มือใหม่ควรรู้ ขับรถบนถนนสายหลักยังไงให้ปลอดภัย

สำหรับมือใหม่หัดขับนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการขับรถบนถนนสายหลักถือเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายพอสมควร ด้วยการจราจรที่คับคั่งและเร่งรีบ การตัดสินใจที่ทันท่วงที ตลอดจนการขาดประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญบนท้องถนน แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ถนนสายหลักได้ ดังนั้น การรู้จักแนวทางการขับรถบนถนนสายหลักให้ปลอดภัยก็เป็นอีกสิ่งนึ่งที่มือใหม่หัดขับควรรู้ ดังต่อไปนี้

ข้อปฏิบัติบนท้องถนนเส้นหลักที่มือใหม่หัดขับควรรู้

1. เว้นระยะห่างจากคันข้างหน้าอย่างเหมาะสม

ในการเว้นระยะห่างจากคันข้างหน้านั้น ถือว่ามีผลค่อนข้างมากในการขับขี่บนถนนเส้นหลัก เนื่องจากการขับรถในถนนที่มีรถวิ่งแทบจะตลอดเวลานั้น มักจะมีการเบรกอย่างกระทันหันหรือกระชั้นชิดเกิดขึ้น หรือการเปลี่ยนเลนรถ ดังนั้น การเว้นระยะห่างจากคันข้างหน้านั้นจะช่วยให้มีระยะเบรกที่เพียงพอต่อการหยุดรถโดยกะทันหัน เพราะหากขับจี้ตูดหรือระยะห่างน้อยเกินไป อาจจะทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกันได้

2. ห้ามขับตามรถที่สูงกว่า

ในการขับรถนั้น หากเจอรถบรรทุกหรือรถที่มีความสูงมากกว่า จะต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นจะถูกบดบัง และเราจะไม่สามารถเห็นเหตุการณ์ด้านหน้าได้เลย และการแซงนั้น ก็ควรที่จะแซงในช่วงเวลาที่รถไม่เยอะจนเกินไป เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้

การขับตามรถบรรทุกจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง

• มือใหม่หัดขับรถยนต์ ควรปฏิบัติอย่างไร กับการออกถนนครั้งแรก
• มือใหม่หัดขับควรรู้ เทคนิคถอยหลังให้ปลอดภัยหายกังวล

3. ห้ามขับแช่ขวา

ในการขับรถในด้านขวานั้น เหมาะสำหรับการขับทางตรงที่ยาวและใช้ความเร็วมากกว่ารถที่อยู่เลนด้านซ้าย หรือการสัญจรของรถบรรทุกเป็นหลัก ดังนั้น การขับแช่ขวาถือเป็นการกีดขวางการจราจรและยังก่อให้เกิดอันตรายด้วย เพราะรถคันหลังที่ขับมามักจะมาด้วยความเร็วสูง อาจจะทำให้เบรกไม่ทันและเกิดอุบัติเหตุได้ หากรู้ตัวว่าเป็นคนขับรถด้วยความเร็วปานกลางไปจนถึงช้า ควรที่จะขับเลนกลางหรือเลนซ้ายมากกว่า เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนนั่นเอง

4. หากเปลี่ยนเลนให้เปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง

การใช้รถบนถนนเส้นทางหลักนั้นถือเป็นถนนเส้นที่ใช้ความเร็วกันค่อนข้างมาก ดังนั้นหากต้องการจะเปลี่ยนเลนในการวิ่ง ควรที่จะเปิดไฟสัญญาณเพื่อให้รถคันอื่นรู้ต้องการจะเปลี่ยนเลนในการวิ่ง ทั้งนี้ การให้สัญญาณนั้น คือการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง หากไม่บอกผู้อื่นแล้วก็จะไม่มีใครเดาใจได้ ไม่ใช่ว่าอยากจะเปลี่ยนเลนก็ทำทันที แต่การให้สัญญาณควรจะทำแล้วกะเวลาในการออก ไม่ใช่เปิดพอให้ไฟกะพริบครั้งเดียวแล้วออกเลย เพราะรถคันอื่นจะเตรียมตัวไม่ทัน จนอาจจะทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกันได้

การเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้งก่อนเปลี่ยนเลน

5. ให้ทางผู้อื่นเมื่ออยู่ในระยะที่ปลอดภัย

ในการขับขี่รถนั้น หากมีคนเปิดไฟเลี้ยวขอทาง ในระยะที่สามารถเบรกเพื่อให้ทางกับรถที่ขอทางได้ ควรที่จะให้ทางผู้อื่น เพื่อแสดงความมีน้ำใจต่อกัน ซึ่งบางครั้งเราจะเห็นว่า หากมีการขอทางเกิดขึ้น จากที่ขับรถสบายๆ และไม่ได้เร่งรีบมาก กลับเหยียบคันเร่งเพื่อไม่ให้ทางอีกฝ่าย มารยาทในลักษณะนี้ถือว่าไม่ควรกระทำบนท้องถนน เพราะอาจจะทำให้เกิดการวิวาทได้ หรือหากร้ายแรงกว่านี้ก็คือการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นเอง

6. ใช้ความเร็วตามเกณฑ์มาตรฐาน

ในการขับขี่รถบนท้องถนนที่เป็นเส้นทางหลักนั้น จะต้องยอมรับว่าส่วนมากมักจะขับรถด้วยความเร็วสูง หรือบางคนอาจจะขับมากกว่า 100 Km./hr. เลยก็ได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เนื่องจากการจราจรที่ยากจะคาดเดา ดังนั้น ถึงแม้จะขับรถด้วยความเร็วอย่างไรก็ตาม ควรอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด

การขับรถโดยไม่เกินความเร็วที่กฎหมายกำหนดไว้

7. ง่วง เมา และใช้โทรศัพท์ ห้ามขับโดยเด็ดขาด

สังเกตได้ว่า ในปัจจุบันการเกิดอุบัติเหตุนั้น ส่วนมากมักมีสาเหตุมาจากการง่วงหรือเมาแล้วขับรถด้วยกันทั้งนั้น เนื่องด้วยความไม่พร้อมของร่างกายและสติสัมปชัญญะที่ไม่เต็มร้อย จึงทำให้การควบคุมการขับขี่ลดลง หากรู้ว่าตนเองง่วงหรือเมา ให้หยุดพักก่อนเสียดีกว่า เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะเสียหายได้ หรือบางครั้ง อาจจะทำให้ผู้อื่นถึงขั้นเสียชีวิต หากมีความพร้อมแล้วจึงค่อยเดินทางต่อจะดีกว่า ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างแน่นอน และพฤติกรรมอีกอย่างหนึ่งที่มักจะทำกันก็คือ การใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะความสนใจจะหันไปจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์แทน จนไม่สามารถควบคุมรถได้ดีเท่าที่ควร

หากง่วง เมา หรือใช้โทรศัพท์ไม่ควรขับรถโดยเด็ดขาด

สรุป

การใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางหลักนั้น ถือว่าต้องมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะด้วยรถที่ค่อนข้างหนาตา และการขับขี่ที่รวดเร็วตามสภาพการจราจรที่เร่งรัดนี้เอง จึงทำให้ผู้ขับขี่หลายคนต้องเรียนรู้แนวทางการขับขี่ที่ถูกต้องเสียก่อน รวมไปถึงมารยาทที่พึงกระทำกับเพื่อนร่วมถนนคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การขับขี่รถนั้นจะต้องอยู่บนความไม่ประมาทไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม

อ่านเพิ่มเติม

• CHEVROLET BLAZER 2019 ครอสโอเวอร์ทรงสปอร์ต เคาะราคาเริ่มต้นที่ 29,995 USD
• ราคาและตารางผ่อน TOYOTA VIOS 2018 รถเก๋ง 4 ประตู ซีดาน ที่มาพร้อมกับดีไซน์หรูระดับพรีเมียม
• ใบขับขี่หมดอายุได้กี่วัน