BMW X1 2018 Diesel ดีไหม?
เมื่อนึกภาพรถยนต์อเนกประสงค์ทั่วไป อาจจะเป็นรถที่เน้นการเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ จุผู้โดยสารได้มาก และมีพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระกว้างขวาง สะดวกสบายสำหรับการเดินทางไกล โดยไม่เน้นที่ความแรงของเครื่องยนต์มากนัก จึงมักใช้เครื่องยนต์เบนซินในการขับเคลื่อนเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งเสียงเครื่องยนต์ยังเงียบสบายหูกว่ามาก แต่ใช่ว่าเครื่องดีเซลจะไม่ดี หลายคนที่ชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตยังคงเลือกใช้เครื่องยนต์แบบดีเซลที่ได้เปรียบด้านอัตราเร่งอย่างที่เบนซินเทียบไม่ติดทีเดียว BMW X1 จึงติดตั้งเครื่องยนต์มาให้สองแบบ ทั้งดีเซลและเบนซินให้เลือกขับกันตามความชอบ และล่าสุดในรุ่น 2018 ที่นอกจากเพิ่มขนาดตัวถังให้กว้างขึ้นแล้ว ยังมีรุ่นดีเซลให้เลือกถึง 2 รุ่นด้วยกันคือ X1 sDrive18d xLine และ BMW X1 sDrive20d M Sport
กระจังหน้าและไฟหน้าแบบใหม่
รีวิว BMW 730 Ld M Sport เรียบหรู พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน
ภายนอกดูใหญ่กว่ารุ่นก่อน มิติตัวถังยาว 4,439 มิลลิเมตร กว้าง 1,821 มิลลิเมตร สูง 1,612 มิลลิเมตร น้ำหนักทั้งคันอยู่ที่ 1,505 กิโลกรัม ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้มีพื้นที่ในการจุสัมภาระรวมมากถึง 1,550 ลิตรด้วยกัน ไฟหน้า LED แบบใหม่ พร้อม LED Day Time Running Light กระจังหน้าดูดีขึ้น ไฟท้ายและฝาไฟท้ายดีไซน์ใหม่ มาพร้อมกับล้ออัลลอยลวดลายสวยงามขนาด 18 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 225/50R18 95W
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเข้มในรุ่น M Sport
>> เข้าเช็ค BMW X1 ราคา มือสอง
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเข้มในรุ่น M Sport เพิ่มความหรูหราด้วยวัสดุหนัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมหน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ที่มีฟังก์ชั่นให้เลือกหลากหลาย มีระบบ BMW Head-Up Display ที่แสดงข้อมูลสำคัญด้านหน้า และหมดกังวลกับการจอดรถ ด้วยระบบ BMW Parking Assistant
BMW X1 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น คือ
• เครื่องยนต์เบนซิน BMW X1 sDrive18i xLine ราคา 2,229,000 บาท
• เครื่องยนต์ดีเซล BMW X1 sDrive18d xLine ราคา 2,359,000 บาท
• เครื่องยนต์ดีเซล BMW X1 sDrive20d M Sport ราคา 2,599,000 บาท
BMW X1 sDrive18i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส B38 BMW TwinPower Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.0 x 94.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.1 : 1 กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) ที่ 4,400 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,250 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ Steptronic Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบTwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี
BMW X1 sDrive18d เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส B47 BMW TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport ขับเคลื่อนล้อหน้า
BMW X1 sDrive20d M Sport ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเช่นเดียวกับรุ่น sDrive18d แต่ให้กำลังสูงสุดมากกว่าคือ 190 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
