ซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 คำถามสำคัญในการเลือกซื้อรถ

ซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 ควรเลือกรถยี่ห้อไหนดี

ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากมาก ๆ เลยก็ว่าได้ กับคำถามที่ว่าซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 เนื่องจากเหตุผลในการซื้อรถของแต่ละบุคคลนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นในบทความนี้จะมานำเสนอรุ่นรถที่น่าสนใจในปีนี้ ซึ่งอาจจะตรงใจใครหลาย ๆ คนก็เป็นได้ โดยจะแบ่งออกเป็นรถรุ่นยอดนิยม

ถึงแม้ว่าในบทความจะมีการนำเสนอรถเพียงแค่ไม่กี่รุ่นเท่านั้น ไม่ใช่แปลว่ารถที่ไม่ได้กล่าวถึงไม่ดีแต่อย่างใด สุดท้ายการซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 เชื่อได้ว่าทุก ๆ ท่านจะมีคำตอบในใจอยู่แล้วว่า จะเลือกซื้อรถแบบไหน แบรนด์อะไร ออกรถยนต์รุ่นไหนดี

ดูเพิ่มเติม:  รถกระบะยี่ห้อไหนดี

1. Nissan Almera 2020

หนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับการซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 เนื่องจาก Nissan Almera 2020 เพิ่งมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ไปเมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่มาผ่าน ความโดดเด่นคงหนีไม่พ้นเครื่องยนต์บล็อกใหม่ล่าสุด โดย Nissan Almera 2020 มาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 499,000 บาท พร้อมแบ่งออกเป็น 5  รุ่นย่อย และมีสีสันตัวถังให้เลือก 6 สี 

- Nissan Almera 2020 รุ่นย่อย S ราคา 499,000 บาท
- Nissan Almera 2020 รุ่นย่อย E ราคา 509,000 บาท
- Nissan Almera 2020 รุ่นย่อย EL ราคา 559,000 บาท
- Nissan Almera 2020 รุ่นย่อย V ราคา 599,000 บาท
- Nissan Almera 2020 รุ่นย่อย VL ราคา 639,000 บาท

เครื่องยนต์เบนซินใหม่ แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ช่วง 2,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ XTRONIC CVT และยังผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 5 ตามข้อกำหนดของอีโคคาร์ เฟส 2

นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ติดตั้งมาให้กับ Nissan Almera 2020 ในทุกรุ่น ได้แก่

- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD และ เสริมแรงเบรก BA
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC
- ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA

อ่านเพิ่มเติม

• All-new Nissan Almera 2020 เปิดตัวอย่างเฉียบ ราคาเริ่ม 4.99 แสนบาท
• รีวิว Nissan Almera 2020 ราคา 4.99-6.39 แสนบาท

2. Honda City 2020

อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับการซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 ที่เป็นรถประเภทอีโคคาร์ก็ว่าได้ สำหรับ Honda City 2020 มาพร้อมความโดดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์บล็อกใหม่ด้วยเช่นกัน โดย Honda City 2020 แบ่งรุ่นย่อยทำตลาดออกเป็น 4 รุ่น และมีสีสันตัวถังให้เลือก 6 สีสัน

- Honda City 2020 รุ่น S ราคา 579,000 บาท
- Honda City 2020 รุ่น V ราคา 609,000 บาท
- Honda City 2020รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
- Honda City 2020 รุ่น RS ราคา 739,000 บาท

Honda City 2020 มากับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาดความจุ 998 ซี.ซี. พร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ VT 7 สปีด ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ 23.8 กม./ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5

ในส่วนระบบความปลอดภัยของ Honda City 2020 เรียกได้ว่าให้มาแบบจัดเต็ม ได้แก่

- ถุงลม 6 ตำแหน่ง
- กล้องมองหลัง
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ที่มีความแข็งแรง ทนทาน

อ่านเพิ่มเติม

• All New Honda City 2020 เปิดตัว ราคาเริ่ม 579,000 บาท พลิกโฉมสู่อีโคคาร์
• รีวิว All New Honda City 2020 ซิตี้คาร์เจนใหม่ สปอร์ตขึ้นแค่ไหน...มาดู

3. Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton ตัวเลือกของรถกระบะว่าซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 โดยมีราคาถูกที่สุดของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 535,000 บาท พร้อมทั้งเป็นตัวเลือกที่ใกล้เคียงและสมน้ำสมเนื้อกับเหล่าเจ้าตลาดอย่าง Isuzu D-Max และ Toyota Revo เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือ ตลอดจนถึงบริการหลังการขาย

- เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที

- เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน MIVEC อินเตอร์คูเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิงสูงสุดที่ ดีเซล, ไบโอดีเซล B5

ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน และระบบเตือนด้านหน้าขณะถอยออกจากช่องจอด และระบบไฟสูงอัตโนมัติ เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม

