จ่ายค่าปรับจราจร ที่ไหนได้บ้าง ?

เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องไปถึงสน.ก็จ่ายค่าปรับได้แล้วนะ หากโดนใบสั่งคุณสามารถจ่ายค่าปรับได้หลากหลายช่องทางให้คุณเลือกชำระค่าปรับจราจรได้ง่าย ๆ ตามความสะดวก ทั้งตามมินิมาร์ท ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน และจ่ายค่าปรับ ออนไลน์ ดังนี้

ดูเพิ่มเติม:   อัตราค่าปรับจราจร ที่ผู้ใช้รถควรรู้ ข้อหาไหน จ่ายเท่าไหร่?

จ่ายค่าปรับจราจร ได้ที่ไหนบ้าง?

• เคาน์เตอร์เซอร์วิส (Counter Service) ทุกสาขาที่เซเว่น-อีเลฟเว่น
• CenPay ที่มีอยู่ในเซ็นทรัล, Tops, แฟมิลี่ มาร์ท, โรบินสัน, B2S, ไทวัสดุ, HomeWork, Power Buy และ Super Sports
• ธนาคารกรุงไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ในแอปพลิเคชัน KTB NETBANK, ตู้ ATM และ เคาเตอร์ทุกสาขา
• ที่ทำการไปรษณีย์ หรือจุดที่มีสัญลักษณ์ PTM ทั่วประเทศ

ถ้าไม่จ่ายค่าปรับ จะเป็นอย่างไร?

1. ชำระภาษีประจำปีไม่ได้

ปัจจุบัน มีการเชื่อมข้อมูลใบสั่งลงในระบบออนไลน์ หากจ่ายค่าปรับจราจร เกินกําหนด หรือได้ใบสั่งมาแล้วไม่จ่ายค่าปรับภายใน 30 วัน คุณจะโดนหมายจับ พร้อมโทษปรับ 1,000 บาท และจะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ ถ้านำรถไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายจราจร ฐานไม่ต่อภาษียานพาหนะ มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท 

ดูเพิ่มเติม>>

• โดนใบสั่ง แต่ไม่จ่ายค่าปรับ จะเป็นไรรึเปล่า?
• เซ็ง! โดนใบสั่ง ที่ไม่ได้ทำผิด ทำไงดี?

ชำระภาษีประจำปีไม่ได้

2. โดนพักใช้ใบขับขี่

สำหรับกรณีโดนพักใบขับขี่ คุณจะโดนหักคะแนนความประพฤติ ไปตั้งแต่ 1-2 คะแนน หากถูกตัดจนหมด 12 คะแนน จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน (3 เดือน) และต้องเข้ารับการอบรมใบขับขี่ใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ หากทำผิดจนโดนพักใช้ใบขับขี่ 3 ครั้ง ภายใน 3 ปี จะถูกพักใช้นาน 1 ปี และถ้าทำผิดซ้ำอีกในปีถัดไป จะโดนเพิกถอนใบขับขี่ ต้องเสียเวลารออีก 5 ปี ถึงจะทำใหม่ได้

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าโดนใบสั่ง หากไม่มีใบสั่งมาถึงบ้าน? คุณสามารถตรวจสอบใบสั่งได้ง่าย ๆ ที่เว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket โดยมีขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนตรวจสอบใบสั่งออนไลน์

1. เข้าไปที่เว็บไซต์  https://ptm.police.go.th/eTicket หากยังไม่ได้ลงให้คลิกไปที่ “ลงทะเบียน”

2. จากนั้น กรอกรายข้อมูลการลงทะเบียนให้ครบถ้วน ได้แก่

• เลขประจำตัวประชาชน
• วัน/เดือน/ปีเกิด
• ชื่อ - นามสกุล
• Laser ID (เลขหลังบัตรประชาชน)

แล้วคลิกปุ่ม "ถัดไป"

3. เมื่อเข้าสู่หน้าลงทะเบียนที่สอง ให้เลือก “ข้อมูลรถที่ครอบครอง หรือ ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่”  อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วกรอกรายละเอียดลงไป

หากเลือก “ข้อมูลรถที่ครอบครอง” ต้องกรอกรายละเอียด อันได้แก่

• ประเภทรถ
• หมวดตัวอักษร
• หมวดตัวเลข
• จังหวัด

แต่ถ้าเลือก “ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่” จะกรอกรายละเอียด ดังนี้

• ชนิดใบอนุญาต
• ประเภทใบอนุญาต
• เลขที่ใบอนุญาต
• วันที่ออกใบอนุญาต

4. เมื่อกรอกรายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อย ระบบจะแสดงข้อมูลทั้งหมดให้คุณได้ตรวจสอบ เมื่อเช็กแล้วว่าข้อมูลถูกต้องให้กรอกอีเมลล์ เพื่อรับรหัส 6 หลัก และยืนยันตัวตน

5. หลังจากได้รหัสเรียบร้อย ให้กรอก validation code เพื่อยืนยันข้อมูล และใส่รหัสผ่านลงไป (อย่างน้อย 8 ตัว) แล้วกดปุ่ม “ลงทะเบียน” พร้อมยอมรับเงื่อนไข เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

6. เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว กลับสู่หน้าหลัก แล้วระบุ “เลขประจำตัวประชาชน” และ “รหัสผ่าน” ที่ลงทะเบียนแล้วเข้าสู่ระบบ เพื่อเช็กใบสั่งออนไลน์ได้เลย!

7. ตรวจสอบใบสั่งออนไลน์ได้ โดยระบุข้อมูล ประกอบด้วย

• วันที่กระทำผิด
• ทะเบียนรถ
• เลขที่ใบสั่ง

หากมีใบสั่ง ระบบก็จะแสดงข้อมูลใบสั่งนั้น ๆ ขึ้นมา แต่ถ้าไม่มีก็จะแสดงภาพ ตามรูป

การชำระค่าปรับจราจรสามารถเลือกจ่ายได้หลายช่องทาง ทั้งยังสามารถตรวจสอบใบสั่งจราจรออนไลน์ได้ง่าย ๆ ในไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น หากใครมีค่าปรับค้างชำระอยู่ อย่าลืมไปจ่ายกันด้วย