รถเสียบนทางด่วนควรทำอย่างไร รบกวนคำตอบด้วยนะครับ ?

สวัสดีครับในระหว่างไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมามีเหตุรถจอดเสียบนทางด่วนแล้วเกิดโดนชนท้ายส่งผลให้เกิดอันตรายแก่เจ้าของรถ พวกพี่ๆมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไรเมื่อต้องพบเข้ากับเหตุการณ์รถเสียบนทางด่วนบ้างครับ รบกวนคำตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 

สมเดช ผ่องเรืองรอง (taetae_somdech@hotmail.com)

โทรศัพท์ฉุกเฉินบนทางด่วน

สวัสดีครับ คุณสมเดช

สำหรับข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุรถเสียบนทางด่วนนั้นสามารถทำได้ไม่ยากนักเริ่มต้นเพียงแค่ผู้ขับขี่อย่าตกใจกับสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น ควรตั้งสติแล้วทำการแก้ไขโดยเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินแล้วชะลอรถชิดไปทางด้านซ้าย (ขอบทาง) และจอดให้เกือบชิดกับรั้วกั้นขอบทางให้มากที่สุดเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือ รถชนซ้ำซ้อนที่จะเกิดกับตัวผู้ขับขี่ได้ จากนั้นจึงโทรแจ้งไปที่ 1543 สายด่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อแจ้งเรื่องรถเสียไม่สามารถขับขี่ไปต่อได้

ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรบอกเล่ารายละเอียดให้ครบถ้วน เช่น หมายเลขทะเบียนรถ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ตำแหน่งของรถที่จอดเสียอยู่ในบริเวณใด รวมถึงในกรณีที่มีผู้บาดเจ็บต้องแจ้งจำนวนให้แน่ชัดเพื่อให้หน่วยกู้ภัยจัดกำลังมาช่วยเหลือตรงตามความต้องการของผู้ประสบเหตุ หากต้องการรถลากควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบเพื่อความสะดวกแก่ตัวผู้ขับขี่ เมื่อโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่แล้วในระหว่างที่รอผู้มาช่วยเหลือผู้ขับขี่ควรนั่งรออยู่ภายในรถโดยคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เสมอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการถูกเฉี่ยวชนกับรถที่ขับขี่อยู่บนทางด่วน

ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง

ส่วนในกรณีที่ผู้ขับขี่ประสบเหตุรถเสียขณะเดียวกันก็ไม่ได้พกพาโทรศัพท์เคลื่อนที่มาด้วย หรือ โทรศัพท์มือถือแบตหมดก็สามารถที่จะเดินหาโทรศัพท์ฉุกเฉินที่ติดไว้ทุกๆ 50 เมตรบนทางด่วน โดยผู้ขับขี่เพียงแค่กดปุ่มโทรศัพท์ก็จะมีเจ้าหน้าที่รอรับสายอยู่ที่ปลายทางไม่ต้องกดหมายเลขใดๆทั้งสิ้น เมื่อเจ้าหน้าที่รับสายควรบอกรายละเอียดให้ครบถ้วนรวมถึงตำแหน่งที่รถจอดเสียซึ่งสามารถสังเกตได้จากหลักกิโลเมตรที่ติดอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรเดินให้ชิดกับขอบทางมากที่สุดทั้งไป-กลับ เพราะรถบนทางด่วนต้องขับขี่โดยใช้ความเร็วเสมออาจมาเฉี่ยวชนกับตัวผู้ขับขี่ในระหว่างที่เดินหาตู้โทรศัพท์ได้เช่นกัน

นอกจากนี้แล้วผู้ขับขี่ควรพกกรวยสำหรับใช้กั้นแนวรถขนาดเล็ก หรือ ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงติดรถไว้เพื่อนำมาตั้งขวางไว้ให้ห่างจากตัวรถด้านหลังประมาณ 30 เมตร ป้องกันไม่ให้รถคันอื่นชนท้าย อีกทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นสัญญาณเตือนว่ามีรถประสบเหตุจอดเสียอยู่ด้านหน้าช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น แต่หากประสบเหตุรถเสียในช่วงกลางคืนสามารถที่จะใช้ไฟฉายส่งสัญญาณเตือนรถที่วิ่งมาได้นอกเหนือจากการใช้สัญญาณเตือนไฟกะพริบจากตัวรถเพียงอย่างเดียว

สำหรับผู้ที่ประสบเหตุรถเสียบนทางด่วนควรตั้งสติอย่าตกใจแล้วนำแนวทางข้อปฏิบัติในข้างต้นไปประยุกต์ใช้งานได้เพื่อป้องกันตนเองจากอุบัติเหตุรถชนที่อาจเกิดขึ้นได้