รีวิว MG5 2018 ซีดานหรูน่าขับ “ทางเลือก” เด่นที่คุณไม่ควรมองข้าม

1. แนะนำ MG5 2018 (เอ็มจี 5 2018)

รีวิว MG5 2018 ซีดานหรูน่าขับ “ทางเลือก” เด่นที่คุณไม่ควรมองข้าม 

กระแสช่วงนี้ของ MG5 อาจจะโดนกลบด้วยรถรุ่นใหม่ร่วมค่ายที่ทำยอดขายได้น่าชื่นใจให้กับทาง MG ทั้ง MG ZS และ MG3 จนทำให้ใครหลายคนอาจหลงลืมไปว่า ยังมีซีดานในแบบ SubCompact รุ่นนี้อยู่ ที่เมื่อตอนเปิดตัวในปี 2015 ทางค่ายชูไว้ซึ่ง 5 จุดเด่นน่าสนใจ ได้แก่ เรื่องงานดีไซน์, ความกว้างขวาง, เครื่องยนต์เทอร์โบ, ระบบความปลอดภัยสุดล้ำ และเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ (inkanet) 

ซึ่งราคาจำหน่ายของ MG5 2018 มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยให้เลือก ดังต่อไปนี้ 

• MG5 1.5L D ราคา 649,000 บาท
• MG5 1.5L X Sunroof ราคา 699,000 บาท
• MG5 TURBO 1.5L D ราคา 719,000 บาท
• MG5 TURBO 1.5L X Sunroof ราคา 759,000 บาท

เมื่อเจาะละเอียดในทุกมิติความน่าสนใจของรถรุ่นนี้ ทั้งเรื่องของดีไซน์ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และเรื่องความปลอดภัย จะมีอะไรบ้างซึ่งเป็นจุดเด่น จนทำให้รุ่นนี้ “อาจจะ” กลายมาเป็น “ม้ามืด” ในตัวเลือกของคุณ ไปดูกันเลยดีกว่า 

2. รีวิวภายนอก MG5 2018 (เอ็มจี 5 2018)

กับดีไซน์ที่ให้อารมณ์แบบรถยุโรปตามแนวคิด Brit Dynamic ของ MG ซึ่งเป็นอีกรุ่นที่ยังคงเป็นดีไซน์แบบดั่งเดิมจาก MG อีกรุ่นคือ MG GS จะเห็นได้ว่าดีไซน์ด้านหน้าจะคล้ายกัน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทั้ง 2 รุ่นที่ได้ดีไซน์ฉบับใหม่ไปแล้ว ทั้ง MG ZS และ MG3  

ภายนอกให้อารมณ์ซึ่งความเป็นรถยุโรปดีงาม เส้นสายการออกแบบลงตัวรอบคัน

เด่นที่สุดของภายนอก คือหลังคาซันรูฟปรับด้วยไฟฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายสำคัญที่เหนือกว่ารถหลายรุ่นในคลาสเดียวกัน ไฟหน้าแบบ Projector Lens ฮาโลเจนพร้อมไฟวิ่งกลางวันมาให้ครบ พร้อมสรรพไม่แพ้รุ่นที่คลาสสูงกว่า อีกจุดเด่นที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ ดีไซน์ไฟท้ายยาวสวยสะดุดตาและด้านล่างจะให้มากับท่อไอเสียทรงสปอร์ต ส่วนล้อที่ให้มาเป็นล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ซึ่งโดยรวมของตัวรถ ดูดีหรูดูแพงจนอาจจะทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดได้ว่า MG5 เป็นอะไรที่มากกว่าแค่รถซีดาน B-Segment ก็เป็นได้ 

จุดเด่นที่สุดคือการมีให้มาของหลังคาซันรูฟใน MG5

ฟีเจอร์เด่นที่ภายนอกของ MG5 2018 (เอ็มจี 5 2018) 

