคา 729,000 บาท

เปรียบเทียบด้านราคา MG5 2018 และ Toyota Vios 2018

ราคา NEW MG5 2018 
NEW MG5 1.5L รุ่น D ราคา 649,000.
NEW MG5 1.5L รุ่น X Sunroof ราคา 699,000.
NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D ราคา 719,000.
NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น X Sunroof ราคา 759,000.

ราคา NEW Toyota Vios 2018 
Toyota Vios 1.5 J AT 609,000
Toyota Vios 1.5 E AT 679,000
Toyota Vios 1.5 G AT 729,000
Toyota Vios 1.5 S AT 789,000

เมื่อเปรียบเทียบแล้วจะเห็นว่าราคาทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย โดยรุ่นที่ราคาใกล้เคียงกันคือ NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D กับ Toyota Vios 1.5 G AT ส่วนรุ่นท็อปของ Vios สูงกว่า MG 30,000 บาท

ภายนอก NEW MG5 2018 ดูทันสมัย ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC 

ไฟท้ายโดดเด่น บ่งบอกความสปอร์ตเต็มขั้น

เปรียบเทียบ Honda City กับคู่แข่ง Toyota Vios ซื้อคันไหนดี

NEW MG5 2018 มีมิติตัวถัง ยาว 4,612 มม.  กว้าง 1,804 มม.  สูง 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,650 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 118 มม. ภายนอกดูทันสมัย ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC โดดเด่นด้วยกระโปรงหน้าแบบ V-SHAPE ผสานกันอย่างลงตัวกับเส้นสายที่โค้งมน เสริมให้โลโก้ MG ดูเด่นขึ้น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน พร้อมไฟ  Daytime Running Light แบบ LED แนวนอน ติดตั้งไฟตัดหมอกทั้งหน้าและหลัง หลังคาส่วนท้ายจะเอียงลาดและให้ความสปอร์ตมากกว่า Vios ส่วนด้านหลังสะดุดตาด้วยไฟท้ายดีไซน์สปอร์ตแนวยาวไม่เหมือนใคร เพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยปลายท่อไอเสียแบบสปอร์ต และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 205/55R16

Toyota Vios 2018 โฉมหน้าดุดันด้วยตะแกรงสีดำขนาดใหญ่

ด้านหลังมีไฟท้าย LED และตกแต่งด้วยแถบโครเมี่ยมคาดยาว

Toyota Vios 2018 มีขนาดตัวถัง ยาว 4,420 มม. กว้าง 1,700 มม. สูง 1,475มม. ระยะฐานล้อ 2,550 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มม.  รูปทรงภายนอกสไตล์สปอร์ตดุดัน กระโปรงหน้า V-SHAPE เช่นกัน แต่ด้านหน้าจะคมเข้ม ดุดัน มากกว่าด้วยตะแกรงสีดำขนาดใหญ่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบรมดำ พร้อมด้วย LED Light guide แนวตั้ง และไฟตัดหมอกหน้าไม่มีไฟตัดหมอกหลังเหมือน MG5 แต่มี กระจกบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass) ซึ่งใน MG5 เป็นแบบธรรมดา ด้านข้างเส้นสายเรียบง่าย ส่วนด้านหลังมีไฟท้าย LED เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยแถบโครเมียม แต่ท้าย MG5 จะให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่า Vios 2018 มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 185/60 R15

เปรียบเทียบมิติตัวถัง NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D และ Toyota Vios 1.5 G AT

เมื่อเทียบกันแล้ว MG5 2018 จะมีขนาดตัวถังใหญ่กว่า Vios 2018 อย่างชัดเจน ส่วนรูปทรงของ MG5 จะให้ความสปอร์ตทั้งด้านหน้าและหลัง ต่างจาก Vios 2018 ที่เน้นความสปอร์ต ดุดัน ด้านหน้าเป็นหลัก

เปรียบเทียบภายใน NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D และ Toyota Vios 1.5 G AT

NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ตกแต่งด้วยสีดำสปอร์ต รูปทรงอุปกรณ์เรียบง่ายมีเอกลักษณ์เฉพาะของ MG พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามารถปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย มาตรวัดแบบสองหน้าปัดดูธรรมดาแต่อ่านง่าย พร้อมจอแสดงผล Multi-Function Display ตรงกลาง สตาร์ทด้วยกุญแจรีโมท กระจกปรับไฟฟ้า มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แผงบังแดดคู่หน้าและกระจกส่อง

MG5 2018 ภายในกว้างขวาง ( MG5 TURBO 1.5L รุ่น D ไม่มี Sunroof และเป็นเบาะผ้าสีดำ)

คอนโซลหน้าตกแต่งเรียบง่าย ดีไซน์เอกลักษณ์ MG พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว

ระบบอินโฟเทนเมนต์ มีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง /AM/FM/MP3 ขับพลังเสียงผ่านลำโพง 4 ตัว เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูธูท มีช่องต่อ USB/AUX นอกจากนี้ยังมีระบบ inkaNet จาก MG ที่ทำให้ผู้ขับทราบข้อมูลต่างๆของรถยนต์ได้ผ่านแอพลิเคชั่นนี้  
เบาะนั่งวัสดุผ้าสีดำ โดยเบาะคนขับและข้างคนขับสามารถปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะหลังปรับพับลงมาเพื่อเพื่มพื้นที่เก็มสัมภาระได้ และมีไฟส่องสว่างในห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย

มาตรวัดดีไซน์สปอร์ต อ่านง่าย

เพิ่มความทันสมัยด้วยระบบ inkaNet ที่ผู้ขับสามารถทราบทุกข้อมูลของรถได้อย่างง่ายดาย

Toyota Vios 1.5 G AT ภายในให้อารมณ์หรูหรากว่าด้วยสีโรสโกลด์และเปียโนแบล็ค พวงมาลัยหุ้มหนังปรับระดับสูงต่ำได้ และมีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยเช่นกัน มาตรวัดแบบ Analog ทันสมัย พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID)ตรงกลาง และไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด (Eco Meter) สตาร์ทด้วยกุญแจรีโมท มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจกปรับไฟฟ้า แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้าฝั่งคนขับและผู้โดยสาร
หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 7 นิ้ว พร้อมวิทยุ DVD/CD/MP3/MP4/WMA /Bluetooth แต่ไม่มีระบบนำทาง มีช่องต่อ USB เพลิดเพลินด้วยเสียงจากลำโพง 4 ตัว เบาะนั่งทำจากวัสดุผ้าเช่นกัน เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับระดับสูง-ต่ำได้ แต่เบาะหลังพับไม่ได้ 

Toyota Vios 1.5 G ATภายในตกแต่งด้วยสีโรสโกลด์และเปียโนแบล็ค

การตกแต่งภายในห้องโดยสารดูทันสมัย พร้อมหน้าจอหลักขนาด 7 นิ้ว

มาตรวัดแบบ Analog ทันสมัย พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID)ตรงกลาง

เมื่อเทียบกันแล้ว Vios 2018 จะมีการตกแต่งภายในที่หรูหราและทันสมัยมากกว่า แต่ MG5 2018 จะโดดเด่นด้านพื้นที่ภายในกว้างขวาง สามารถพับปรับเบาะได้ตามความเหมาะสม พร้อมระบบอัจฉริยะ inkaNet 

เปรียบเทียบเครื่องยนต์ NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D และ Toyota Vios 1.5 G AT

NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 16 วาล์ว TCI-TECH ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Sport/Manual ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็น ทอร์ชันบีมแบบ H-Type คานขวางแบบ U-Shape ยึดเกาะถนนแน่นทุกสภาพถนน

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 16 วาล์ว TCI-TECH ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า

ช่วงล่างแน่น ขับขี่สนุกทุกสภาพถนน

Toyota Vios 1.5 G AT ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ระบบกันสั่นสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง 

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า

Toyota Vios 2018 โดดเด่นด้านระบบกันสั่นสะเทือนที่นุ่มนวลตลอดเส้นทาง

หากเทียบสมรรถนะกันแล้ว แน่นอนว่า MG5 ที่มีเทอร์โบย่อมทำความเร็วได้ดีกว่า ทั้งแรงม้าและแรงบิด แต่ด้าน Vios ก็ไม่ได้ถือว่าแย่ แรงม้าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปเช่นกัน และยังมีช่วงล่างที่นุ่มนวล ต่างจากช่วงล่าง MG5 ที่มีสไตล์สปอร์ต

เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D และ Toyota Vios 1.5 G AT

สำหรับระบบความปลอดภัย ทั้งสองค่ายต่างก็มีอุปกรณ์พื้นฐานใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ MG5 เหนือกว่าคือมีระบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดีกว่า Vios 

เทียบระบบความปลอดภัย NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D และ Toyota Vios 1.5 G AT

เมื่อมองในภาพรวมแล้ว ทั้งสองรุ่นจะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน โดย NEW MG5 TURBO 1.5L รุ่น D มีความสปอร์ต สดใสมากกว่า ภายในห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระกว้าง เดินทางไกลแล้วไม่อึดอัด ระบบความปลอดภัยครบครัน เครื่องยนต์ติดเทอร์โบ แรงได้ดั่งใจ แต่ต้องยอมรับกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากกว่า และศูนย์บริการน้อยเพราะเพิ่งเข้ามาทำตลาด ส่วน Toyota Vios 1.5 G AT ซีดานรุ่นเก๋า ที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไทยมานาน ยิ่งปรับหน้าใหม่ให้ดุดันขึ้นยิ่งน่าขับ ทั้งภายในดูทันสมัยมากกว่า  MG5  แม้ว่าเครื่องยนต์จะไม่แรงเทียบเท่า แต่สบายใจเรื่องอะไหล่มือสองที่มีให้เปลี่ยนมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าผู้ขับชอบสไตล์ไหน ซึ่งทั้งสองรุ่นราคาต่างกันเพียง 10,000 บาท เท่านั้น ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปทดลองขับได้ที่โชว์รูม MG และ Toyota ทั่วประเทศก่อนตัดสินใจครับ

ดูเพิ่มเติม:
MG5 มือสองดีไหม? สิ่งจูงใจที่ต้องเลือกซีดานคันนี้
เปรียบเทียบรถยนต์ MG5 กับคู่แข่ง Honda City ใครจะได้รับความสนใจจากนักขับมากกว่ากัน​