"อาการหลับใน" อันตรายสุดๆ แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยตัวคุณเอง

อาการหลับใน

ทุกวันนี้สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน 90% จะเกิดจากมนุษย์ผู้ขับขี่  ซึ่งก็มาจากความประมาทและการขับขี่ที่ยังไม่ชำนาญหรือมือใหม่หัดขับนั้นเอง  แต่มือใหม่หัดขับก็น่าจะเป็นเพียงส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเป็นประเภทมือเก่ามืออาชีพที่ชอบแสดงศักยภาพแสดงความเก๋าเป็นเจ้าถนน ซึ่งก็เกิดจากความประมาทจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่เรื่อยๆ แบบรายชั่วโมงกันเลยทีเดียว ซึ่งความประมาทของผู้ขับขี่นั้นก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ไม่เคารพกฎจราจร แต่ความประมาททั้งสองอย่างนี้ก็สามารถแก้ไขและปรับเปลี่ยนได้ในทันทีถ้าผู้ขับขี่มีจิตสำนึก แต่มีอีกหนึ่งความประมาทที่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนได้ในทันที ซึ่งนั้นก็คือ "อาการหลับใน"

• มือใหม่หัดขับรถยนต์ ควรปฏิบัติอย่างไร กับการออกถนนครั้งแรก
• ขับรถขณะฝนตกควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุ

การหลับในนั้นถือว่าเป็นความประมาทของผู้ขับขี่ที่น่ากลัวมากๆ เพราะอาการหลับในนั้นบางครั้งผู้ขับขี่จะไม่รู้ตัวมาก่อนด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังจะหลับใน หรือไม่รู้เลยว่าในช่วงเวลาที่ขับขี่รถอยู่นั้นตัวเองจะมีอาการหลับในขึ้นมาเมื่อไหร่ เพราะผู้ขับขี่บางคนจะมีอาการสะสม ไม่ว่าจะเป็นการอดนอน พักผ่อนไม่เพียง การทำงานหนักจนเกิดความเมื่อยล้า  สะสมรวมๆ กันนานหลายวัน แต่ก็ยังต้องขับรถและก็ยังฝืนคิดว่าตัวเองยังสามารถขับรถไหว และอาจจะเกิดอาการหลับในได้โดยไม่ตั้งตัว และถ้าเมื่อใดที่ผู้ขับขี่เกิดอาการหลับในสติในการควบคุมการขับขี่ก็จะลดลงและแทบจะไม่มีเลย ไม่สามารถควบคุมรถได้อีกต่อไป สุดท้ายก็ต้องจบลงที่การเกิดอุบัติเหตุ

ดูเลย:  วิธีจองคิวทําใบขับขี่

ซึ่งอาการหลับในนั้นก็จะเริ่มจากการรู้สึกง่วงนอนมากๆ ในระหว่างการขับขี่ก็จะรู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อยล้าบริเวณต้นคอ ตาจะปิดตลอดเวลา หูไม่ค่อยได้ยิน และจะเริ่มรุนแรงขึ้นจนกระทั่งมีอาการเหมือนคนหูหนวก ตาบอด และหลับกลางอากาศคือหมดสติไปชั่วขณะ บางคนอาจจะแค่วูบและกลับมีสติควบคุมรถได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าใครที่ร่างกายอ่อนเพลียมากๆ และร่างกายรับไม่ไหวก็อาจจะหลับในหมดสติไปนานหลายวินาทีจนทำให้เสียการควบคุมรถและเกิดอุบัติเหตุได้

อาการหลับใน

ซึ่งถ้าหากใครที่รู้สึกว่าจะมีอาการหลับในก็อย่าฝืนควรจะจอดรถพักหรือทำตามวิธีต่างๆ ดังนี้ดู รับรองว่าช่วยได้อย่างแน่นอน

• เปิดเพลงดังๆ จังหวะเร็วๆ เอาแบบที่เร้าใจมากที่สุดเท่าที่มีในตอนนั้น เพราะจะทำให้รู้สึกตื่นตัวมากกว่าฟังเพลงช้า
• ปิดแอร์ เปิดกระจกเพื่อให้ลมธรรมชาติจากภายนอกพัดเข้ามา เพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถ และทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น
• หาผลไม้รสเปรี้ยวเคี้ยวเพื่อกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัวและสดชื่น
• ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ หรืออมน้ำแข็ง เพื่อให้รู้สดชื่น
• ถ้ามีเพื่อนร่วมทางก็ให้เพื่อนร่วมทางช่วยขับแทนและพักผ่อน แต่ถ้าไม่มีเพื่อนร่วมทางช่วยขับก็ให้จอดพักทุกๆ 100 กิโลเมตร หรือพักทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
• จอดรถ ณ ที่พักรถ ล้างหน้าเพื่อให้สดชื่นและนอนพักสัก 10-15 นาที

แต่ถึงแม้ว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ที่เริ่มรู้สึกว่ามีอาการหลับในให้รู้สึกดีขึ้น แต่วิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คืออย่าฝืนร่างกายตัวเอง ถ้าไม่ได้พักผ่อนหรือรู้สึกว่ามีอาการเมื่อยล้าก็อย่าฝืนขับรถควรจะหาผู้ช่วยหรือเปลี่ยนเป็นการนั่งรถโดยสารจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและเพื่อนร่วมชะตากรรมบนถนน

ดูเพิ่มเติม

• มือใหม่หัดขับมีเฮ กรมขนส่งฯ ประกาศเปิดจองคิวอบรมใบขับขี่ออนไลน์
• จริงๆ แล้วโช๊คอัพ มีอายุการใช้งานกี่ปี