• ไฟหน้าแบบ Projector Lens ฮาโลเจน พร้อมไฟ Daytime Running Lights
• ไฟตัดหมอกคู่หน้า-หลัง
• หลังคา Sunroof ปรับด้วยไฟฟ้า
• ปลายท่อไอเสียแบบสปอร์ต

3. รีวิวภายในห้องโดยสาร MG5 2018 (เอ็มจี 5 2018)

กับสีภายในที่มีมาให้เลือก 2 เฉดทั้งสีดำและสีเบจ พร้อมดีไซน์ที่ได้เชื้อจากรถยุโรปไม่น้อย วัสดุคอนโซลเป็นสีดำด้านแข็ง ๆ ตัดด้วยการตกแต่งเพิ่มของสีเงิน พร้อมเบาะนั่งที่ให้มาเป็นเบาะหนังผสมหนังสังเคราะห์ ถามว่าทำได้ดีแค่ไหนในเรื่องของภายในห้องโดยสาร ดีไซน์ในส่วนของคอนโซลหน้าถือว่าสวยใช้ได้ แต่ยังขาดไปซึ่งวัสดุตกแต่งที่น่าสัมผัสเพื่อช่วยทำให้ตัวภายในห้องโดยสารดูดีขึ้นได้อีก เบาะนั่งลงตัวที่ดีไซน์และการความกระชับ แผงหน้าปัดมาตรวัดดูดีกับรูปแบบที่มาทรงพิมพ์นิยมกลมคู่ พร้อมจอ MID แสดงข้อมูลการขับขี่ตรงกลาง โดยรวมถือว่าไม่ดีเลิศแต่ก็ไม่ได้แย่นักสำหรับเก๋งซีดานในแบบ B-Segment ที่พ่วงซันรูฟไฟฟ้ามาด้วย แต่ถ้าจะไปแข่งกับทั้ง Mazda2 หรือ Honda City อาจเป็นรองในเรื่องของวัสดุตกแต่ง

ดีไซน์ลงตัวดูดี แต่ยังขาดไปซึ่งการตกแต่งวัสดุภายในให้หรูหรา

ฟีเจอร์เด่นที่ภายในห้องโดยสารของ MG5 2018 (เอ็มจี 5 2018)

• ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ, สีเบจ
• เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้ผสมหนังสังเคราะห์
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนัง  
• หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
• กุญแจรีโมทพร้อมปุ่มเปิดฝากระโปรงท้าย
• เครื่องเสียงระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ AM, FM, MP3, AUX, USB, Bluetooth
• ระบบนำทาง Navigation System และระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ inkanet
• ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในส่วนของภายในห้องโดยสาร 

4. รีวิวเครื่องยนต์ MG5 2018 (เอ็มจี 5 2018)

อีกจุดเด่นของ MG5 คือทางเลือกในเรื่องของขุมกำลัง ที่มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เทอร์โบ สำหรับใครที่ต้องการในเรื่องอัตราเร่งที่เร้าใจยิ่งกว่า แค่ธรรมดาทั่วไปโดยรายละเอียดของเครื่องยนต์ใน MG5 2018 มีดังต่อไปนี้

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5L + Turbo

กับเครื่องยนต์เบนซินรหัส 15S4G ขนาด 1.5L 4 สูบ 16 วาล์ว TCI-TECH พ่วงระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 129 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 210 Nm ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed พร้อมลูกเล่นกับโหมด Sport-Manual รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกหน้า-หลัง

เครื่องยนต์ 1.5L + Turbo

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5L 

รหัสเครื่องยนต์ 15S4C 1.5L แบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว VTi-TECH ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 135 Nm ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed พร้อมมีโหมด Sport-Manual มาให้เล่นด้วยเช่นกัน รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกหน้า-หลัง

เครื่องยนต์ขนาด 1.5L 

5. รีวิวความปลอดภัย MG5 2018 (เอ็มจี 5 2018)