• Mitsubishi Triton Athlete 2020 ใหม่ สปอร์ตจัดจ้าน ราคาเริ่ม 1.035 ล้านบาท
• รีวิวความเริ่ดเรอที่มีใน Mitsubishi Triton Minorchange 2019 หนึ่งในกระบะที่น่าเป็นเจ้าของไว้ขับขี่ช่วงเทศกาลนี้

4. Toyota Hilux Revo

กระบะรุ่นยอดนิยมของไทยก็ว่าได้สำหรับ Toyota Hilux Revo คือหนึ่งในตัวเลือกที่ว่าซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 ก็ว่าได้ โดยความโดดเด่นของรถกระบะ Toyota Hilux Revo คงหนีไม่พ้นความทนทานของรถ รวมไปถึงการซ่อมบำรุงที่ไม่มีความซับซ้อนก็ว่าได้ ซึ่งมีสีสันให้เลือกทั้งหมด 4 สี และมีราคาเริ่มต้นที่ 566,000 บาท

- เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ส่งกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

- เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ส่งกำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

ระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของ Toyota Hilux Revo

- ระบบเตือนการโจรกรรม และ Immobilizer
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED
- ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ไล่ฝ้ากระจกหลัง
- กล้องมองหลัง
- เข็มขัดนิรภัย 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ สำหรับเบาะคู่หน้า
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA
- คานเหล็กนิรภัยด้านข้าง
- ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS ด้านผู้ขับ ผู้โดยสาร และหัวเข่าผู้ขับ

อ่านเพิ่มเติม

• ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างเต็มขั้น มาดใหม่ของคนรักกระบะ Toyota Hilux REVO MY2018 เคาะราคาที่ 5.28 แสนบาท
• รีวิว Toyota Hilux Revo Rocco 2019 ราคาเริ่ม 8.3 แสนบาท

5. Mazda 3 2020

ออกรถรุ่นไหนดี 2021 ซึ่ง Mazda 3 อาจจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่น่าสนใจก็ว่าได้ การออกแบบตามแนวคิด KODO design ที่เน้นความโดดเด่นสะดุดตา ด้วยแสงเงายามตกกระทบบนตัวรถ และให้ความแตกต่างด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบของรุ่นซีดาน 4 ประตู จะเน้นความเรียบหรู ขณะที่ฟาสต์แบ็ก 5 ประตู ให้ความสปอร์ต บนความเรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง นอกจากดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว Mazda3 ยังมาพร้อมทางเลือกของสีตัวถังทั้งหมด 7 สี

สำหรับราคาจำหน่าย MAZDA 3 ทั้งรุ่นซีดานและฟาสต์แบ็กจะเหมือนกัน แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย ดังนี้

- MAZDA 3 รุ่น 2.0 C ราคา  969,000 บาท
- MAZDA 3 รุ่น 2.0 S ราคา  1,069,000 บาท
- MAZDA 3 รุ่น 2.0 SP ราคา  1,198,000 บาท

เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0 เวอร์ชันล่าสุดของ Mazda จึงให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E85 พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่มีอยู่ใน MAZDA 3

- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)  

อ่านเพิ่มเติม

• รีวิวให้ชัดกับ All New mazda 3 2019 คอมแพกต์คาร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ ว่าไฉไลมากแค่ไหน

6. MG HS 2020

ออกรถยนต์รุ่นไหนดี? MG HS 2019 Compact คอมแพ็กต์เอสยูวีใหม่ ออกมารุ่นต่อยอดจาก MG GS ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 62 มาพร้อมกับความสปอร์ต ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างดี มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี จุดเด่นคงหนีไม่พ้นความหรูหราของรถ พร้อมวัสดุต่าง ๆ ที่ดูดีเป็นอย่างมาก

MG HS 2019 สามารถเลือกได้ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

- MG HS 2019 รุ่น C
- MG HS 2019 รุ่น D
- MG HS 2019 รุ่น X

MG HS 2019 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI ส่งกำลังสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700 - 4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) 7 สปีด

อุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของ MG HS 2019

- ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Spece Frame)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง
- AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
- ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองหลัง
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
- ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน

อ่านเพิ่มเติม

• รีวิว MG HS 2019 คอมแพกต์เอสยูวีรุ่นใหม่ สุดหรู เริ่ม 9.19 แสนบาท

สำหรับบทความการซื้อรถรุ่นไหนดี 2021 เป็นเพียงการแนะนำรุ่นรถบางส่วนที่ขายในท้องตลาดเท่านั้น ซึ่งยังมีรถอีกหลายรุ่น หลายประเภทที่ไม่ได้กล่าวถึง ทางที่ดีที่สุดของผู้ที่สนใจจะซื้อรถสักคัน จำเป็นต้องตอบโจทย์ของตัวเองมาให้เสียก่อนว่า คุณจะซื้อรถมาใช้ทำอะไรบ้าง เน้นใช้งานรูปแบบไหนเป็นหลัก สิ่งนี้เองจะเป็นคำตอบที่ยอดเยี่ยมว่าคุณจะซื้อรถรุ่นไหนดี 2021