เกร็ดความรู้ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางไกล

Sunisa Pramoj 21 มิ.ย. 2561 | 9 View | ขับรถอย่างปลอดภัย

วันหยุดอันแสนมีค่าของทุกๆคน หลายคนจะใช้ช่วงเวลานี้เดินทางกลับบ้านเกิดหรือเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งการที่ทุกคนใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็เพื่อความสะดวกสบาย แต่ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางนั้น ควรตรวจสอบสภาพรถยนต์และเช็คระบบต่างๆเพื่อความปลอดภัยด้วยนะค่ะ และเกร็ดความรู้ที่เราจะมานำเสนอ ในวันนี้ก็คือการตรวจเช็คระบบเครื่องยนต์ก่อนออกเดินทาง

เช็คน้ำมันเครื่อง

“เช็คน้ำมันเครื่อง” หากขาดน้ำมันเครื่องไปสิ่งที่ตามมาก็คือปัญหาเครื่องยนต์ถึงขั้นพังได้เพราะเครื่องยนต์จะขาดน้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ปัญหาต่างๆ ทั้งลูกสูบติด ฝาสูบโก่ง เครื่องความร้อนขึ้น ทุกปัญหาเกิดจากการขาดน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องทำได้ไม่ยาก แค่เปิดกระโปรงรถเปิดมองหาตำแหน่งจุดตรวจสอบน้ำมันเครื่อง จะมีก้านพลาสติกให้ตรวจสอบ ดึงออกมาแล้วดูว่าจุดของน้ำมันเครื่องอยู่ในตำแหน่ง L หรือ Low หรือเปล่า ถ้าใช่ก็เติมด่วน

ดูเลย: ภาษีรถยนต์ ราคา

เช็คระบบหล่อเย็น

“เช็คระบบหล่อเย็น” อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องตรวจสอบมากที่สุด เราควรตรวจสอบการทำงานของระบบหล่อเย็นเสมอทุกครั้ง เช็คดูว่าในระบบหล่อเย็นหรือน้ำในหม้อน้ำยังมีน้ำอยู่ไหม ถ้าเกิดเห็นหม้อน้ำมีปริมาณน้ำลดลงมากกว่าปกติ นี่คือสัญญาณที่บอกว่าคุณต้องตรวจสอบก่อนเดินทางไกลอย่างด่วน

เช็คยาง

“เช็คยาง” เราควรตรวจสอบยางด้วยทุกครั้งทั้งลมยางและดอกยาง ตรวจสอบลมยางก่อนว่ามีปริมาณลมตรงกับมาตรฐานที่ควรจะเป็นไหม ซึ่งรถทุกคันจะมีข้อมูลปริมาณลมยางที่เหมาะสมบอกไว้อยู่ และตรวจสอบดอกยางเพราะหากดอกยางหมดโอกาสที่รถจะเกาะถนนไม่อยู่มีสูงมาก ฃเสี่ยงที่รถจะเกิดอาการไถล ไม่อย่างนั้นยางระเบิดอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิต

เช็คผ้าเบรก
เช็คผ้าเบรค

“เช็คผ้าเบรค” อีกส่วนที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ การฝืนใช้ผ้าเบรคจนหมดนอกจากจะเบรคไม่อยู่ สิ่งที่ตามมาคือจานเบรคสึก ซึ่งจานเบรคสึกเมื่อเจอกับผ้าเบรคจะทำให้รถเกิดเสียงเตือนจำเป็นต้องซื้อจานเบรคมาเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต

เช็คระบบส่องสว่าง
เช็คระบบไฟส่องสว่าง

“เช็คไฟส่องสว่าง” จุดหลักๆ ของไฟส่องสว่างที่ควรเช็คหลักๆ ได้แก่ ไฟหน้ารถ ไฟสูง ไฟท้าย ไฟเลี้ยวทั้งสิงข้าง และไฟเบรคทั้งสองข้าง ส่วนไฟเลี้ยวที่ต้องส่งสัญญาณบอกคนอื่นว่าเราจะเลี้ยวก็สำคัญบางจุดคุณจะกลับรถแต่ไฟเลี้ยวเสีย รถคันอื่นที่ตามมาหลังคุณมาเขาไม่สามารถรับรู้กับคุณได้แน่นอนว่าจะเลี้ยวหรือหยุด

เช็คแบตเตอรี่

“เช็คแบตเตอรี่” รถยนต์ใช้แบตเตอรี่ในการสตาร์ททั้งนั้นถ้าแบตหมดรถก็สตาร์ทไม่ติด วิธีตรวจสอบแบตเตอร์คือใช้เครื่องมือวัดโวลต์ของแบตรถยนต์ ถ้าสตาร์ทติดยากแล้วเป็นรถที่ใช้มานานเกินสองปีสันนิษฐานเบื้องต้นเลยว่าแบตหมด หากมีอุปกรณ์วัดโวลต์ไฟแบบพกพาก็สามารถเอามาช่วยตรวจสอบได้เพื่อความชัวร์ แรงดันอยู่ที่ 13.8 – 14.2 โวลต์ ถือว่าปกติ

เช็คของเหลวอื่นๆ

“เช็คของเหลวอื่นๆ” ในรถยังมีของเหลวอื่นๆ ที่สำคัญนอกจากน้ำมันเครื่อง และน้ำหล่อเย็น ได้แก่น้ำมันเบรค, น้ำมันครัช, น้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันพาวเวอร์ มีผลในการควบคุมพวงมาลัย เปิดใต้กระโปรงรถจะเห็นกระปุกน้ำมันต่างๆ ในคู่มือเลยมีบอกไว้อย่างละเอียด ส่วนน้ำยาแอร์ก็มีผลต่อความสบาย ถ้ารู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นก็เติมด้วยนะค่ะ

ดูเพิ่มเติม:

10 ข้อที่ควรรู้เมื่อขับรถกลางคืน

4 เทคนิคยืดอายุยางรถยนต์ให้ยาวนาน

เกร็ดความรู้ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางไกล

โปรโมชั่น ดูทั้งหมด

โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