เปรียบเทียบ MG6 2018 กับคู่แข่ง Ford Focus 2018 ใครจะน่าสนใจมากกว่ากัน

1. แนะนำ

พร้อมสะกดทุกสายตากับ All New MG 6 2018 รถอเนกประสงค์สายพันธุ์สปอร์ตที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้แนวคิด Brit Dynamic รวบรวมเอาความเหนือกว่าด้านสมรรถนะการขับขี่มาไว้ในรถรุ่นนี้ผสานเข้ากับขุมพลังเครื่องยนต์ Turbo 1.8 TCI-TECH ที่ให้อัตราการเร่งได้อย่างดีเยี่ยม เสริมด้วยช่วงล่างที่ใช้มาตรฐานเช่นเดียวกันกับรถซีดานในยุโรปแบบ European Tuning Suspension ให้ความสมดุลทุกมิติการขับเคลื่อนพร้อมมอบความนุ่มนวลให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกทริปการเดินทาง โดยเอ็ม จี 6 มากับทางเลือกรุ่นย่อย 2 รูปแบบทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และ Fastback 5 ประตู ในราคาเริ่มต้นเพียง 8.9 แสน เท่านั้น

รถยนต์ MG6 2018

ส่วนทางด้าน Ford Focus 2018 สร้างความประทับใจให้กับนักขับหลายรายด้วยฟีเจอร์ระบบอำนวยความสะดวกในระดับเฟิร์สคลาสเติมเต็มทุกอัตราการเร่งผ่านขุมพลัง EcoBoost ขนาด 1.5 ลิตร แบบใหม่ล่าสุดที่ได้รับการการันตีถึงอัตราการเร่งที่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แพล็ตฟอร์ม C2 ที่เน้นเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารผ่านการดีไซน์ให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้มากขึ้น ผสานกับการลดน้ำหนักตัวถังให้น้อยลงกว่ารุ่นก่อนหน้าเพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เสริมด้วยทางเลือกรุ่นย่อยถึง 2 รูปแบบ ทั้งแบบ 4 ประตู และ 5 ประตู เคาะราคาเริ่มต้นที่ 7.9 แสน

รีวิวรถยนต์ Ford Focus 2018

2. เปรียบเทียบราคาจำหน่าย MG6 2018 กับคู่แข่ง Ford Focus 2018

MG 6 2018 เพิ่มความหลากหลายให้กับผู้ซื้อด้วยราคาจำหน่ายในรุ่นซีดาน 4 ประตู เริ่มต้นที่ 908,000 บาท ส่วนในรุ่น Fastback 5 ประตู เคาะราคาที่ 898,000 บาท เสริมด้วยหลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าที่เพิ่มมาให้กับผู้ขับขี่เป็นออฟชั่นพิเศษที่มีให้เฉพาะในเอ็ม จี 6 เท่านั้น

ราคาจำหน่าย MG6 2018 มีดังนี้

MG 6 ซีดาน 4 ประตู

MG 6 รุ่น 1.8C DCT ราคา 908,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8D DCT ราคา 998,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8D Sunroof DCT ราคา 1,028,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8X Turbo DCT ราคา 1,108,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8X Turbo Sunroof DCT ราคา 1,138,000 บาท

รีวิว All New MG 6 2018

MG6 Fastback 5 ประตู

MG 6 รุ่น 1.8C ราคา 898,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8D ราคา 988,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8D Sunroof  ราคา 1,018,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8X ราคา 1,098,000 บาท
MG 6 รุ่น 1.8X Sunroof  ราคา 1,128,000 บาท

ราคาจำหน่าย Ford Focus 2018 ในบ้านเรายังคงไม่มีการแจ้งราคาอย่างเป็นทางการเนื่องจากยังคงไม่มีการนำเข้ามาทำตลาดภายในประเทศ ทั้งนี้ราคาจำหน่ายฟอร์ด โฟกัส รุ่นปัจจุบันที่ได้ทำตลาดอยู่ในประเทศไทยเป็นโฉมปี 2016 ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากผู้ขับขี่มากเช่นกัน

ราคาจำหน่าย Ford Focus 2018 มีดังนี้

Ford Focus 4 ประตู
Ford Focus รุ่น 1.6L Ambiente 6 AT ราคา 799,000 บาท
Ford Focus รุ่น 1.6L Ti-VCT Trend 6 AT ราคา 829,000 บาท
Ford Focus รุ่น 2.0L Ti-VCT GDi Titanium 6 AT ราคา 959,000 บาท
Ford Focus รุ่น 2.0L Ti-VCT GDi Titanium+ 6 AT ราคา 1,069,000 บาท

Ford Focus 2018

Ford Focus 5 ประตู
Ford Focus รุ่น 2.0L Ti-VCT GDi Sport Plus 6 AT ราคา 1,079,000 บาท
Ford Focus รุ่น 2.0L Ti-VCT GDi Sport Plus 6 AT (Luxury pack) ราคา 1,089,000 บาท
Ford Focus รุ่น 1.5L EcoBoost Sport AT ราคา 1,099,000 บาท

