หม้อน้ำอลูมิเนียม หม้อน้ำทองแดง ต่างกันอย่างไร

เชื่อว่าคนมีรถยนต์หลายท่านคงจะไม่สามารถรับรู้ระบบของรถทั้งคันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีกลไกการทำงานที่ซับซ้อนและไม่สามารถเข้าใจได้ง่าย หรือแม้แต่เรื่องบางอย่าง เช่น หม้อน้ำ ที่แท้จริงแล้วจะประกอบไปด้วยหม้อน้ำหลายประเภท แต่เราก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่ารถยนต์ของเราใช้หม้อน้ำแบบไหน และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนขึ้นมาหรือว่าหม้อน้ำเกิดแตกและรั่ว แล้วมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ ผู้ใช้งานควรจะเลือก หม้อน้ำ อ ลู มิ เนียม หรือ หม้อน้ำ ทองแดง วันนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบในบทความนี้

หม้อน้ำ คืออะไร ?

นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่คนมีรถควรให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับหม้อน้ำ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่คอยทำหน้าที่แลกเปลี่ยนความร้อน เพื่อระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์ ส่งผลทำให้เครื่องยนต์เกิดอุณหภูมิที่เหมาะสมในช่วงเวลานั้น โดยส่วนใหญ่แล้วอุณหภูมิที่เหมาะสมของเครื่องยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 85-92 องศาเซลเซียส สำหรับวิธีการทำงานของหม้อน้ำคือการนำน้ำจากผนังเสื้อสูบเข้าสู่หม้อน้ำด้านบน แล้วปล่อยให้ไหลไปตามท่อน้ำที่ทำมาจากโลหะที่สามารถถ่ายเทความร้อนได้เป็นอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ความร้อนมีอุณหภูมิที่ลดลงไปจากเดิมและน้ำส่วนนี้ก็จะกลับเข้าสู่ผนังเสื้อสูบอีกครั้งหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วหม้อน้ำยอดนิยมที่ผู้คนส่วนใหญ่หรือวงการยานยนต์ใช้กันคือ หม้อน้ำอลูมิเนียม กับหม้อน้ำทองแดง ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร

หม้อน้ำอลูมิเนียม

มาเริ่มกันที่หม้อน้ำแบบแรกคือหม้อน้ำอลูมิเนียมหรือ หม้อน้ำมิเนียม ด้วยคุณสมบัติของอลูมิเนียมที่ร้อนเร็วและสามารถเย็นเร็วได้จึงทำให้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี โดยมีน้ำหนักรวมทั้งหมดเบากว่าและมีความสวยงามมากกว่า โดย หม้อ น้ํา มิ เนียม จะทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องคอยกังวลว่าจะเป็นสนิมหรือไม่ เพราะหม้อน้ำอลูมิเนียมหมดห่วงเรื่องปัญหาของสนิม มาดูข้อดีของ หม้อ น้ํา อ ลู มิ เนียม ดี ไหม กันว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง

ข้อดี

• มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดีกว่าทองแดง
• มีน้ำหนักเบาที่เบา
• มีความสวยงาม
• ราคาถูก

ข้อเสีย

• มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าทองแดง
• เมื่อหม้อน้ำเกิดการรั่วซึมจะไม่สามารถซ่อมได้และต้องเปลี่ยนลูกใหม่ทันที
• ช่างทั่วไปไม่สามารถทำได้ ต้องเป็นช่างเฉพาะทางเท่านั้น
• อายุการใช้งานสั้น

หม้อน้ำทองแดง

สำหรับหม้อน้ำอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในการใช้งานไม่แพ้หม้อน้ำอลูมิเนียม นั่นก็คือหม้อน้ำทองแดง โดยหม้อน้ำทองแดงจะเป็นโลหะที่เคลือบด้วยตะกั่วที่ไม่ได้เป็นทองแดงล้วนทั้งหมด สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีเช่นกัน แต่โดยรวมแล้วเรื่องการถ่ายเทความร้อนจะน้อยกว่าหม้อน้ำแบบอลูมิเนียม และหม้อน้ำทองแดงยังสามารถทำปฏิกิริยาที่เกิดสนิมขึ้นได้ รวมทั้งยังสามารถซ่อมแซมได้ง่ายกว่าหม้อน้ำอลูมิเนียม ซึ่งหากใช้ไปเป็นเวลานานแล้วหม้อน้ำเกิดการรั่วซึมก็สามารถซ่อมหม้อน้ำได้โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนลูกใหม่ทั้งหมด

ข้อดี

• มีความทนทานสูง
• สามารถซ่อมได้ง่าย
• มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหม้อน้ำอลูมิเนียม
• สามารถเพิ่มช่องความจุของน้ำได้มากกว่า

ข้อเสีย

• มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนน้อยกว่าหม้อน้ำอลูมิเนียม
• เนื่องจากใช้ตะกั่วในการเชื่อมต่อจึงทำให้ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• มีราคาสูงกว่าหม้อน้ำอลูมิเนียม

อ่านเพิ่มเติม:

• วิธี ล้าง ยางมะตอย ออก จาก รถที่ทำด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ
• วิธีปะยางรถยนต์ แบบสตรีมและใยไหม ต่างกันอย่างไร ?

หม้อน้ำอลูมิเนียมระบายความร้อนได้ดีกว่าจริงหรือไม่

หากพูดถึงหลักทฤษฎีค่าสัมประสิทธิ์ของทองแดงจะมีการนำความร้อนได้มากกว่าอลูมิเนียม จึงสามารถบ่งบอกได้ว่าทองแดงให้การระบายความร้อนได้ดีกว่าอลูมิเนียม แต่ในปัจจุบันผู้คนมักใช้งานหม้อน้ำอลูมิเนียมมากว่าทองแดงเพราะว่าทองแดงมีคุณสมบัติการถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่า แต่มีการใช้ทองแดงผสมกับทองเหลืองหรือตะกั่วเป็นตัวเชื่อมประสานที่ไม่ใช่เป็นทองแดงแบบ 100% ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ขัดกับกระแสโลกในยุคปัจจุบัน

ควรเลือกใช้หม้อน้ำแบบไหน

หากผู้ใช้งานมีความต้องการใช้หม้อน้ำที่ให้ในเรื่องของความทนทานและสามารถซ่อมได้ง่ายโดยช่างทั่วไปก็สามารถทำได้ หม้อน้ำทองแดงจึงตอบโจทย์ได้ดีกว่า แต่ในปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วหม้อน้ำอลูมิเนียมจะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากมีน้ำหนักที่เบาสบาย สวยงาม และสามารถระบายความร้อนได้ดี เมื่อเกิดปัญหาหม้อน้ำรั่วซึมก็ต้องทำการเปลี่ยนลูกใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ การเลือกใช้งานประเภทของหม้อน้ำก็ขึ้นอยู่ความพึงพอใจและความต้องการของผู้ใช้งานที่จะสามารถรับรู้ได้ดีที่สุดว่าหม้อน้ำแบบไหนตอบโจทย์

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหม้อน้ำอลูมิเนียมหรือหม้อน้ำทองแดง ทั้งสองรูปแบบก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ผู้ใช้งานจะรู้ดีที่สุดว่าหม้อน้ำแบบไหนเหมาะกับความต้องการของเราและตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorot.com/