BMW X1 ในเวอร์ชั่นเครื่องดีเซลนั้น ได้เปรียบรุ่นเบนซินที่มีเพียงสามสูบ ทำให้แรงบิดเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ทั้งด้านการตอบสนองของอัตราเร่ง ช่วงล่างและการบังคับเลี้ยว แม้ว่าจะเหมือนกับรุ่นเบนซินทุกอย่าง เมื่อได้ลองขับดูจะรู้ว่าให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างมาก โดยเฉพาะแรงบิดที่วิ่งได้สบายบนทางไฮเวย์หรือเดินทางไกลก็ไม่หวั่น การเร่งเครื่องแซงทำได้ดีโดยไม่ต้องนั่งลุ้นเหมือนกับรุ่นเบนซิน ถือเป็นครอสโอเวอร์ที่มีความกระฉับกระเฉงมาก ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การตอบสนองต่ออัตราเร่งรวดเร็วทันใจ
การบังคับเลี้ยวหรือเข้าโค้งแม่นยำและไว
การบังคับเลี้ยวและการเข้าโค้งไวขึ้น มีระยะฟรีน้อยลง เนื่องจากเปลี่ยนจากระบบขับหลังที่คุ้นเคย เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเหล่าสาวก BMW อาจไม่คุ้นชินกัน ต้องระมัดระวังอาการ “หน้าไว”ในการเข้าโค้งสักเล็กน้อยที่เป็นธรรมดาของรถขับหน้า หากคุ้นเคยกันดีแล้วจะต้องบอกว่าสนุกและท้าทายไม่น้อยกว่ารถขับหลังเลย
New X1 ใช้ระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ Steptronic ที่มีอัตราทดให้ถึง 8 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์กับโหมดแมนนวลที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง ด้วยตำแหน่ง +/- หรือผ่านทาง Paddle Shift หลังพวงมาลัย ทำให้การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วขึ้น และยังถือเป็นรถขับหน้าที่มีอัตราทดมากที่สุดในขณะนี้อีกด้วย ซึ่งการลดรอบเครื่องยนต์ที่ว่านี้มีส่วนช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น กอรปกับมีโหมด ECO PRO มาให้ ทำให้ยิ่งหมดห่วงเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ดังที่ ECO STICKER รับรองไว้ 20.4 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งที่มีน้ำหนักถึง 1,545 กิโลกรัมมากกว่ารุ่นเบนซิน 40 กิโลกรัมเท่านั้น
ประหยัดเชื้อเพลิงด้วยอัตรา 20.4 กิโลเมตรต่อลิตร
นอกจากนี้ยังมีโหมด Auto Start-Stop ที่ตัดระบบการทำงานของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเมื่อรถหยุดขณะรอสัญญาณไฟจราจร ซึ่งสามารถกดปิดเพื่อยกเลิกได้หากไม่ชอบใจ อีกจุดหนึ่งที่สังเกตุได้คือการติดและดับเครื่องของ New X1 รุ่นดีเซล มีความนุ่มนวลขึ้นมาก เสียงรบกวนขณะเดินเบาก็ไม่ดังมาก แทบจะเทียบเท่าเบนซินเลยก็ว่าได้
สรุป
New BMW X1 2018 รุ่นดีเซลถือว่าดีมาก ทำให้การขับขี่สนุกขึ้น การตอบสนองต่ออัตราเร่งเร็วกว่าเบนซินอย่างเห็นได้ชัด สามารถขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมืองอย่างไม่ต้องกลัวอืดขวางทางใคร แม้บรรจุผู้โดยสารจัดเต็มทุกที่นั่งก็แซงตัวปลิวได้สบาย แต่ต้องระวังพวงมาลัยที่ตอบสนองเร็วมาก เพียงเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อยก็เคลื่อนแล้ว คงต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยสักระยะ ส่วนอัตราเชื้อเพลิงก็ประหยัดถึง 20.4 กิโลเมตรต่อลิตร นอกจากนี้ยังปรับปรุงให้มีเสียงเครื่องยนต์ดังน้อยลง New BMW X1 2018 จึงเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ที่ครบทุกความต้องการอย่างแท้จริง
New BMW X1 2018 พร้อมลุยทั้งในและนอกเมือง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ดูเพิ่มเติม: