All-new Audi RS 7 Sportback 2020 ซูเปอร์สปอร์ตซีดานสายแข็ง แรงระดับ 600 แรงม้า

All-new Audi RS 7 Sportback 2020

All-new Audi RS 7 Sportback 2020 เปิดตัวอย่างแซ่บด้วยพละกำลังมหาศาลในแบบซูเปอร์สปอร์ตซีดานหุ่นบาดใจ แถมยังล้ำเทคโนโลยีสมกับคำขวัญประจำตัว “Vorsprung durch Technik” ไว้ทาบรัศมีคู่แข่งตัวแรงร่วมชาติอย่าง Mercedes-AMG GT 4-Door Coupe 2019 รวมถึง BMW 8 Series Gran Coupe 2019 ซึ่งฝูงม้า 600 ตัว จากเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ไมลด์ไฮบริด ใน All-new Audi RS 7 Sportback 2020 จะพาไปได้ถึงความเร็ว 305 กม./ชม. !

All-new Audi RS 7 Sportback 2020 สปอร์ตแบบ Coupe ด้วยแนวหลังคาลาดแบบ Fastback

สำหรับดีไซน์หลักของ All-new Audi RS 7 Sportback 2020 คือความเหมือนที่แตกต่างกับ Audi A7 Sportback 2019 ด้วยตัวถังแบบ Wide Body ซุ้มล้อกว้าง เพราะมีการขยายความกว้างของฐานล้อหน้า-หลังออกไปมากกว่าปกติ แถมยังเตี้ยกว่า 20 มม. บวกกับล้อลาย 5 ก้าน ที่ใช้เป็นขนาด 21 นิ้ว ยาง Low Profile หน้ากว้าง 275/35 ยิ่งช่วยเสริมให้รถมี Stance หรือท่ายืนที่สปอร์ตมั่นคง นี่ยังไม่นับชุดกันชนและกระจังหน้าลาย Honeycomb ใหม่ สไตลิ่งของ All-new Audi RS 7 Sportback 2020 จึงดูดุดัน คุกคามมากขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่า  All-new Audi RS 7 Sportback 2020 ไม่ได้สปอร์ตแค่รูปทรงด้วยสไตล์ตัวถัง Fastback 5 ประตู เท่านั้น แต่ขุมพลังใต้ฝากระโปรงก็สร้างความสปอร์ตให้สมบูรณ์ครบถ้วน โดยเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้จะเป็นแบบ วี 8 สูบ ขนาดความจุ 4.0 ลิตร หัวฉีดตรง TFSI ทำงานร่วมกับมอเตอร์ ขนาด 48 โวลต์ แบบ Mild Hybrid ให้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ช่วง 2,050-4,500 รอบ/นาที

เครื่องยนต์ V8 4.0 TFSI เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 48 โวลต์ (Mild Hybrid)

ส่งผลให้ซูเปอร์สปอร์ตซีดาน (จริง ๆ เป็นแบบ 5 ประตู Fastback เพื่อให้ดูเป็นรถ Coupe) สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.6 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม. หรือถ้าอยากจะไปได้เร็วกว่านั้น Audi มีแพ็กเกจปลดล็อกให้เลือก คือ Dynamic Package ขยายขีดจำกัดไปได้ 280 กม./ชม. และ Dynamic Plus Package ที่ 305 กม./ชม.

นอกจากนี้เครื่องยนต์ Mild Hybrid ใน All-new Audi RS 7 Sportback 2020 ยังสามารถหยุดการทำงานของลูกสูบจาก 8 สูบ เหลือ 4 สูบ ได้เมื่อเครื่องยนต์ไม่มีโหลดมาก (ขับแบบเบา ๆ ไม่เน้นพละกำลัง โดยที่ซุ่มเสียงยังเร้าใจอยู่) เพื่อความประหยัด แต่หากต้องการกำลังหรือเร่งกระบอกสูบทั้ง 8 จะกลับมาทำงานอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

หรือถ้าหากมีการถอนคันเร่งที่ความเร็วระหว่าง 55-160 กม./ชม. ระบบจะสั่งงานตามสถานการณ์ให้ชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่หรือดับเครื่องยนต์ให้วิ่งแบบปล่อยไหล (Coast) และกลับมาทำงานใหม่ได้อย่างนุ่มนวลเมื่อเหยียบคันเร่ง นี่ยังไม่รวมระบบ Start-Stop ที่ล้ำหน้า (ทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 22 กม./ชม.) หากรถคันหน้าเคลื่อนตัว เครื่องยนต์จะสตาร์ตโดยอัตโนมัติ

ในการขับขี่ปกติ ระบบสามารถตัดการทำงานจาก 8 สูบ เหลือ 4 สูบได้ อัตโนมัติ

ส่วนภายใน  แน่นอนว่าไฮเทค ซึ่งเต็มไปด้วยจอแสดงผลและสั่งงานแบบสัมผัสเหมือน Audi A7 Sportback 2019 แต่บรรยากาศสร้างความตื่นเต้นเร้าใจกว่า ทั้งจากการใช้โทนสี วัสดุ Trim ตกแต่ง รวมถึงเบาะทรงสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa เย็บลอน Rhombus (สีเหลี่ยมขนมเปียกปูน) พวงมาลัย 3 ก้าน แบบปาดเรียบด้านล่างหุ้มอัลคันทารากันลื่น

เบาะแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Valcona เย็บลอน Honeycomb ในภาพเป็นออปชั่นเลือกสั่งติดตั้งเพิ่ม

สำหรับทางด้านสมรรถนะการขับขี่บังคับควบคุม All-new Audi RS 7 Sportback 2020 จะได้ระบบกันสะเทือนสปริงลมแบบแปรผัน (Adaptive air suspension) ที่เซตมาสำหรับรุ่น RS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อรองรับความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม. ได้อย่างมั่นคง ซึ่งปรับระดับได้อัตโนมัติ โดยความสูงของตัวรถจะลดลงอีก 10 มม. เมื่อวิ่งเร็วกว่า 120 กม./ชม. หรือสามารถสั่งเพิ่มความสูงได้ถึง 20 มม. (กรณีข้ามเนินหรือทางต่างระดับ) ตามต้องการ แต่หากอยากได้ความมั่นใจเพิ่มขึ้นสามารถสั่งติดตั้งระบบกันสะเทือน RS sport พร้อมระบบ Dynamic Ride Control และระบบเลี้ยว 4 ล้อ  เพื่อรองรับการขับขี่ที่ฮาร์ดคอร์มากขึ้น จะมีให้เลือกในรายการออปชั่น

ระบบกันสะเทือน RS Sport พร้อมระบบ Dynamic Ride Control รองรับการขับขี่ที่ฮาร์ดคอร์มากกว่าปกติ

ทั้งนี้  All-new Audi RS 7 Sportback 2020 จะเริ่มวางจำหน่ายในเยอรมนีรวมถึงกลุ่มประเทศอื่นในแถบยุโรปได้ก่อนช่วงปลายปี 2019 ซึ่งตอนนี้ยังไม่ประกาศราคา แต่ที่แน่ ๆ มาเพื่อดับความร้อนแรงของ BMW M850i xDrive Gran Coupe และ Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ แน่นอน

ดูเพิ่มเติม

• Ramsmobile RM-X2 ไฮเปอร์คาร์ ในร่าง SUV มาพร้อมขุมพลัง 999 แรงม้า
• เผยโฉม Ferrari F8 Spider ม้าลำพองเปิดประทุน ขุมพลัง V8 ตัวใหม่ที่แรงที่สุด !