Toyota เตรียมทดสอบใช้ปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการขับขี่ในปี 2020

Toyota วางแผนเริ่มทำการทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบ Self-Driving เป็น AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่มีความสามารถเรียนรู้ได้เพิ่มเติมได้จากข้อมูลที่เก็บลักษณะการใช้งานรถของมนุษย์เข้ามาช่วยในการขับขี่ประมาณช่วงปี 2020  [caption id="attachment_706" align="aligncenter" width="600"] Concept-i รถยนต์ไฟฟ้าคันต้นแบบจาก Toyota ที่มีการใส่ความสามารถต่างๆ
ในการสื่อสารกับผู้ขับขี่ด้วย[/caption] ภายใต้แนวคิดที่เคยเผยก่อนหน้านี้ในงาน Customer Electronics Show ที่ลาสเวกัส ตัวรถจะสนทนากับผู้ขับขี่ได้และยังพัฒนาเรียนรู้ด้วยตัวเอง เก็บข้อมูลการใช้งาน ลักษณะนิสัยการขับขี่ของคนไว้ ไม่ต่างกับเพื่อนร่วมทางทุกครั้งที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย โดย Toyota เผยว่า “การนำนวัตกรรมของ AI มาใช้ในรถยนต์ เพื่อต้องการให้ช่วยและพัฒนาการขับขี่รถของคนหรือผู้ขับทำได้ดีขึ้น เปลี่ยนแนวคิดว่ารถเป็นเพียงแค่วัตถุ แต่จะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี คอยช่วยให้คำแนะนำและช่วยขับผ่านระบบ Self-Driving ให้แก่ผู้ใช้งาน” Makoto Okabe ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนของ Toyota ได้กล่าว ไม่ว่าการแข่งขันกับผู้ผลิตทั่วโลกและไหนจะบริษัทที่พัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยี Self-Driving Toyota วางเดิมพันกับเรื่องนี้ไว้ที่งบประมาณสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาระบบ Self-Driving ขั้นสูงที่มี AI สามารถทำงานร่วมได้ Concept-i รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ซึ่งจะมีระยะการเดินทางได้ 300 กิโลเมตร (180 ไมล์) ในการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังสามารถคาดเดา ซึมซับความรู้สึกในการขับขี่ของคนโดยการอ่านท่าทางและน้ำเสียงที่แสดงออกมา [caption id="attachment_707" align="aligncenter" width="600"] การขับขี่ผ่านระบบ Self-Driving ระดับสูงไม่เพียงแต่รถจะขับเองอัตโนมัติ แต่จะรถจะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทางของผู้ขับขี่ด้วย[/caption] การเก็บข้อมูลนี้จากผู้ขับขี่ของ AI จะทำให้รถมีความสามารถในการทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้ช่วย ให้คำแนะนำในการขับขี่เมื่อถึงสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย เช่น AI ประเมินว่าผู้ขับขี่เหนื่อยล้าเกินไป ความสามารถในการควบคุมรถมีน้อยเกินกว่าจะขับขี่ได้ จะทำการโทรเข้าเครื่องของผู้ขับขี่เพื่อกระตุ้นและเตือนให้จอดพัก เป็นต้น โลกเปลี่ยนแปลงการพัฒนาของทุกธุรกิจก็มีมากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ต้องแข่งขันพัฒนานำเทคโนโลยีที่ผู้ใช้รถอาจไม่รู้ว่าสำคัญ แต่เมื่อได้ลองใช้แล้วอาจเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่าง AI ที่จะเข้ามาช่วยทำให้รถไม่ได้เป็นเพียงแค่โลหะเคลื่อนที่ แต่จะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางตลอดทุกเส้นทางให้ผู้ขับขี่