3. เปรียบเทียบภายนอก MG 6 2018 กับคู่แข่ง Ford Focus 2018

MG 6 2018 เพิ่มความเร้าใจในทุกมุมมองด้วยกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมขอบโครเมี่ยมผสานกับการติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ซีนอนที่ให้แสงสว่างอย่างคมชัดเสริมด้วยการนำระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้าและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และ ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL รวมถึงไฟตัดหมอกคู่หน้า-ไฟตัดหมอกหลัง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้าในตัว และ ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ

โปรโมชั่นพิเศษ FORD FOCUS 2018 ลดกระหน่ำเป็นแสน

ด้านข้าง MG 6 2018

ส่วนด้านหลัง MG 6 ให้ความรู้สึกปราดเปรียวทันสมัยแฝงไว้ด้วยความรู้สึกคล่องตัวอย่างดีเยี่ยมด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต กระจกหลังติดตั้งระบบไล่ฝ้า ระบบไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เช่นเดียวกัน นอกจากนี้แล้วยังมีการติดตั้งหลังคาซันรูฟแบบปรับไฟฟ้าแนวเอียงและสไลด์เข้ามาเป็นอุปกรณ์เสริมให้ ช่วงล่างในรุ่นล่างสุดติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 R16 ส่วนช่วงล่างในรุ่นท็อปติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50 R17 นับเป็นมิติใหม่ของผู้ชื่นชอบรถแบบซีดานที่มาพร้อมความสปอร์ตสุดลงตัว

MG6 ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ทางด้าน Ford Focus 2018 ได้รับการออกแบบให้เพิ่มความยาวของฐานล้อมากขึ้น 53 มิลลิเมตร เสริมด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถังอีก 20 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับการดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกให้ดูแปลกตาไปจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน เช่น การเพิ่มไฟท้ายเข้าไปอีก 2 ชิ้น ในรุ่นแฮทช์แบ็ค รวมถึงการนำกระจกโอเปร่าออกทั้งในรุ่นซีดาน และ แฮทช์แบ็ค อีกทั้งยังมีการดีไซน์ตัวถังให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น แฮทช์แบ็ค, ซีดาน, แวกอน, ครอสโอเวอร์ (Focus Active)

ด้านข้าง Ford Focus 2018

นอกจากนี้แล้วภายนอกของ Ford Focus 2018 โฉมใหม่ ยังคงถูกเสริมให้มีความโดดเด่นมากขึ้นด้วยการติดตั้งไฟหน้าแบบ Adaptive Front Lighting System ที่พ่วงมากับระบบ Predictive Curve Light ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่จากฟอร์ดในการทำงานผ่านกล้องหน้ารถที่ช่วยปรับองศาไฟหน้าก่อนเข้าโค้ง รวมถึงระบบ Sign-based Light ปรับองศาไฟหน้าตามป้ายจราจรได้ครั้งแรกในโลกด้วยส่งผลให้การดีไซน์ภายนอกของ Ford Focus 2018 ดูมีความเหลื่อมล้ำกว่า MG 6 อยู่บ้างเล็กน้อย

Ford Focus 2018 ติดตั้งสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

4. เปรียบเทียบภายใน MG 6 2018 กับคู่แข่ง Ford Focus 2018

MG 6 2018 ได้รับการตกแต่งภายในอย่างประณีตด้วยโทนสีดำพร้อมแผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยสีเทา แผงประตูตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์ ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้และหนังสังเคราะห์ โดยเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง และติดตั้งระบบปรับดันหลังด้านคนขับ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้แบบ 60:40 อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ MID

แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยสีเทา

ผสานเข้ากับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ การติดตั้งปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติ Push Start ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ระบบจำกัดความเร็วแบบ ASL ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมที่เก็บของคอนโซลกลางแบบรักษาอุณหภูมิ กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบ Anti-Jam Protection ทั้ง 4 บาน แผงบังแดดด้านหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าและไฟส่องสว่างด้านบน แผงบังแดดด้านหลัง และ ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระ ถือว่า MG 6 เพิ่มออฟชั่นภายในมาแบบจัดเต็มจนเหนือกว่า Ford Focus 2018 อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว   

หลังคาซันรูฟแบบปรับไฟฟ้า

ทางด้าน Ford Focus 2018 ภายในได้รับการออกแบบอย่างหรูหราในระดับเฟิร์สคลาสพร้อมห้องโดยสารที่ถูกปรับให้มีขนาดกว้างขวางมากยิ่งขึ้นติดตั้งออฟชั่นเสริมต่างๆอีกมากมาย เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติแบบ Level 2 พร้อมติดตั้งระบบ Adaptive Cruise Control ที่ช่วยให้สามารถควบคุมความเร็วได้ง่ายมากขึ้น ตกแต่งภายในสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำด้านคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมเบาะดันหลังด้านคนขับ ไฟส่องสว่างภายในรถแบบ LED ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ Ambient Light ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีระบบเปิด-ปิด กระจกสัมผัสเดียว One Touch Up