เรื่องความปลอดภัยถือเป็นหนึ่งเรื่องสำคัญที่ทาง MG5 ใส่รายละเอียดไม่น้อย ที่เมื่อช่วงเปิดตัวชูเรื่องนี้ไว้เป็นจุดเด่นกับชุดระบบความปลอดภัยที่มีชื่อว่า “9 Integrated Active Safety Systems” รวมไว้ซึ่งระบบความปลอดภัย 9 จุดล้ำ ๆ ดังต่อไปนี้ 

• SCS - Stability Control System ระบบควบคุมการทรงตัว
• TCS - Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
• MSR - Motor control Slide Retainer ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน
• HAS - Hill Start Assist System ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
• ABS - Anti-lock Braking System ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน
• EBD - Electronic Brake Force Distribution ระบบช่วยกระจายแรงเบรก
• EBA - Electronic Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์
• CBC - Curve Brake Control ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง
• ITPMS - Indirect Tire Pressure Monitor System ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง

MG5 อัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยพื้นฐานของยุคนี้เต็มระบบ 

ระบบความปลอดภัยอื่น ๆ 

• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
• กล้องมองภาพขณะถอยจอด 
• เซนเซอร์สัญญาณกะระยะขณะถอยจอด
• กุญแจ Immobilizer

ซึ่งจะว่าไปแล้ว ระบบความปลอดภัยทั้ง 9 นี้ดูดีจัดเต็มใช้ได้ แต่ยังไม่ค่อยเป็น “ที่สุด” ของเทคโนโลยีนัก ยังไม่มีการใช้เรดาห์หรือกล้องเข้ามาช่วยให้เรื่องความปลอดภัยขณะขับขี่ มีแค่กล้องถอยจอดกับเซ็นเซอร์ระวังหลัง ไปจนถึงการที่มีมาให้ซึ่งถุงลมแค่สองใบคู่หน้าเท่านั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งเบอร์ต้นของตลาด ก็อาจจะดูด้อยกว่าเล็ก ๆ ไม่หวือหวา แต่โดยพื้นฐานก็พอใช้ได้ “ไม่ขี้เหร่” 

6. สรุป

MG5 คืออีกนิยามทางเลือกในแบบเก๋งซีดานที่อาจเป็นคำตอบของคุณได้ เมื่อสิ่งที่ให้มากับตัวรถคันนี้ ถือว่าตอบโจทย์ได้ครบทุกมิติในการใช้งาน ไม่จำเป็นอีกแล้วที่เก๋งขนาด B-Segment หรือ SubCompact จะเป็นแค่เก๋งขนาดเล็กที่ดูน่าเบื่อ ต้องซื้อไปเพื่อให้แค่ตรงงบประมาณที่วางไว้เท่านั้น แต่ MG5 ได้มอบอารมณ์ที่พิเศษยิ่งกว่า ด้วยดีไซน์แบบรถยุโรปทั้งภายนอกและภายใน เครื่องยนต์มาพร้อมกับทางเลือกในแบบ Turbo สุดยิ่งกว่า รวมไปถึงความปลอดภัยที่อัดแน่นไว้เต็มคัน 

ถ้าเบอร์ต้นของตลาดยังไม่ใช่คำตอบคุณ ลองให้ที่ MG5 มาเป็นทางเลือกอีกตัวของคุณดูสิ  

และถ้ารถในคลาสเดียวกันหลาย ๆ รุ่นอาจจะยังไม่ใช่คำตอบสำหรับคุณ เหตุผลอะไรที่คุณจะไม่ลองพิจารณารถรุ่นนี้ MG5 2018 เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เผื่อคำตอบสุดท้ายอาจจะเป็นรถเชื้อสายยุโรป-จีนคันนี้ก็เป็นได้ ที่คุณจะได้นั่งอยู่หลังพวงมาลัย  

ดูเพิ่มเติม:
ราคาและตารางผ่อน ALL NEW MG3 HATCHBACK “WE ARE FUN” แค่ลองเปลี่ยน ก็สนุก มีความสุขอย่างมีสีสัน
เปรียบเทียบ Ford Fiesta กับ Mazda2 น่าขับทั้งคู่แล้วจะซื้อคันไหนดี ?