รีวิว Ford Ranger Raptor 2022 เครื่องยนต์ใหม่ 397 แรงม้า

Sunsawon 28 มี.ค. 2565 | 1 View | รีวิว

รีวิว Ford Ranger Raptor 2022 ขุมพลังใหม่ ขนาด 3.0 ลิตร Twin-Turbo EcoBoost ส่งกำลัง 397 แรงม้า ปรับการขับขี่ตามสภาพถนนได้ 7 โหมด ราคา 1.869 ล้านบาท

1. แนะนำ Ford Ranger Raptor 2022

เปิดตัวพร้อมจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ในงานมอเตอร์โชว์ 2022 ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Ford Ranger Raptor 2022 (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรปเตอร์) เจเนเรชันที่ 2 โดยมีการใช้เครื่องยนต์ใหม่ที่ปรับตามมาตรฐาน Ford Performance และเพิ่มเติมอุปกรณ์บางส่วนเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ และอำนวยความสะดวกในระหว่างเดินทาง มีให้เลือกเพียง 1 รุ่นเท่านั้น คือ 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT

สำหรับสีตัวถัง ฟอร์ด เรนเจอร์ แรปเตอร์ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ประกอบด้วย

สีดำ ABSOLUTE BLACK
สีขาว ARCTIC WHITE
สีส้ม CODE ORANGE (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
สีเทา CONQUER GREY (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

Ford Ranger Raptor 2022

2. ภายนอก Ford Ranger Raptor 2022

ดีไซน์คมเข้ม ดุดัน สะดุดตาด้วยกระจังหน้า FORD ขนาดใหญ่สีดำเข้ม ที่สอดรับกับไฟส่องว่างกลางวันรูปตัว C ได้อย่างดี มากับไฟหน้า Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้ายและไฟตัดหมอกหน้า LED ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางออลเทอเรน BFGoodrich KO2 ขนาด T285/70 R17 ตัวถังขยายกว้างพิเศษ ความยาว 5,360 มม. ความกว้าง 2,028 มม. ความสูง 1,926 มม. โดยมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,270 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 272 มม.

อุปกรณ์ภายนอก

ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟวิ่งกลางวันและไฟท้ายแบบ LED
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
ไฟตัดหมอกหน้า LED
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
ไฟส่องสว่างข้างตัวรถตัว
ถังขยายกว้างพิเศษ
บันไดข้างอะลูมิเนียมพ่นผิวกันลื่นสีดำ
พื้นปูกระบะท้าย พร้อมช่องต่อไฟ 12V และ 230V
ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift
แผ่นโลหะกันกระแทกใต้ท้องรถชนิดพิเศษ Raptor
ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางออลเทอเรน BFGoodrich KO2 ขนาด T285/70 R17

Raptor 2022 สมตำแหน่งกระบะสายลุย

ดีไซน์แข็งแกร่ง

3. ภายใน Ford Ranger Raptor 2022

ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง โปร่งโล่ง เบาะนั่งใช้หนังและหนังสังเคราะห์ เฉพาะแบบ Raptor โดยออกแบบมาให้ยึดแน่นกับตัวรถ เพื่อการขับขี่สมรรถนะสูง โดยออปชันอำนวยความสะดวกและระบบความบันเทิงมาอย่างครบครัน อาทิ แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจรีโมตอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ตรถอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบ FordPass Connect ฯลฯ

Ford Ranger Raptor 2022 ยังมีการติดตั้งระบบ Active Valve Exhaust เข้ามาอีกด้วย ทำให้สามารถปรับระดับเสียงท่อได้ 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮาที่มีระบบ Anti-Lag System เร่งแซงได้ตามใจ

นอกจากนี้ ยังสามารถระบบเลือกโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดลื่นไถล โหมดโคลน โหมดทราย โหมดบาฮา และโหมดปีนหิน เลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามใจ วิ่งได้อย่างมั่นใจทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะบนทางเรียบหรือขรุขระ

อุปกรณ์ภายในและความสะดวกสบาย

หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว
กุญแจรีโมตอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ตรถอัตโนมัติ
แท่นชาร์จไร้สาย
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติพร้อมช่องต่อ USB
ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร
ช่องต่อไฟ 12V 1 ช่อง พร้อมช่องต่อไฟ 230V 1 ช่อง
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
ระบบปรับอากาศสําหรับผู้โดยสารตอนหลัง
เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง
เบาะหนังและหนังสังเคราะห์ เฉพาะแบบ Raptor
หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบสั่งงานด้วยเสียง
ระบบ FordPass Connect
ช่องต่อ USB 4 จุด
ระบบเสียง Bang & Olufsen พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
ระบบ Active Valve Exhaust ปรับระดับเสียงท่อ 4 โหมด
ช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch
ระบบนําทาง Navigation

ภายในห้องโดยสารหว้างขวาง โปร่งโล่ง

4. เครื่องยนต์ Ford Ranger Raptor 2022

ขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ EcoBoost V6 ให้พละกำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 583 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ทำงานประสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4A-4WD

เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 3.0 ลิตร

5. ความปลอดภัย Ford Ranger Raptor 2022

Ford Ranger Raptor 2022 ได้ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยมาอย่างหลากหลายเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง เช่น ถุงลมนิรภัย 7 จุด กล้องมองรอบคัน 360 องศา ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบตรวจจับลมยาง เป็นต้น

อุปกรณ์ความปลอดภัย

ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
ถุงลมนิรภัย 7 จุด : คู่หน้าด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย / ถุงลมบริเวณหัวเข่า
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
ระบบควบคุมเสถียรภาพการ ทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control พร้อม Electric Brake Booster
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC
เบรกมือไฟฟ้า
สัญญาณกันขโมยแบบ Volumetric
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
ระบบเตือนการชนด้านหน้า
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด
กล้องมองรอบคัน 360 องศา
ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
ระบบตรวจจับลมยาง