ภายใน Ford Focus 2018  ตกแต่งด้วยสีดำ

มาตรวัดระยะทางและจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เสริมด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ ให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ติดตั้งระบบ SYNC 3 รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Android และ IOS ใน Apple Carplay อีกทั้งยังเพิ่มเสียงกระหึ่มด้วยลำโพงกว่า 10 จุด ผ่านระบบเสียง B&O ให้ความมันส์อย่างเต็มที่ หากผู้ขับขี่ชื่นชอบฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก Ford Focus 2018 นับเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ

หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

5. เปรียบเทียบเครื่องยนต์ MG 6 2018 กับคู่แข่ง Ford Focus 2018

MG6 2018 ได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ 18K4G 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TCI-TECH ขนาด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติดูอัลคลัทช์ 6 สปีด พร้อมพวงมาลัยแบบพาวเวอร์ไฮดรอลิก แม้จะมีเครื่องยนต์ติดตั้งมาให้เพียงรุ่นเดียวแต่ด้วยขนาดเครื่องที่ใหญ่กว่า 1.8 ลิตร นับว่าไม่น้อยหน้า Ford Focus 2018 เลยทีเดียว

เครื่องยนต์ Turbo TCI-TECH ขนาด 1.8 ลิตร

ทางด้าน Ford Focus 2018 ที่ได้รับการปรับโฉมมาใหม่เพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ 2 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost ขนาด 1.0 ลิตร มีกำลังสูงสุดให้เลือกทั้ง 85, 100 และ 125 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 และ 182 แรงม้า

เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 1.5 ลิตร

เสริมด้วยขุมพลังดีเซล EcoBlue บล็อกใหม่ล่าสุดขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 95 และ 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร ทั้งคู่ และบล็อกขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่มาพร้อมปุ่มเปลี่ยนระดับเกียร์ดีไซน์สุดหรู

6. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย MG 6 2018 กับคู่แข่ง Ford Focus 2018

MG 6 2018 พร้อมให้การปกป้องผู้โดยสารในทุกเส้นทางด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ USD ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง เสริมด้วยระบบถุงลมนิรภัยที่มีให้ถึง 6 จุด ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย

เบรกมือไฟฟ้า และ ระบบ AUTO HOLD

ระบบความปลอดภัยใน MG6 2018 มีดังนี้

• ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย USD
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
• ระบบออโต้โฮสต์ Auto Hold
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS
• ถุงลมนิรภัย 6 จุด คู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ Isofix

Ford Focus 2018 ก็ไม่น้อยหน้าพร้อมให้ความปลอดภัยในทุกเส้นทางด้วยระบบ Stop & Go ที่ช่วยผู้ขับขี่ในการประหยัดพลังงานเมื่อรถติดไฟแดงด้วยการหยุดการทำงานของเครื่องยนต์แต่ระบบปรับอากาศยังคงทำงานอยู่และสามารถเคลื่อนรถต่อไปได้เพียงแตะคันเร่งเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานต่อ

ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ Active City Stop

ระบบความปลอดภัยใน Ford Focus 2018 มีดังนี้

• ระบบป้องกันการชนด้านหน้า
• ระบบช่วยหักพวงมาลัยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ 
• ระบบ Post-Collision Braking
•  ระบบขับขี่อัตโนมัติ Adaptive Cruise Control
• ระบบ Stop & Go
• ระบบอ่านป้ายจำกัดความเร็ว
• ระบบช่วยประคองเมื่อรถออกนอกเลน
• ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ Active City Stop

7. สรุป

MG 6 2018  ซีดาน 4 ประตู และ Fastback 5 ประตู ถูกออกแบบในสไตล์รถยุโรปสร้างความโดดเด่นในทุกมุมมองด้วยเส้นสายบนตัวรถที่สื่อถึงความทันสมัยปราดเปรียวสปอร์ตโดนใจนักขับ พร้อมทั้งขุมพลังเครื่องยนต์ 18K4G 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TCI-TECH ขนาด 1.8 ลิตร สามารถให้อัตราการเร่งที่ดีเยี่ยมผสานเข้ากับฟังก์ชั่นภายในสุดครบครันในราคาเริ่มต้น 890,000 บาท นับว่าน่าสนใจเลยทีเดียว

ในขณะที่ Ford Focus 2018 รถยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองหรือย่านการจราจรแออัดผ่านการดีไซน์ตัวถังให้มีความปราดเปรียวคล่องตัวพร้อมช่วงล่างที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมพร้อมทั้งขุมพลัง EcoBoost ที่ได้รับการการันตีเรื่องความประหยัดในราคาเริ่มต้นเพียง 799,000 บาท นับเป็นราคาจำหน่ายที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับสมรรถนะที่คุ้มค่า

...

ดูเพิ่มเติม:

• MG ZS ขึ้นแท่น แชมป์ B-SUV

• เผยชุดแต่ง MG GS 2018 พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน